“มาร์ค” จับเลขปาร์ตี้ลิสต์ประชาธิปัตย์ คว้าเบอร์ 10 เพื่อไทยส่ง “ยงยุทธ” จับได้เบอร์ 1 ภูมิใจไทยคว้าเบอร์ 16 พรรคชาติไทยพัฒนา 21 การเมืองใหม่คว้า 20 กิจสังคมได้เบอร์ 14 มาตุภูมิเบอร์ 26 พลังชลเบอร์ 6 พรรคชูวิทย์ได้เบอร์ 5 ภูมิใจห้อยคว้า 16 ชทพ.ได้ 21 เพื่อฟ้าดินเลข 18 รักษ์สันติ 12 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินได้เบอร์ 2
วันนี้ (19 พ.ค.) เมิ่อเวลา 06.30 น.ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อในวันแรกของการรับสมัคร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูให้ผู้สมัคร และผู้ติดตามเข้ามาภายในบริเวณสนามกีฬาได้ ผู้สมัครและผู้ติดตามภายนอกเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาภายในท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และมีการตรวจบัตรที่ กกต.แจกให้ไว้โดยมีการจำแนกสีบัตรไว้แล้ว ก่อนเข้ามาในสถานที่กันอย่างเข้มงวด หากไม่มีบัตรที่ กกต.แจกให้ก็จะไม่มีสิทธิได้เข้ามาในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 07.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้บรรดากองเชียร์ ของแต่ละพรรคได้เดินเข้าด้านบนของอัฒจันทร์ตามที่ กกต.ได้จัดไว้ให้ พร้อมกับกำหนดจำนวนกองเชียร์ของแต่ละพรรคสามารถนำเข้ามาได้พรรคละไม่เกิน 100 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตามจุดที่กองเชียร์ของแต่ละพรรคด้วย ซึ่งกองเชียร์พรรคชาติไทยพัฒนา ใส่เสื้อสีชมพูได้เข้ามาเป็นอันดับแรก ตามด้วยกองเชียร์ของพรรครักประเทศไทย พรรครักษ์สันติ (เพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทั้ง 2 พรรคนี้ได้มีแกนนำของที่เตรียมตัวลงสมัครทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบเขตของพรรคขึ้นมานั่งบนอัฒจันทร์ด้วย) และระหว่างที่หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคาเดินทางเข้ามาภายในอาคารก็ส่งเสียงปรบมือและโห่ร้องแสดงความยินดี
ช่วงระหว่างรอเวลาจับเบอร์ 08.30 น. ระหว่างกองเชียร์แต่ละพรรคก็ได้ส่งเสียงเชียร์ประชันกันเป็นระยะๆ พร้อมกับชูป้ายของพรรค พร้อมนโยบาย ซึ่งบรรยากาศบนอัฒจันทร์ในอาคารเต็มไปด้วยความคึกคักเหมือนกับการแข่งขันกีฬา นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ได้เดินไปพูดคุยกับแกนนำของแต่ละพรรคด้วย แม้กระทั่งพรรคเล็กก็ยังได้ส่งเสียงเชียร์ไม่ขาดสาย
ผู้สื่อข่าวรายงานบริเวณหน้าจุดลงทะเบียนเวลาซึ่งเป็นจุดที่ต้องเดินเข้ามาในสถานที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครนั้น ในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของทั้ง 2 พรรคเดินทางเข้ามาภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 ได้เกิดชุลมุนขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากมีสื่อมวลชนจำนวนมากรุมถ่ายภาพ และพยายามขอสัมภาษณ์ ขณะเดียวกันก็มีกองเชียร์และบรรดาผู้สมัครพรรคการเมืองต่างๆ ที่ติดตามหัวหน้าพรรคเข้ามาด้วยมากกว่า 10 ตามที่ กกต.หนดไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องร้องขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน และผู้ติดตามขอให้รักษากฎกติที่ได้ตกลงไว้ และขอให้อยู่ด้วยความเป็นระเบียบ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดจาทักทายกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ บริเวณจุดที่ลงเวลา
สำหรับพรรคการเมืองที่มาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น.ที่ กกต.กำหนดเปิดรับสมัครนั้นมีจำนวน 28 พรรคการเมือง โดยพรรคชีวิตที่ดีกว่าได้มาลงทะเบียนเป็นพรรคแรกเวลาด้วยเวลา 05.41 น. ตามมาด้วยพรรคไทยเป็นไทย พรรคไทยเป็นสุข พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเสรีนิยม พรรคประชาธรรม ชาติสามมัคคี พรรครักษ์สันติ พรรคพลังคนกีฬา พรรคเพื่อไทย พรรครักประเทศไทย พรรคกิจสังคม พรรคกสิกรไทย พรรคพลังมวลชน พรรคมาตุภูมิ พรรคแทนคุณแผ่นดิน พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคพลังชล พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย พรรคการเมืองใหม่ พรรคดำรงไทย พรรคประชากรไทย พรรคไทยพอเพียง พรรคบำรุงเมือง และพรรคเพื่อฟ้าดิน เมื่อตรวจสอบเอกสารก่อนที่จะจับสลากเบอร์ พบว่ามี 2 พรรค ได้แก่ ชีวิตที่ดีกว่า และพลังคนกีฬา ที่นำเอกสารและค่าธรรมเนียมนำมาไม่ครบ จึงไม่สามารถจับสลากเบอร์ได้ทำให้เหลือพรรคที่ สามารถจับสลากเลือกเบอร์จำนวน 26 พรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจับเบอร์นั้น นายอภิชาตเป็นผู้จับสลากให้พรรคการเมือง ที่มาลงก่อนเวลา 08.30 น. โดยที่ได้จับเบอร์ก่อนได้แก่ พรรคพลังมวลชน ได้เบอร์ 9 ตามด้วย พรรคการเมืองใหม่ ได้เบอร์ 20 พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 10 ปรากฏว่าหลังทราบเบอร์ไม่ถึง 3 นาที ก็ติดเบอร์ที่ป้ายนโยบายพรรคพร้อมยกขึ้นโชว์บนอัฒจันทร์ทันที
พรรคเพื่อไทยได้เบอร์ 1 ขณะที่รู้ว่าพรรคตัวเองได้จับสลากได้เบอร์ 1 เกิดเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีลั่นห้อง และได้นำเบอร์มาติดทันทีเช่นกัน พร้อมกับถือป้ายเดินโชว์นโยบายพรรค รอบอัฒจรรย์ ผ่านทุกพรรค พรรคแทนคุณแผ่นดิน ได้เบอร์ 17 พรรคกิจสังคม ได้เบอร์ 14 พรรคดำรงไทย ได้เบอร์ 8 พรรคไทยพอเพียง ได้เบอร์ 11 พรรคมาตุภูมิ ได้เบอร์ 26 พรรคไทยเป็นไทย ได้เบอร์ 15 พรรคเสรีนิยม ได้เบอร์ 22 พรรคพลังชลได้เบอร์ 6 พรรครักประเทศไทยได้เบอร์ 5
พรรคประชาธิปไตยใหม่ 3 พรรคไทยเป็นสุข ได้เบอร์ 13 พรรคภูมิใจไทย ได้เบอร์ 16 พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ได้เบอร์ 19 พรรคประชาธรรม ได้เบอร์ 7 พรรคชาติสามัคคี ได้เบอร์ 23 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เบอร์ 21 พรรคเพื่อฟ้าดิน ได้เบอร์ 18 พรรครักษ์สันติ ได้เบอร์ 12 พรรคบำรุงเมือง ได้เบอร์ 24 พรรคประชากรไทย ได้เบอร์ 4 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้เบอร์ 2 และพรรคกสิกรไทย ได้เบอร์ 25
ผู้สื่อข่าวรานงานด้วยว่า สำหรับบรรยากาศหลังจากที่ทุกพรรคจับสลากได้เบอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่างก็นำเบอร์มาติดและทยอยออกจากสถานที่รับสมัครเพื่อไปหาเสียง ซึ่งในการเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นบุคคลที่ถูกจับตามองและเป็นที่สนใจของทุกคน โดยเฉพาะสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งและต้องการตัวสัมภาษณ์ออกรายการสด ก็ทำให้เกิดการชุลมุนกันขึ้นอีกครั้งมีการแย่งตัวกันเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังได้เบอร์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกพรรคการเมืองก็ได้เดินออกจากสถานที่รับสมัครเพื่อไปที่รถหาเสียงทันที ขณะที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ได้กล่าวว่า เนื่องในปีมหามงคลขอให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม เพื่อให้ทุกภาคส่วนของประเทศมีความเจริญ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการจับสลากว่า ที่พรรคเพื่อไทยจับได้หมายเลข 1 ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ทำให้พรรคมีกำลังใจมากขึ้น เพราะการหาเสียงประชาชนจะจำได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคด้วย พร้อมได้ขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้รับใช้พี่ประชาชน โดยจะปฎิตามกฎกติกาที่ กกต.วางไว้ อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมรับการตรวจสอบเมื่อมาเล่นการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ขณะเดินทางมาถึงที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ว่ากำลังใจที่ดีที่สุดของตนเองขณะนี้ได้มาจากบุตรชาย ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมายังไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ตนขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทยในการทำงานเพื่อประชาชน ทั้งนี้หากไม่ได้เป็นรัฐบาลก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านและทำเพื่อประชาชน