ชทพ.จับมือภาคธุรกิจ จัดโต๊ะเสวนาสร้างภาพปรองดอง ร่วมรัฐบาลลดความขัดแย้งคนในชาติ ต้นเหตุต่างชาติดูถูก ทำนักลงทุนต่างชาติเบื่อหน่ายหนีไทยไปลงทุนอินโดฯ นักท่องเที่ยวผวาไม่กล้ามาไทย ไม่ไว้ใจสถานการณ์ “เสธ.หนั่น” ชี้ หลังเลือกตั้งความขัดแย้งไม่ยุติ ส่งผลรัฐบาลใหม่อยู่ไม่ได้ ทำเศรษฐกิจพัง แตกแยกกว่าเดิม คุยโว 21 มิถุนาฯ พร้อมประกาศแผนปรองดองแห่งชาติ
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่โรงแรมแชงกรี-ลา พรรคชาติไทยพัฒนา ได้จัดเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยนโยบายปรองดอง โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรค ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกับตัวแทนนักธุรกิจจาก 5 สมาคม โดย นายดุสิต นนทนากรณ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการสร้างความปรองดองในประเทศ เพราะไม่มีประเทศไหนที่ทะเลาะกันแล้วเจริญ น่าเสียดายที่คนไทยทะเลาะขัดแย้งกัน ตอนนี้หลายประเทศดูถกเรา เห็นว่า ไทยมีแต่ความขัดแย้ง แม้นักลงทุนต่างประเทศจะเห็นว่าไทยเป็นเมืองที่น่าลงทุนที่สุด แต่หากเรายังทะเลาะ ขัดแย้ง สร้างความวุ่นวาย นักลงทุนก็จะย้ายการลงไปทุนที่ไปอินโดนีเซีย และเวียดนาม พวกเราทุกคนจะเป็นผู้แพ้ หมดเวลาแล้วที่เราจะทะเลาะเบาะแวงกันในคนไทยด้วยกัน มีแค่คนหยิบมือเท่านั้นที่ต้องการความรุนแรง ภาคธุรกิจสนับสนุนสร้างความปรองดอง ยุติความขัดแย้ง ไม่อย่างนั้นไม่มีใครกล้าลงทุน
ขณะที่ นางปิยะมาศ เตชะไพบูลย์ ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศ กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบโดยตรงจากความรุนแรง และความขัดแย้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวมีแรงงานอยู่ 2.5 ล้านคน ก็ได้รับผลกระทบ รายได้จากการท่องเที่ยวปีละล้านล้านบาท ก็ได้รับผลกระทบ 2 ปีที่ผ่านมา เราต้องเดินทางไปต่างประเทศทุก 6 เดือน เพื่อชี้แจงให้กลับมาท่องเที่ยวไทยได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความไว้ใจต่อสถานการณ์ ขอเถอะอย่าได้ทะเลาะ สร้างความวุ่นวาย อยากเห็นแนวทางการปรองดองของ พล.ต.สนั่น สัมผัสได้ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของสนับสนุนนโยบายนี้
ทางด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรองดองเป็นสิ่งที่สำคัญต่อประเทศชาติ ภาคธุรกิจทุกคนเบื่อหน่ายสภาพการเมือง 4-5 ปีที่ผ่านมา ในเรื่องของความขัดแย้ง ว่า เมื่อไรจะหยุดเสียที นักลงทุนต่างชาติก็เบื่อหน่ายประเทศไทย มีคำถามมากมายว่า เมื่อไรจะยุติลงเสียที ถึงเวลาที่เราจะต้องพาประเทศไทยเดินหน้าไปข้างหน้าให้ได้ ด้วยการสร้างความปรองดอง เพื่อพื้นฐานเศรษฐกิจเราดี แต่ภาพลักษณ์ความไม่มั่นใจนักลงทุนสูงมาก ภาคธุรกิจต้องการเห็นการเมืองมีความมั่นคง ต่อเนื่องในนโยบาย
ด้าน นายไพบูลย์ นรินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ขอสนับสนุนนโยบายปรองดอง และเน้นความโปร่งใส คนในตลาดทุนต้องการสิ่งเหล่านี้มาก นักลงทุนกลัวนโยบายการลงทุนหลังการเลือกตั้งไม่ต่อเนื่อง กลัวการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และข้าราชการกลัวการกลั่นแกล้งในการโยกย้ายข้าราชการ ความไม่ต่อเนื่องนโยบายเป็นสิ่งที่นักธุรกิจกลัวที่สุด เพราะฉะนั้นการริเริ่มการปรองดอง ความต่อเนื่องนโยบาย เป็นเรื่องที่ประเทศชาติ นักธุรกิจต้องการมากที่สุด หากประเทศไทยหลังการเลือกตั้งไม่สามารถยุติความขัดแย้งได้ การย้ายตลาดการลงทุนไปอินโดนีเซียจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ภาคตลาดทุนสนับสนุนการปรองดอง
ขณะที่ทางด้าน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ทุกคนเดือดร้อนมาก เป็นความเดือดร้อนอย่างเท่าเทียมทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ และ ประชาชน ถ้าไม่ปรองดอง คนไทยทั้งประเทศไม่ร่วมมือกัน รัฐบาลใหม่เข้ามาก็อยู่ไม่ได้ การทะเลาะเบาะแวงก็ยังมีอยู่ และหนักกว่าเดิม และเศรษฐกิจก็จะพัง ตนอาสาเป็นคนกลางประสานพรรคการเมืองทุกพรรค ลด ละ เลิก บางสิ่งบางอย่างเพื่อให้เกิดความปรองดองในประเทศ ซึ่งจะประกาศแผนปรองดองแห่งชาติ อย่างเป็นทางการวันที่ 21 มิ.ย.ว่า จะมีแผนอย่างไร ทำวิธีไหน