“ยิ่งลักษณ์” ระบุโคลนนิ่ง “ทักษิณ” ในความเป็นสายเลือด ได้เรียนรู้การทำงานมาโดยตลอด เผยภารกิจเร่งด่วน ขอเดินสายพบปะประชาชนเสนอนโยบายพรรค ส่วนเรื่อง “นิรโทษกรรม” เป็นกลไกให้เกิดการปรองดอง จะครอบคลุมทุกภาคส่วนให้เสมอภาคเท่าเทียมกัน จะทบทวนกระบวนการใช้หลักนิติธรรมตั้งแต่ 19 ก.ย.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการ “ตอบโจทย์ข่าว” ทางไทยพีบีเอส กล่าวถึงกรณีการเป็นนอมินี หรือโคลนนิ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ระบุว่าการที่ตนเป็นโคลนนิ่ง พ.ต.ท.ทักษิณนั้น คือ ความเป็นสายเลือด ตนได้รับรู้การทำงาน วิสัยทัศน์ และการมองโอกาสใหม่ๆ ตนได้เรียนรู้มา จากการติดตามใกล้ชิด การทำงานของพี่ชายมาตลอด ส่วนการทำงานของตนนั้นจะมีความเป็นตัวของตัวเอง โดยการทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยจะมีที่ปรึกษา และตนยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกๆ ท่าน และจะใช้ประสบการณ์ที่ตนผ่านการทำงานมาหลายองค์กร ใช้การบริหารจัดการในการตัดสินใจ
สำหรับภารกิจที่จะทำจะขอโอกาสไปพบปะประชาชนเพื่อนำเสนอนโยบาย จะผลักดันการบริหารงานการจัดการ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน จะใช้ความรู้ความสามารถ สำหรับเรื่องความปรองดอง คือจุดมุ่งหมายใหญ่ การนิรโทษกรรมเป็นกลไกหนึ่งที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ตามนั้น การปรองดองหมายถึงการสร้างสันติสุข ต้องเกิดจากทุกภาคส่วน จะต้องดูว่าจะทำอย่างไร อย่างแรกคือต้องให้เกิดความยุติธรรม ใช้หลักนิติธรรมอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทำให้ทุกอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน การนิรโทษกรรมจะต้องทำให้กับทุกๆคนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียว โดยเห็นต่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นที่ตั้ง โดยจะมีคณะกรรมการแล้วมาหารือกัน และจะรับฟังเสียงประชาชน เพื่อดูว่าสาเหตุที่จะทำให้เกิดสามัคคีมีอะไรบ้าง จะทำอย่างไร การนิรโทษกรรมจะครอบคลุมทุกภาคส่วน ให้เสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยจะดูตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 การใช้หลักนิติธรรม จะยึดเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียม แล้วดูในแต่ละภาคส่วน
สำหรับเรื่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีคณะกรรมการคัดเลือก มีหลักการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อต้องเป็นผู้มีความรู้ เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และพื้นที่ ส่วนกลุ่ม นปช.หรือเสื้อแดง เขาเรียกร้องประชาธิปไตย ทางพรรคก็ดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความสันติสุข และมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
