xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ดูที่เกิดเหตุปาระเบิด พธม. ถูกโห่ใส่ “โหวตโน” หนีแทบไม่ทัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มาร์ค” สั่ง รปภ.ปรับแผนดูแลรักษาความปลอดภัยกลุ่มพันธมิตรฯ หลังเกิดเหตุปาระเบิดใส่เวทีปราศรัย รุดดูที่เกิดเหตุเจอโห่ “โหวตโน” หนีแทบไม่ทัน เปลี่ยนแผนเยี่ยมคนเจ็บ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์คนร้ายขว้างระเบิดใส่หลังเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนกำลังตรวจรายละเอียด และขอให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับแกนนำพันธมิตรฯ ว่าจะจัดระบบอย่างไร ตนกำลังจะให้รายงานละเอียดเข้ามา เพราะปกติตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่อยู่รอบๆ แต่เข้าใจว่ากรณีนี้ขว้างมาจากด้านหลังเวทีที่เกินแนวรั้วและสะพาน โดยคงต้องเข้มงวดกันมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นสัญญาณก่อเหตุวินาศกรรมเพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปสรุปแบบนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบลักษณะอาวุธที่ใช้เป็นอย่างไรก่อน และเร่งดำเนินการ

ส่วนที่แกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดูแลการชุมนุมนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่จริงมีเจ้าหน้าที่อยู่รอบๆ แม้ไม่ใช่กฎหมายความมั่นคงแล้ว แต่มีการทำแผนดูแลไม่ให้เกิดปัญหาแต่เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ต้องมีการปรับแนวทาง เมื่อถามว่าแกนนำพันธมิตรฯ บอกว่าเหตุที่เกิดเพราะพันธมิตรฯ รณรงค์เรื่องโหวตโน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่สอบสวน อย่าคาดเดาเอาเองเรื่องจะเกี่ยวกับใครก็ดำเนินการ จะเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ไม่ทราบรายละเอียด

ผู้สื่อข่ารายงานว่า นายอภสิทธิ์พร้อมคณะได้ไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุหลังเวทีพันธมิตรฯโดยสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยรายงานประมาณ 2 นาที ในช่วงนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ รู้ว่านายกรัฐมนตรีมาดูที่เกิดเหตุก็พากันวิ่งตะโกนคำว่า “โหวตโน” จนทำให้นายกฯ ต้องรีบขึ้นรถออกจากที่เกิดเหตุทันที จากนั้นได้เดินทางไปยัง รพ.หัวเฉียว เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ 10 และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบ.น.1 รอต้อนรับและรายงาน แต่ปรากฏว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่างการผ่าตัด นายกฯ จึงได้เข้าพูดคุยสอบถามภรรยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแทน

โดยภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ไม่เห็นคนร้ายแต่คิดว่าจะมาจากฝั่งสหประชาชาติ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะพยายามติดตามคดีอย่างเต็มที่ ตนกำชับ พล.ต.อ.พงศพัศกับ พล.ต.ต.วิชัย ไปแล้วว่าบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ต้องปรับแผน และคิดว่าไม่ถึงขั้นต้องประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการพิจารณาคดีปราสาทพระวิหารว่า แนวทางที่ไทยได้ชี้แจงต่อศาลโลกนั้น มีความชัดเจน ในเรื่องของข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย แต่กัมพูชามีความพยายามพูดเกินเลย ซึ่งขณะนี้คงประเมินอะไรไม่ได้ จนต้องรอฟังคำวินิจฉัย ซึ่งตนเชื่อและตั้งใจ ที่จะรอรับฟังข่าวดี ส่วนคำตัดสินของศาลโลกจะทำให้ปัญหาไทย-กัมพูชายุติลงหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลเท่านั้น








กำลังโหลดความคิดเห็น