หัวหน้าประชาธิปัตย์เปิดนโยบายพรรค “วันแรกทำได้ทันที” พร้อมเปิดตัว 22 ผู้สมัคร ส.ส.ใหม่ ยันพรรคให้โอกาสคนรุ่นใหม่เสมอ ชี้การเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โวเป็นรัฐ 2 ปี เดินหน้าหลายอย่าง
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นประธานเปิดนโยบายภายใต้สโลแกน “วันแรกทำได้ทันที” ในแง่นโยบายหลัก ประกอบด้วย 1.สนับสนุนเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำภายใน 2 ปี 2.หนุนอย่างเต็มที่ให้เพิ่มกองกำลังพิเศษปราบปรามยาเสพติด 2500นาย 3.ผลักดันให้เพิ่มเงินทุนกู้ยืนดิกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาในระดับวิทยาลัย 250,000 คนต่อปี 4.สนับสนุนการดำเนินการเพิ่มโฉนดชุมชนให้เกษตรกร 250,000 และ 5.ช่วยเหลือให้มีการเพิ่มกำไรจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรอีก 25% พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนรุ่นใหม่จำนวน 22 คน โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวหาเสียงตอนหนึ่งว่า รู้สึกยินดีที่ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เพราะเมื่อสมัยที่ตนตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งมีอายุเพียง 27 ปี ซึ่งได้รับการสนับสนุน และโอกาสจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยังคงสร้างโอกาสทางการเมืองให้คนรุ่นใหม่รับใช้ประชาชนเสมอ และมั่นใจว่าจะนำเอามุมมองใหม่ วิสัยทัศน์ความรู้ความสามารถ เพื่อนำมารับใช้ประชาชน
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ในความคิดของตนเองคิดเสมอว่าการทำงานทางการเมืองไม่ใช่งานที่เสียสละ แต่เป็นงานที่ท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงที่บ้านเมืองมีความสับสน มีความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่วันนี้ได้แสดงออกถึงความแน่วแน่ และมีความกล้าหาญ แม้หลายคนจะบอกว่าเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ก็จริง แต่ทุกคนได้ผ่านกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ มาทั้งสิ้น หลายคนตนได้มีโอกาสสัมผัสงานในฐานะคนทำงานทางการเมือง เพราะจะบอกว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะวงการทางการเมืองต้องการมืออาชีพ และทุกคนที่ก้าวเข้ามาต้องมีจุดเริ่มต้น จุดที่สั่งสมประสบการณ์ พร้อมที่จะพัฒนา และก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง วันข้างหน้าถ้าคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับโอกาสที่ดีก็จะเติบโตเป็นบุคลากรทางการเมืองที่ดี
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า คนรุ่นใหม่เหล่านี้วันหนึ่งอาจจะเป็นนักการเมืองที่ดีในอนาคต หรือบางคนอาจะก้าวสู่การเป็นผู้นำพรรค ผู้นำประเทศก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกคนต้องได้ซึมซับ ถึงผลประโยชน์ส่วนรวม ความรู้ความสามารถที่จะนำมารับใช้ประชาชนบนวิถีทางประชาธิปไตย ทั้งนี้ 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำพรรคประชาธิปัตย์.ได้เดินหน้าทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับประชาชนให้แก่สังคม แม้บ้านเมืองจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจ และสังคม แต่เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาคือ การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้กับสังคม ขณะเดียวกันเรามีนโยบายที่จะช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน แต่เราได้ตัดสินใจในการลงทุนเพื่ออนาคตของบ้านเมือง ด้วยนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ควบคู่กับการปฏิรูปการศึกษาระบบใหม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ตาม เรายังทำไม่พอ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้น คนรุ่นใหม่เหล่านี้ต้องการที่จะเห็นนโยบายใหม่ๆ ที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ค่าแรง เพิ่มผลกำไร ประกันรายได้ นโยบายประกันรายได้ให้กับเกษตรกร อีกทั้งปัญหาทางสังคม ที่ต้องเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด หรือแม้แต่เรื่องการศึกษาก็ตาม ที่มีเด็กยากจนอีกจำนวนมากที่กังวลจะไมได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้เด็กยากจนทั่วประเทศได้เรียนจบประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ไม่ใช่จบแล้ว จะมีงานทำเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีโอกาสทางธุรกิจหรือที่เรียกว่าต้นกล้าทางธุรกิจด้วย
“ผมไม่เชื่อว่าคนรุ่นใหม่แม้แต่คนเดียวในที่นี้อยากเห็นการเมืองเดินวนอยู่กับที่ ย่ำอยู่กับความขัดแย้ง สนใจแต่ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งและขัดแย้งทางการเมือง หรือไม่ต้องการที่จะเห็นการปลุกระดมไปสู่ความรุนแรง ความสูญเสียอีกต่อไปคนรุ่นใหม่เหล่านี้ต้องการที่จะมาบอกว่าอนาคตของประเทศคืออนาคตของเขา เขาต้องการมีนาคตที่ดีและต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีๆ นี่คือหัวใจจองการที่คนเหล่านี้อาสาสมัครเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนในนามของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป”
ทั้งนี้ การเดินทางมาร่วมกิจกรรมการหาเสียงครั้งแรกของพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรียังคงใช้ทีมอารักขาตามปกติ ไม่ได้มีการลดกำลังแต่อย่างใด ขณะที่ขบวนรถติดตาม ยังคงจำนวนเท่าเดิม มีเพียงแต่การเปลี่ยนใช้รถประจำตำแหน่งที่ไปใช้รถกันกระสุนของเพื่อนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์