“สนธิ” บันทึกเทปแจงพี่น้อง ต้องเดินทางไปรับปริญญาหลานสาวที่อเมริกา ก่อนแวะพูดกับพันธมิตรฯ แอลเอ.แล้วรีบกลับ เผย หลานเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น พ่อแม่ฝากฝังให้ดูแลก่อนเสียชีวิต ย้ำ จิตวิญญาณพันธมิตรฯ สู้เพื่อความถูกต้อง ทางออกปัญหาชาติไม่เลือกสัตว์เข้าสภา ชี้ หากโหวตโนมากพอ ปฏิรูปการเมืองเริ่มขึ้นแน่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 19 พ.ค.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวผ่านวิดีโอเทปซึ่งเผยแพร่ทางเอเอสทีวี และจอโปรเจกเตอร์ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า ขณะนี้ตนได้เดินทางไปต่างประเทศแล้ว จึงขอชี้แจงให้พี่น้องทราบเพื่อป้องกันข่าวลือ โดยการเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ไปเพื่อรับปริญญาหลานสาวที่ชื่อ ซาโตมิ เป็นลูกของน้องสาวชื่อ สนธยา ลิ้มทองกุล ที่มีสามีเป็นคนญี่ปุ่น ชื่อ กิโนซา ชาวเมืองโอกินาวา
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ก่อนที่น้องสาวจะเสียชีวิตได้ฝากให้ตนดูแลซาโตมิ หลังจากนั้น กิโนซาได้แต่งงานมีภรรยาใหม่เป็นคนไทยเช่นกัน และได้อพยพอยู่ที่มาเก๊า แต่ต่อมา กิโนซา ป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง และให้ภรรยาใหม่ที่เป็นคนไทยติดต่อให้ตนไปพบเป็นการด่วนที่โอกินาวา ซึ่ง กิโนซา ก็ได้ฝากให้ตนดูแลซาโตมิ ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซาโตมิ จึงไม่มีทั้งพ่อและแม่ ตนจึงต้องคอยดูแลและส่งเสีย จนเรียนจบไอเอสบี อินเตอร์เนชั่นแนลสคูล หลังจากนั้น ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยทางภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกาจนจบ
นายสนธิ กล่าวว่า ตนมีความผูกพันกับพี่น้องที่นี่ ถ้าไปเป็นอาทิตย์ก็คงคิดถึงกัน แต่เนื่องจากหลานไม่มีพ่อไม่มีแม่ ถ้าต้องรับปริญญาเพียงลำพังคนเดียวคงเป็นความรู้สึกที่ขมขื่น ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปเพื่อเป็นผู้ปกครองของหลานในวันนั้น จึงขออภัยพี่น้องที่ต้องหายไป เพื่อให้อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตซาโตมิจะมีผู้ปกครองบ้าง ซึ่งก่อนเดินทางกลับ ตนจะแวะที่ลอสแองเจลิส เพื่อพูดกับพี่น้องที่นั่น แล้วจะเดินทางกลับมาโดยเร็ว
นายสนธิ ย้ำว่า แม้ตนจะไม่อยู่ แต่จิตวิญญาณของพันธมิตรฯ ยังอยู่ นั่นคือ จิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมือง จิตวิญญาณที่เห็นว่าชาติต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว ชาติต้องมาก่อนพรรค ส่วนพรรคการเมืองที่กำลังหาเสียงอยู่ขณะนี้ก็โกหกประชาชนทุกเรื่อง ทุกพรรคมีแต่ขายชาติ โกงบ้านกินเมืองทั้งสิ้น ทหารที่ยึดอำนาจยังทำให้ชาติเสียหายไม่ถึง 1 ใน 100 ที่นักการเมืองทำ เพราะธุรกิจการเมืองยังไม่หมดไป สมัยทักษิณ ชินวัตร การทำธุรกิจการเมืองเป็นการการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย มาในยุคนี้ การทำให้น้ำมันปาล์มขาดแคลนแล้วขึ้นราคาก็เป็นธุรกิจการเมืองอย่างหนึ่ง การที่ราคาน้ำมันแพง เพราะคนที่คุมกระทรวงพลังงานไปตั้งบริษัทส่วนตัวทำธุรกิจกับ ปตท.ก็เป็นธุรกิจการเมืองอย่างหนึ่ง จะต่างกันตรงที่ทักษิณรวบอำนาจโกง เพื่อครอบครัวและพวกพ้อง แต่ยุคนี้เป็นการแบ่งกันกิน ร่วมกันกินโต๊ะประเทศไทย ทำลายบ้านทำลายเมือง โกหกประชาชน ไม่มีพรรคไหนสนใจเรื่องความถูกต้อง เรื่องขายชาติบ้านเมือง เรื่องแผ่นดินไทย มีแต่บอกว่าปัญหาทุกอย่างต้องให้คน 500 คนเข้าไปแก้ไขในสภา แล้ว 500 คนก็มีแต่ทำตามมติพรรค ซึ่งเป็นมติที่หลงในอำนาจและมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง
“ผมขอฝากบอกพี่น้องว่าโหวตโน คือ คำตอบ มันเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเรา เพราะเราจะออกไปเลือกตั้ง เรายอมรับระบบการเลือกตั้ง แต่ไม่ยอมรับนักการเมืองที่มีอยู่ทุกวันนี้ เพราะถ้าเลือกเข้าไปก็คือการเลือกสัตว์เลื้อยคลานเข้าไปกินบ้านเมือง การโหวตโนจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง ให้รอดู ถ้ามีโหวตโนเยอะๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะเริ่มต้นขึ้น” นายสนธิ กล่าว