หน.ชาติไทยพัฒนาดอดลงนามพันธสัญญาลือกตั้ง 5 ข้อ อ้างที่ประชุมพรรครับได้ แนะอย่าคุ้ยอดีตสาดโคลนหาเสียง อ้างทำไม่ปรองดอง ชี้พวกไล่ “มาร์ค” ไม่ควรทำ พร้อมทำหนังสือจี้ “องอาจ” ถอน 2 รายการช่อง 11 แล้ว วอนพันธมิตรฯ เปลี่ยนป้ายโหวตโน อ้างกลัวต่างชาติมองไม่ดี แนะอย่าเพิ่งเชื่อ “โหรห้อย” ชู 3 ข้อเสียบร่วมรัฐ หวัง ส.ส.แค่ 30 ที่นั่งพอ
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เดินทางมาเพื่อขอลงนามในพันธสัญญา 5 ข้อของ กกต.ที่ก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ได้ลงนามไปแล้วเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ทั้งนี้ นายชุมพลชี้แจงถึงเหตุผลที่มาลงนามในวันนี้ว่า หลังจากการประชุมครั้งนั้นได้แจ้งในที่ประชุมแล้วว่าจะนำกรณีดังกล่าวไปหารือกับพรรคก่อน เมื่อข้อกฎหมายและระเบียบที่ กกต.ออกมาแล้วที่ประชุมเห็นว่ายอมรับได้ โดยเฉพาะกรณีไม่ควรนำสถาบันมาช่วยหาเสียงไม่ว่าในทางใดโดยเด็ดขาด ซึ่งก็ปฏิบัติตาม แต่มีบางข้อเท่านั้นที่ยังไม่สามารถบังคับได้ ทางพรรคจึงมีมติให้ตนมาลงนามในพันธสัญญานี้ และในวันที่ 29 พ.ค.ที่ กกต.จัดเรื่องโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ ทางพรรคจะส่งตัวแทนไปเพราะตนติดภารกิจ
นายชุมพลกล่าวถึงบรรยากาศในการหาเสียงว่า อยากให้การหาเสียงเป็นไปโดยธรรมชาติเพื่อเป็นประชาธิปไตย และการปราศรัยก็เห็นว่าไม่ควรที่จะนำเรื่องส่วนตัว หรือขุดคุ้ยประวัติเก่าๆ มาพูด เพราะจะไม่สร้างบรรยากาศการปรองดอง อย่างไรก็ตาม ทางพรรคเราเป็นพรรคเล็กๆ ที่ยึดการปรองดองเป็นสำคัญ ส่วนกองเชียร์พรรคการเมืองต่างๆ ขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีความรุนแรงมากนัก แต่กรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการโห่ไล่ก็เป็นเรื่องไม่สมควร
นายชุมพลยังได้กล่าวถึงรายการที่วิเคราะห์การเมืองทางสื่อของรัฐว่า พรรคชาติไทยพัฒนาได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ดูและด้านสื่อให้ถอน 2 รายการเพราะส่อไปในทางที่ไม่ปรองดอง มีเนื้อหาโจมตีพรรคการเมืองอื่น แม้กระทั่งพรรคชาติไทยพัฒนาเองก็ยังถูกโจมตีด้วย เว้นเพียงพรรคแกนนำรัฐบาลเท่านั้นที่ไม่โดย
“สิ่งที่ผมเรียกร้องเนื่องจาก 2 รายการดังกล่าวส่อเจตนาโจมตีพรรคการเมืองอื่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่เคยแต่ต้องพรรคแกนนำรัฐบาลเลย หาก 2 รายการดังกล่าวอยู่ในช่องของเอกชนก็คงไม่มีใครไปว่า แต่นี่เป็นสื่อของรัฐ ไม่ควรทำอย่างนี้เด็ดขาด” นายชุมพลกล่าว
นายชุมพลกล่าวฝากไปยังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ขึ้นป้ายเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ว่า ตนเห็นว่าควรที่จะนำป้ายดังกล่าวลง เพราะ กกต.ก็ได้เชิญต่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้ง หากผ่านไปพบเห็นเขาก็จะเกิดภาพไม่ดี จึงขอให้เปลี่ยนบทบาทมาช่วย กกต.ตรวจสอบการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ ดีกว่า เพื่อจะได้เป็นการควบคุมดูแลการเลือกตั้งควบคู่กันไปด้วย
ส่วนกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกมาทำนายเหตุการณ์หลังการเลือกตั้งนั้น นายชุมพลกล่าวว่า การเลือกตั้งทุกครั้งก็มีการแสดงความคิดเห็นกันทุกครั้ง เรื่องดังกล่าวฟังได้แต่อย่าเพิ่งไปเชื่อการทำนายก็เป็นเช่นเดียวกับโพลที่ออกมาสำรวจความคิดเห็นประชาชนแต่ก็ยังเชื่อไม่ได้ ส่วนจะไปชี้นำประชาชนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าประชาชนมีวิจารณญาณเพียงพอ อย่างที่ จ.สุพรรณบุรีนั้นจะไปชี้นำอย่างไร ก็ชี้นำไม่ขึ้น เพราะเมื่อประชาชนมีคนรักคนชอบอยู่แล้วชี้นำไปก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อถามว่าผลโพลไม่เคยมีชื่อชาติไทยพัฒนาติดเข้ามาเลยแต่ก็เป็นรัฐบาลทุกครั้ง นายชุมพลกล่าวว่า การจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ เราต้องดูหลักการ 3 ข้อ 1.ผลประโยชน์ประเทศชาติ 2.การจัดการณขณะนั้น 3.เรื่องนโยบายและองค์ประกอบต่างๆ และเราก็มีจุดยืนของเราและมีศักดิ์ศรี และเป็นพรรคที่ประนีประนอม ถือได้ว่าเป็นพรรคผู้ใหญ่ เราได้ 30 เสียงก็พอใจแล้ว
