แม้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยเกือบทุกเขตมาแล้ว ได้สร้างภาพยืนถ่ายภาพกับชาวบ้านกลางทุ่งกุลาร้องไห้สำเร็จ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการปราศรัยใหญ่ที่บึงพลาญชัย ร้อยเอ็ดเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่เพื่อไทยก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ว่าจะชนะยกจังหวัด เพราะบางจังหวัดก็เจอตัวแข็งจากพรรคอื่นเช่นกัน
โดยเฉพาะที่แข่งกันรุนแรง อยู่ที่เขต 3 ซึ่ง นิรมิต สุจารี เจอกับ รัชนี พลซื่อ ผู้สมัครส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน(ชพผ.) ที่ก่อนหน้านี้ไปอยู่กับภูมิใจไทยมากว่าปี แต่ถึงวันลงสมัครรับเลือกตั้งจริงๆ ก็ไปสมัครวันสุดท้ายกับชพผ.
กว่าที่ “รัชนี” จะเขยื้อนออกจากภูมิใจไทยได้ ก็ชุลมุนพอสมควร เพราะมีคนเห็นกันจะๆ ทีมงานรัชนีและสามี คือเอกภาพ พลซื่อ หอบเอาเงินสดใส่กระเป๋าใบใหญ่ไปขอพบเนวิน ชิดชอบ ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
นัยว่า เพราะฝ่ายทีมตระกูลพลซื่อเกรงว่าหากออกไปดื้อๆ ไม่ใช่แค่โดนด่าไล่หลังโทษฐานที่มาแถลงข่าวเปิดตัวเข้าภูมิใจไทย จนได้เงินอัดฉีดจากพรรคไปเต็มที่แล้ว ยังได้โครงการต่างๆ ทั้งของมหาดไทยและคมนาคมไปลงพื้นที่เลือกตั้ง ทำให้ได้คะแนนนิยมจากคนในเขตเลือกตั้ง แล้วพอถึงการเลือกตั้งกลับจะมาสะบัดตูดออกไปดื้อๆ ก็เลยกลัวสักวันจะโดนเอาคืนสักวันบ้าง
กลุ่มแกนนำภูมิใจไทยแต่ละคน ก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องแยกมิตร แยกศัตรู
ทำให้คนซึ่งแวะเวียนไปมาแถวๆ พรรคภูมิใจไทย เห็นทีมงานของรัชนีต้องมาดักรอเพื่อหอบเงินสดๆมาคืนเนวินและแกนนำพรรคจะได้ไม่มีบุญคุณต่อกันและกินแหนงแคลงใจกัน เดิมมีข่าวว่าน่าจะเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทแต่สุดท้ายคนภูมิใจไทยบอกไม่ถึงแค่ 3 แสน แต่รัชนียืนกรานว่า ไม่มีเพราะไม่เคยได้เงินจากภูมิใจไทยสักบาท ทั้งหมดเป็นการดิสเครดิตกันก่อนเลือกตั้ง
แต่ที่ทำให้พวกภูมิใจไทยแค้นไม่น้อยก็คือ การที่รัชนี พลซื่อ กลับไปอยู่กับพินิจ อีกครั้งที่ชทพ. ซึ่งเป็นฝ่ายแค้นกับภูมิใจไทยอยู่แล้ว ทำแบบนี้เท่ากับว่าอยู่กับภูมิใจไทยมาปีกว่า มานั่งแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่า ชอบนโยบายปกป้องสถาบัน ชอบแนวทางพรรค ที่แท้ก็มาหลอกกันชัดๆ
แม้ก่อนหน้านี้ ทางภูมิใจไทยจะพอรู้ระแคะระคายอยู่แล้วว่า รัชนี น่าจะมาขออาศัยบารมีของภูมิใจไทยที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลคุมมหาดไทย-คมนาคม เพื่อจะได้ผันเอางบประมาณไปลงพื้นที่ได้ จะได้เอาเป็นผลงานในพื้นที่ไปหาเสียงกับประชาชน แต่สุดท้ายพอถึงเวลาก็จะย้ายกลับไปอยู่กับพินิจ จารุสมบัติตามเดิมที่เพื่อแผ่นดิน
โดยฝ่ายภูมิใจไทยก็รู้เรื่องนี้มาตลอด จึงไม่ไว้ใจรัชนี-เอกภาพ สองสามีภรรยามากนัก อีกทั้งก็คงเกรงว่าจะเอาข้อมูลลับๆ ในพรรคภูมิใจไทยไปให้ฝั่งพินิจ จารุสมบัติ แต่ลึกๆ ก็คงอาจหวังว่า กลุ่มตระกูลพลซื่อน่าจะเปลี่ยนใจเมื่อการเลือกตั้งมาถึง
อีกทั้งภูมิใจไทยเองก็สมประโยชน์ในตอนนั้น เพราะการมีส.ส.มาสังกัดอยู่มากๆ ก็ทำให้เนวิน ชิดชอบ นำตัวเลขส.ส.จากพรรคอื่นๆที่มาอยู่กับภูมิใจไทยไปอ้างกับประชาธิปัตย์เพื่อต่อรองทางการเมืองได้
เข้าทำนอง ได้ด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยสมประโยชน์กันไป จึงไม่แปลกที่เมื่อรัชนี ขอกลับไปอยู่กับพินิจ ที่ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จึงไม่ค่อยมีเสียงด่าไล่หลัง ก็คงเพราะต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์กันไปแล้ว
ยกเว้นแต่จะมีการสร้างข่าวผ่านแหล่งข่าวในพรรคว่า รัชนี มาอยู่กับภูมิใจไทยแล้วก็เอางบ-เอาโครงการไปหลายต่อหลายชิ้น ยังไม่ทันทำอะไรให้พรรคก็เปิดตูดแล้ว เข้าทำนองดิสเครดิตว่า คบไม่ค่อยได้ ทำเอาพวกพลซื่อฉุนขาด ทุกอย่างเลยจบกันไม่ค่อยสวย
ก่อนหน้าจะไปอยู่กับชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ก็มีข่าวว่า ประชาธิปัตย์ ให้ไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ หัวหน้าทีมเลือกตั้งอุดรธานีของประชาธิปัตย์ ทาบทามรัชนี ให้เข้าปชป.ตามหลัง นรพล ตันติมนตรี อดีตส.ส.เชียงใหม่ เพื่อแผ่นดิน
จนมีข่าวว่า รัชนี ก็เกือบไปแล้ว เพราะได้เงื่อนไขที่ปฏิเสธแทบไม่ลง แต่คงเพราะดูแล้ว ไปอยู่กับชทพ.น่าจะดีกว่าปชป.ที่กระแสในร้อยเอ็ดแทบไม่มี หาเสียงคงลำบาก
สู้อยู่กับชทพ.ที่แนวโน้มจะได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลชัวร์ไม่ว่าขั้วเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์