“องอาจ” ชี้ “ยิ่งลักษณ์” มีสิทธิ์วืดเก้าอี้นายกฯ ยันพรรคไม่มีประเพณี หน.พรรคต้องลาออกหากเลือกตั้งแพ้ ระบุกรณี “น้าญัติ” ทำตามคำพูดไม่ใช่ธรรมเนียม ไม่คิด “โหรห้อย” แย้มต้าน “มาร์ค” ย้ำส่งหัวหน้าขี้นเป็นนายกฯ ตามเดิม ชี้ “ขวัญชัย” พูดชัดแกนนำแดงเอี่ยวเพื่อไทยสั่งแดงป่วนที่ไหนก็ได้ ยันไม่มีจ้างคนมาจัดฉากป่วนตัวเอง
วันนี้ (26 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งว่า ในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นมีความเป็นไปได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่มีความแน่ใจและเคยระบุว่าผู้จะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยนั้นอาจไม่ใช่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ก็ได้ และพ.ต.ท.ทักษิณก็เคยมีการเสนอชื่อสมาชิกในพรรครายอื่นๆ อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นายโอฬาร ไชยประวัติ มาแล้ว แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นยืนยันว่าสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคอย่างแน่นอน ไม่มีโอกาสที่จะเป็นอย่างอื่น
ส่วนกรณีที่นายเนวินระบุว่าหากพรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้ง มีความเป็นไปได้ที่นายอภิสิทธิ์จะลาออกนั้น นายองอาจกล่าวว่า พรรคไม่มีประเพณีเรื่องหัวหน้าพรรคลาออกหลังแพ้การเลือกตั้ง แต่สำหรับกรณีของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคหลังการเลือกตั้งเมื่อปี 48 นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับประเพณีพรรค แต่เป็นเพราะในช่วงที่มีการรณรงค์แข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคภาย นายบัญญัติเคยระบุว่าถ้ามีการเลือกตั้งแล้วพรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าเดิมจะพิจารณาตัวเอง ซึ่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนั้นนายบัญญัติก็ลาออกไป อย่างไรก็ตาม ในสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค และไม่ได้รับการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งนายชวนก็ไม่ได้ลาออกแต่อย่างใด ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีประเพณี
“การเลือกตั้งในปี 35 พรรคประชาธิปัตย์ได้ 79 ที่นั่ง, ปี 38 ได้เป็น 86 ที่นั่ง, ปี 39 ได้ 123 ที่นั่ง, ปี 44 ได้ 130 จะเห็นว่าเพิ่มมาเรื่อย แต่พอปี 48 กลับลดลงมาเหลือ 96 ที่นั่ง จึงเป็นเหตุผลว่าท่านบัญญัติทำตามที่เคยพูดไว้ในการรณรงค์ภายในพรรค” นายองอาจกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่นายเนวินออกมาระบุเช่นนี้ถือเป็นการสร้างกระแสต้านนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้าหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า นายเนวินคงวิเคราะห์ทางการเมืองไปตามประสบการณ์ที่มีอยู่ ไม่ใช่เรื่องของกระแสต้านใดๆ ทั้งสิ้น พรรคประชาธิปัตย์ยังมีความมั่นใจในตัวนายอภิสิทธิ์อยู่
ถามย้ำว่า ได้มีการเตรียมการไว้หรือไม่ว่า หากนายอภิสิทธิ์ถูกสกัดเป็นนายรัฐมนตรีจะดันใครขึ้นแทน นายองอาจกล่าวว่า ไม่ได้มีการเตรียมการอะไร ยืนยันว่าผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 คือนายอภิสิทธิ์ จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามพรรคประชาธิปัตย์ หากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
นายองอาจยังกล่าวกรณีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ยืนยันหากนายอภิสิทธิ์ไปหาเสียงที่ จ.อุดรธานี กลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.อุดรธานี จะไม่ไปก่อกวนนายอภิสิทธิ์เพราะทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงแล้ว พร้อมทั้งระบุขอให้พรรคประชาธิปัตย์อย่าเอาเสื้อแดงเทียมมาก่อกวนเองว่า การที่นายขวัญชัยพูดเช่นนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าแกนนำคนเสื้อแดงที่มีบทบาทในพรรคเพื่อไทยสามารถสั่งการให้คนเสื้อแดงไปก่อกวนที่ไหน อย่างไรก็ได้ และเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ที่นายอภิสิทธิ์ไปหาเสียงที่ จ.สมุทรสาคร ก็โดนก่อกวนอีก ดังนั้น หากนายขวัญชัยสามารถสั่งการคนเสื้อแดงได้ ควรจะสั่งการให้คนเสื้อแดงไม่มาก่อกวนในทุกจังหวัดในประเทศไทย ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีพฤติกรรมที่จะไปจ้างคนมาใส่เสื้อสีใดแล้วมาก่อกวนพรรคการเมืองใดอย่างแน่นอน