โฆษก “มาร์ค” แนะจับตา “แม้ว” ลิงก์ ผิด กม.เลือกตั้ง หรือไม่ พร้อมชวนกลับมานอนเรือนจำ เย้ยเอานโยบายประชาธิปัตย์ไปต่อยอด ปัดรัฐจัดฉากเอาปืนทิ้งหน้าพารากอน เชื่อผลพวงแดงเผาเมือง แนะงมสระวัดปทุมฯ คลองแสนแสบ เชื่อ บางพรรคทำลายป้ายในอีสาน ขัดขวางหาเสียง งงป้ายเพื่อไทยไม่พังบ้าง
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย มายังเวทีคนเสื้อแดง ว่า จากนี้ไปขอให้จับตาดูว่าการกระทำดังกล่าวจะผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะขณะนี้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งมาแล้ว อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ คือ นักโทษหนีคดี พฤติกรรมการโฟนอินเพื่อช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงดั่งที่เป็นอยู่นี้ อาจสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และส่งผลต่อการยุบพรรคได้ ทั้งนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มักโฟนอินมายังเวทีคนเสื้อแดง พร้อมกับระบุว่า อยากกลับบ้านแล้วนั้น ตนก็คงต้องบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขอให้กลับมานอนในเรือนจำ เพื่อรับโทษที่ก่อไว้ตามกฎหมายก่อน ถึงจะกลับมานอนที่บ้านได้
นายเทพไท ยังกล่าวกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุผ่านเวทีกลุ่ม นปช.ว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะดำเนินการให้สินเชื่อกับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 5 ปี รวมถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% ว่า เห็นได้ชัดว่าเป็นการนำนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไปต่อยอด เพราะนโยบายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการมาแล้ว อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีนโยบายลดภาษีให้กับผู้ที่ซื้อรถคันแรกตามแนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า การซื้อรถนั้น แม้จะจำเป็น แต่คือความฟุ่มเฟือย ซึ่งแตกต่างจากการซื้อบ้านที่เป็นปัจจัย 4 อีกทั้งการระบุถึงแนวทางลดภาษีซื้อรถตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกนี้ ถือเป็นการไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจประเทศ
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ กทม.พบอาวุธสงครามระหว่างการลอกท่อระบายน้ำบริเวณหน้าศูนย์การค้าสยามพารากอนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่การจัดฉากของรัฐบาลในช่วงใกล้เลือกตั้ง และอาวุธดังกล่าวที่พบ เชื่อว่า เป็นผลพวงมาจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 53 ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ ทั้งนี้ เชื่อว่า หากเจ้าหน้าที่ กทม.ได้ตรวจพบในพื้นที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม อาทิ สระน้ำวัดปทุมวนาราม คลองแสนแสบ ก็จะพบอาวุธอีก ดังนั้น กลุ่ม นปช.ต้องรับความจริง และไม่เบี่ยงประเด็นโดยโยนความผิดให้กับรัฐบาลเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ นายเทพไท กล่าวถึงกรณีป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ถูกทำลาย อาทิ การถูกสติกเกอร์โหวตโนปิดทับ การถูกกรีดป้าย ว่า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความนิยมของพรรคแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมดังกล่าว น่าจะเป็นของกลุ่มพรรคการเมืองหนึ่งที่ต้องการขัดขวางการหาเสียง ทำลายบรรยากาศการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเข้ามาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยจึงไม่ถูกทำลายบ้าง
