xs
xsm
sm
md
lg

ศึกเลือกตั้งห้ำหั่น 2 ขั้วใหญ่ “พรรคสวิงกิ้ง” ปะทะเผาไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะระเบิดศึกกันในวันที่ 3 ก.ค. 2554 ชัดเจนแล้วว่าจะเป็นการห้ำหั่นระหว่าง 2 ขั้วการเมือง...

ขั้วหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทย หรือ เผาไทยที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญา และผู้ต้องหาก่อการร้าย เป็นผู้บัญชาการ พร้อมเครือข่ายคนรากหญ้า เสื้อแดงคอยสนับสนุน เป็นขั้วที่จะมาทวงคืนอำนาจ หลังโดนประชาชนขับไล่ไป 2 ปีกว่า

อีกขั้วหนึ่งคือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเก่าแก่อิงแอบแนบชิดสีเขียว พรรครสนิยมสูง ชอบเกมสวิงกิ้ง สมบัติผลัดกันชมเป็นชีวิตจิตใจ แต่เก้าอี้รัฐมนตรีไม่ยักจะแบ่งกันนั่ง ขั้วนี้กำลังภายในเยอะกว่า พันธมิตรการเมืองก็แนวโน้มเยอะกว่า แต่คะแนนนิยมเลวกว่า เพราะบริหารประเทศหนล่าสุดไม่เอาอ่าว นำพาชาติเข้ารกเข้าพง

ชาวบ้านส่ายหน้า บอกให้รีบไสหัวไปได้แล้ว

ว่าไปแล้วมันน่าด่าให้หูดับ พรรคประชาธิปัตย์อุตส่าห์ได้อำนาจ ได้คนหนุนหลัง ได้ทุกอย่างมาอยู่ในมือแล้ว แต่มีโอกาสแล้วกลับทำไม่ได้ ทำไม่เป็น แทนที่ 2 ปีกว่าจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ชาวบ้านติดใจชื่นชอบ กลับมีแต่ข่าวคาวฉาวโฉ่ ทุจริต ซื้อขายตำแหน่ง เล่นพรรคเล่นพวก เป็นผลงานชิ้นโบแดง วันนี้ต้องกลับไปหาเสียงเลือกตั้ง เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าที่ผ่านมาผลงานที่ทำไว้มัน “โหลยโท่ย”

บ้านเมืองที่วิกฤติต้องการคนกอบกู้ แต่นี่ทำให้วิกฤตซ้ำวิกฤต วอดวายไปตามๆ กัน ชาวบ้านร้านช่องชั่วโมงนี้ใกล้ตายเต็มที ยังมีหน้าไปเรียกร้องขอคะแนนเสียงอีก ได้อำนาจมาเดี๋ยวก็ต้องไปรับประทานกันมูมมาม บริหารจัดการแต่เกมการเมือง และก็ไป...

ปาร์ตี้สวิงกิ้งกันอีก ชอบกันเหลือเกิน

ตอนนี้ประชาชนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจไม่ขาวก็เลือกดำแล้ว เพราะในสนามเลือกตั้งมีแต่นักเลือกตั้งสีดำ แต่ยังพอมีทางออกคือกาช่อง “โหวตโน” โซโลกันหนักๆ เป็นทางเดียวที่จะจัดหนักตบหน้านักการเมืองได้

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เริ่มมีสัญญาณเดือดขึ้นมาแล้วจากเหตุลอบสังหารนายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.ปากน้ำ เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค. เคราะห์ดีนรกยังไม่รับนายประชา รายอื่นก็คงติดตามมา ต้องมีชีวิตที่สังเวยการเลือกตั้งเลือดครั้งนี้แน่

เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ พรรคการเมืองขนาดเล็ก ขนาดกลาง ได้รับผลกระทบเต็มๆ แน่ ความพยายามจะเบียดแทรกเข้ามาในช่วงเวลานี้ ช่างดูไม่สดใสเอาเสียเลย หันไปพิจารณาพรรคเอสเอ็มอี จะเป็นความหวังของประชาชนพอเป็นทางเลือกได้หรือไม่?

วันนี้พรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก ต้องขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวกันคึกคัก ทั้ง ควบรวม จับมือเป็นพันธมิตร ทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อนำพาพรรคตัวเองไปร่วมรัฐบาลครั้งหน้าให้ได้ การได้ส.ส.เป็นกอบเป็นกำไว้ก่อนย่อมง่ายสำหรับการต่อรองเข้าร่วมรัฐบาล รวมทั้งตำแหน่งรัฐมนตรี

ท่ามกลางการตระเตรียมสรรพกำลังของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ขนาดกลางต่างๆ ก็เกิดข่าวช็อกวงการการเมือง ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำ “กลุ่ม 3 พี” เสียชีวิตลงตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. ด้วยโรคมะเร็ง ไม่มีค่อยมีใครทราบข่าวอาการป่วยใดๆ มาก่อนหน้านี้ พอปรากฏเป็นข่าวกะทันหันว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ตะลึงงุนงงไปตามๆ กัน เช็กข่าวสอบถามกันวุ่นวาย

ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ถือว่าโลดแล่นอยู่บนสนามการเมืองมายาวนาน มีฐานการเมืองอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา เคยสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้ง สามัคคีธรรม ชาติพัฒนา ชาติไทย ความหวังใหม่ ไทยรักไทย และเพื่อแผ่นดิน ประสบการณ์การเมืองนับว่าโชกโชนไม่น้อย เคยเป็นสมาชิกกลุ่ม 16 ที่โด่งดัง ร่วมกับสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เนวิน ชิดชอบ สนธยา คุณปลื้ม สรอรรถ กลิ่นประทุม ถล่มรัฐบาลชวน หลีกภัย ประเด็น ส.ป.ก.4-01 จนพังพาบมาแล้ว

นักการเมืองประเภทนักต่อรอง หรือนักธุรกิจการเมือง มือดีล มือประสาน อย่างว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ส่วนใหญ่จะไปโลดบนถนนการเมืองไทย เพราะยึดหลักไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร เข้าถึงเข้าได้ทุกขั้ว

หลังติดล็อกบ้านเลขที่ 111 ถูกเพิกถอนสิทธิ 5 ปี ก็เกาะเกี่ยวเหนียวแน่นกับพินิจ จารุสมบัติ ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ เป็นกลุ่ม 3 พี ไปไหนไปด้วยกัน ร่วมกันเป็นแกนนำเบื้องหลังพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ได้ส่ง ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรณฉวี ภรรยาตัวเองเป็นนอมินีรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหนึ่งใน “ภรรยาภิวัตน์”

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อแผ่นดินที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กลับไปไม่รอด เป็นได้เพียงแค่พรรคขนาดกลางค่อนเล็ก ต่อมาปัญหาภายในรุมเร้าจนพรรคแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หน่อเนื้อสุดท้ายไปควบรวมกับ พรรครวมชาติพัฒนาที่นำพรรคโดย “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” บิ๊กเบิ้มโคราช กลายเป็น พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน

“3 พิษ” บวกกับ “สุวัจน์” ถือธงนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน น่าจะเดินไปได้สวยสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าในฐานะพรรคขนาดกลาง และแน่นอนว่าศูนย์บัญชาการใหญ่ย่อมหนีไม่พ้นโคราชที่เป็นฐานมายาวนานของ “สุวัจน์” และ “ไพโรจน์” ที่ผ่านมากระแสใครว่าแรง ใครว่าเจ๋ง ถึงอย่างไรก็เจาะโคราชไม่ได้หมด

การมารวมตัวกันในนามพรรคใหม่นี้ ก็ชัดเจนว่าแบ่งพื้นที่กันดูในจังหวัดโคราช สุวัจน์ดูส่วนหนึ่ง ปีก 3 พี โดยว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ก็ดูอีกส่วนหนึ่ง แต่วันนี้เมื่อไม่มีว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์แล้ว กิจการภายในโคราชทั้งหมดน่าจะตกอยู่ในมือสุวัจน์แต่เพียงผู้เดียว

จะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายไม่รู้ ภาระหนักต้องตกอยู่กับสุวัจน์ ต้องลงหลักปักฐานคุมพื้นที่โคราช สู้กับพรรคภูมิใจไทย ของ เนวิน ชิดชอบ ที่มี บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เป็นหัวหอก พร้อมยิงกระสุนดินดำที่สะสมมาเต็มคลังแบบไม่อั้น ยิงซ้ำรอบสอง รอบสาม ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็เล็งให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อินทรีอีสาน ที่เพิ่งเข้าพรรคมาหมาดๆ บินโฉบลงมาคุมทีมที่โคราช ลุยกันเต็มเหนี่ยว

อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่อยู่โคราชทั้งหมดจะย้ายค่ายไปผนึกกำลังกับสุวัจน์ ทั้ง พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริญ บุญเลิศ ครุฑขุนทด ประเสริฐ จันทรรวงทอง อัสนี เชิดชัย ลินดา เชิดชัย

มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะผนึกกำลังกันเพื่อชาวโคราช เล่นเอา “นายห้างดูไบ” ควันออกหู แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้หน่อย คิดสะระตะล่วงหน้าแล้ว

ต่อไป “ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน” นี่ล่ะคือพรรคที่จะนำมาร่วมรัฐบาลได้ง่ายที่สุด เพราะ “กากี่นั้ง” ทั้งนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น