xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” แฉต่อ ที่แท้ “น้องประวิตร” นั่งที่ปรึกษา บ.รถถังยูเครน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ยันมีหลักฐานถูกต้องชัดเจนการจัดซื้อรถถังยูเครนไม่ถูกต้อง ชี้ “ศิษฐวัชร” น้อง “ประวิตร” เป็นที่ปรึกษาบริษัทรถถังยูเครนที่ขายให้ไทย ถึงผ่านขั้นตอนต่างๆ มาได้ ทั้งๆ ที่ทำผิดหลักการตั้งแต่ตอนยื่นซอง พร้อมซัด “มาร์ค” แถลงยุบสภา สุดหน้าด้านใช้เวลาทีวีหาเสียงให้ตัวเองเฉย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า รู้หรือไม่ตอนนี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ซื้อรถถังยูเครนไปแล้ว 200 คัน คนไทยยังไม่รู้เลย รถถังนี้เกิดขึ้นในสมัย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เคยทำเรื่องขอซื้อมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ถูก สนช.หลายคนอภิปรายจน พล.อ.สุรยุทธ์ตีกลับมาไม่เห็นด้วย ปัญหาคือมันมาซื้อได้ในสมัยนี้ทั้งที่มีเรื่องไม่สุจริตหลายเรื่อง

นายประพันธ์กล่าวว่า ได้ยินบ่อยๆ ว่าต้องเอาการเมืองนำการทหาร ใช่ แต่ต้องเป็นการเมืองที่ดี โปร่งใส แต่ถ้าการเมืองสกปรก สามานย์ จะมานำการทหารไม่ได้ เพราะจะพากันเข้ารกเข้าพงทั้งคู่

ประเด็นการจัดซื้อรถถังยูเครน ตนเอาข้อสรุปมาพูดให้ฟัง ถ้าจะเอารายละเอียดมีเป็นกระสอบทำไมถึงรู้ว่ามีการเปลี่ยนเอาเครื่องยนต์เรือมาใส่แทน ตนมีหลักฐาน มีเอกสารราชการ ชัดเจน สรุปได้ดังนี้

1.ยูเครนยื่นซองประมูลจัดซื้อรถถังล็อตแรก ตอนมาก็เลยเวลายื่นไปแล้ว คือปิดในเวลา 16.30 น. ซึ่งโดยระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างก็ผิดแล้ว นี่คือข้อมูลจากการตรวจสอบของ สตง.

2.ยูเครนเสนอข้อมูลว่าการบรรจุกำลังพลรบในรถหุ้มเกราะชุดนี้ได้ 9+2 =11 นาย แต่มาดูรายละเอียดกองทัพไทยต้องการ 11+2 คือรวมแล้วได้ 13 นาย ซึ่งก็ตกสเปกไปแล้ว ถือว่ามีคุณสมบัติไม่ครบตามกำหนด ต้องถูกตัดสิทธิ์เช่นเดียวกับประเทศอื่น แต่ทำไมยูเครนไม่ตก เนื่องจากญาติพี่น้องคนในกลาโหมเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทนี้ การเมืองวันนี้ทำไมประชาธิปัตย์ถึงอี๋อ๋อเอาใจทหารก็เพราะมันหากินร่วมกัน

3.ประเทศยูเครนไม่มีความตกลงร่วมมือกันทางทหารระหว่างกองทัพไทย ขัดต่อระเบียบคำสั่ง เมื่อขัดมันก็ซื้อไม่ได้

4.ยูเครนนำรถยานเกราะล้อยางรุ่น BTR 70-80 มาดัดแปลงเป็นรุ่น BTE3E1 ซึ่งเป็นรถที่รัสเซียได้มอบไว้ให้ยูเครนใช้ ปรากฎว่านำมาดัดแปลงและจำหน่าย บริษัทของรัสเซียก็ได้ออกหนังสือยืนยันว่ายูเครนไม่มีโรงงานผลิตรถยานหุ้มเกราะของตัวเอง สรุปก็คือถ้าเราจะซื้อต้องซื้อจากประเทศที่ผลิตได้เอง ไม่ใช่ดัดแปลงย้อมแมวขาย นี่ก็เป็นหลักฐานที่กลาโหมไม่ควรซื้อ

นอกจากนี้ ขั้นตอนการประมูลเสนอราคาที่คันละ 8 แสนเหรียญสหรัฐ แต่พอมาทำสัญญาปรากฎว่าราคา 9.48 แสนเหรียญสหรัฐ แบบนี้มันก็โกงประเทศอื่นที่มายื่นแข่งขันในเวลานั้น

นายประพันธ์กล่าวว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบได้ตรวจสอบตั้งแต่สมัยตนเป็นสนช. มีท่านน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธาน เวลานี้รถล็อตแรก สตง.ก็ชี้มูลแล้วว่ามันผิด และส่งเรื่องไป ป.ป.ช.แล้ว ตั้งอนุกรรมการเอาผิดกับบุคคลเหล่านี้แล้ว

ล็อตแรกกองทัพบกจัดซื้อไป 96 คัน ที่บอกว่าเรื่องเคยตกไปในสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ แต่มาอนุมัติสมัยที่ พล.อ.อนุพงษ์เดินตามก้นสมัคร นายสมัครเซ็นอนุมัติแต่ก็ให้ความเห็นว่าควรแต่งตั้งผู้แทนจากสตง.ไปตรวจสอบร่วมในการรับของด้วย แต่ปรากฎว่าหลังการอนุมัติยังมาขอเปลี่ยนระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ซึ่งการเปลี่ยนนั้นต้องได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจรับของ สตง.ถึงสมบูรณ์ แต่ สตง.ได้คัดค้าน

สรุปแล้วคือการอนุมัติซื้อล็อตแรกนั้นเป็นรถถังย้อมแมว ไม่ถูกหลักการ เครื่องยนต์ เกียร์ก็เปลี่ยนไม่เป็นไปตามสเปกเดิม ทั้งหมดนี้ล็อตแรก 96 คัน มีปัญหาและยังไม่รับมอบ ที่ส่งมาเป็นตัวอย่าง 3-4 คันก็ไม่กล้าเอามาวิ่ง ตกลงรถถังประเทศอื่นไม่มีดีแล้วหรือ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นชายชาติทหารจริง เอารถถังมาทดสอบให้ประชาชนดูหน่อย

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ความจริงวันนี้ประเทศไทยมันแย่ ถ้ามีทหารที่ตัดสินใจซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาแบบนี้ โดยคำนึงว่านาย และพวกตัวเองจะได้ประโยชน์อะไรจากการจัดซื้อ การเอาเครื่องเรือมาสวมแทนรถถังยูเครน เอามาใส่ได้อย่างไร

“ปรากฏว่าคนที่หากินกับกองทัพเรือ บริษัทหนึ่งมีคนนามสกุลวงษ์สุวรรณ เป็นที่ปรึกษาบริษัทนี้อยู่ และวันนี้เป็นสมาชิกวุฒิสภาอยู่ นี่ถ้าไม่ใช่นามสกุลวงษ์สุวรรณ จะทำได้หรือ ที่สำคัญการจัดซื้อครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประยุทธ์ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ได้ประโยชน์อะไร และพล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ได้ประโยชน์อะไรถึงได้เอาเครื่องเรือมาใส่ในรถถังได้ ช่วยตอบให้ฟังหน่อย นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ก็ตอบด้วยว่าทำไมถึงอนุมัติให้ซื้อหมดเลย นั่นก็เพราะการเมืองสามานย์ติดสินบนทหารเพื่อไม่ให้ทหารปฏิวัติตัวเอง” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า เรื่องอย่างนี้เกิดได้ในระดับผู้บังคับบัญชากองทัพ แล้วหน่วยงานอื่นๆ ยิ่งไม่แย่กว่านี้หรือ ทุกวันนี้เห็นภาพแล้วใช่หรือไม่ทำไมประชาธิปัตย์ที่เคยรังเกียจทหาร ในอดีต วันนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แสดงคนพวกนี้วันนี้สมประโยชน์กัน ถึงร่วมกันได้ อนุมัติคราวนี้ก็เพื่อไม่ให้ทุกคนออกไปร่วมกับเพื่อไทย ถึงแม้เพื่อไทยจะได้รับเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมากก็ไม่แน่ที่พวกนี้จะไปร่วม เพราะสมรู้ร่วมคิดกินบ้านกินเมืองหมดแล้ว

รถถังยูเครนเป็นเรื่องหนึ่งที่อัปยศของกองทัพบกไทย ตนเศร้าใจที่ ผบ.ทบ.กระดี๊กระด๊าดีใจ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าได้อนุมัติซื้อรถถัง บอกจะใช้ไปได้ 100 ปี ตนไม่เข้าใจเอาอะไรมาพูด เอาอะไรคิด แล้ววิทยาศาสตร์เทคโนโลยีปีเดียวก็ตกรุ่นแล้ว ตนรู้ว่าทหารละอายที่ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจซื้ออย่างนี้

นายประพันธ์กล่าวต่อถึงการแถลงยุบสภาของนายอภิสิทธิ์ว่า คนมีความรู้ มีปัญญาไม่หน่อมแน้มแบบนายเจิมศักดิ์ต้องคิดได้ จะยุบสภามีพระราชกฤษฎีกาแล้วก็ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็จบ ทำเป็นพูดถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิดเดียว และหน้าด้านทะลึ่งพูดจาหาเสียงให้ตัวเอง และถ้าเป็นความจริงก็พอฟัง แต่นี่แหลทั้งนั้น บอกว่ายุบสภาจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ มันเริ่มตรงไหนมันวนไปสู่การเมืองเก่านั่นแหละ คนล้มเหลวอย่างคุณยังเสนอหน้ามาให้ประชาชนเลือกอีก

สิ่งที่น่าละอายที่สุด เลวร้ายที่สุดคือ นักกาารเมืองล้มเหลว เลวร้าย แต่ไม่รู้จักตัวเอง เป็นสิ่งที่น่าอัปยศและน่าสะพรึงกลัวที่สุด ตอนอยู่ในอำนาจก็ไม่เคยช่วยประชาชน ไม่เคยทำหน้าที่ของตัวเอง บอกจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศไทย เป็นนายกฯไม่เห็นแก้อะไรเลยสักเรื่อง ทำไมต้องรอเลือกกลับมาแล้วค่อยแก้ เป็นนายกฯอยู่หน้าด้านลอยไปลอยมาอย่างเดียว

บอกว่าที่ยุบสภาเป็นไปด้วยความเต็มใจตัวเอง เต็มใจหรือประชาชนไล่ ขืนอยู่ต่อก็กลัวมีคนมาปิดฉากซะก่อนจึงรีบยุบ จะเดินหน้าแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชน โธ่เอ๊ย ที่เป็นมาแก้ปัญหาค่าครองชีพอะไรได้สักเรื่อง มีแต่โน่นนี่ขึ้นราคา ประชาชนต้องต่อคิวซื้อน้ำมัน คนตอแหลพูดอะไรต้องใส่มันทันทีอย่าปล่อยให้พูดข้ามวัน

มาบอกพี่น้องในชนบทรอการพัฒนา มึงมาให้เขารอคอยทำไม เป็นนายกฯทำไมไม่แก้ไข พอเลือกเสร็จก็บอกให้รอคอยต่อไปอีก สรุปไม่ต้องแก้กันเลย เกาะโพเดียมอย่างเดียวไม่เคยโผล่หัวไปหาพ่อแม่พี่น้องเลย

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ที่อัปยศที่สุดต้องแก้การทุจริต นายอภิสิทธิ์ได้แก้อะไรบ้าง กฎ 9 ข้อทำอะไรบ้าง มีแต่ส่งเสริมการทุจริต ที่หน้าด้านคือใช้เวลาทีวีหาเสียง นี่ยังไม่จบแถลงเสร็จให้ทีวีช่อง 11 โฆษณาต่อว่าแก้ปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้ ปัญหาทุกอย่างเขาบอกว่าได้ทุ่มเทจนสุดความสามารถแล้ว เป็นที่ประจักษ์แล้วสุดความสามารถทำได้แค่นี้แล้วยังจะหน้าด้านมาเป็นนายกฯอีกทำไม

ถึงบอกว่านายเจิมศักดิ์ควรไปตักน้ำดูเงานายอภิสิทธิ์และตัวเองร่วมกัน ว่าถ้าทำงานดีประชาชนจะไม่หันหลังให้ จะให้โอกาสต่อไป แต่เมื่อประชาชนไม่ให้โอกาสก็ไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้วด่าประชาชน วันนี้ไม่เหลืออะไรให้ศรัทธา ประชาชนก็หันหลังให้ไม่เลือก ก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ และกราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทางบ้าน ที่อยู่ต่างประเทศ และขอบคุณทุกท่านที่เขียนจดหมายส่งมาถึงผมมากมาย อาจจะอ่านไม่ไหว แต่อ่านด้วยตัวเองแทบทุกฉบับ ต้องกราบขอบพระคุณที่สนใจติดตามรับชมรับฟังรายการบนเวทีนี้ด้วยความเอาใจใส่ต่อบ้านเมือง ต้องขอบคุณมาก

พี่น้องครับ วันนี้ท่านคงจะทราบแล้วว่า นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าว และมีพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภา มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.ผมคิดว่าเรื่องนี้คงมีเรื่องที่จะมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนเช่นกันว่า การยุบสภาครั้งนี้ และการออกมาแถลงข่าวของท่านนายกฯ นั้นมีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก และเหมือนเดิมครับ ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ประจำตัว ก็คือ ทำตัวแบบน่ารังเกียจ และหน้าด้านๆ ของนายกฯ นั่นแหละครับ การแถลงข่าวยุบสภาพูดเพียงนิดหน่อย ขอบคุณคนนู้นคนนี้ แต่ประเภทตีกินและใช้เวลาของทีวีหาเสียงให้กับตัวเองแบบหน้าด้านๆ ทั้งๆ ที่ควรจะหยุดแล้วนั้น เดี๋ยวผมจะมาชำแหละให้พี่น้องดูว่า พฤติกรรมของนายคนนี้เป็นอย่างไร

แต่ก่อนจะพูดคุยกับพี่น้องในเรื่องดังกล่าว ผมอยากจะอ่านจดหมายของพี่น้องที่เขียนมา ผมว่าจดหมายฉบับนี้ท่านเขียนมาได้ดีมาก เขียนมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2554 ในโอกาสครบรอบ 100 วันพันธมิตรฯ ในการชุมนุมครั้งนี้ ท่านไม่ได้ระบุชื่อ แต่เนื้อหาสาระผมว่าดีทีเดียว ก็เลยอยากจะอ่านให้พี่น้องฟัง ท่านบอกว่า เรียนคุณประพันธ์ คูณมี ที่นับถือ จากพันธมิตรฯ ต่อต้านคนโกหกขายชาติ คุณประพันธ์ไม่ได้อ่านจดหมายมานานแล้ว เกรงว่าจะอ่านไม่ทันวาระสุดท้ายของนายอภิสิทธิ์ ก่อนจะลี้ภัยไปอังกฤษผมจึงรีบส่งจดหมายมา ตอนนี้ผมอ่านทันแล้วถ้าจะลี้ภัยก็ไปเลยพรุ่งนี้ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 7 อย่าง สมัยที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ท่านสรุปมาให้พวกเราฟังดังนี้ครับ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 7 อย่างสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ

1.ฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ ทรงต้องออกมาขอความเป็นธรรมให้พระราชบิดาและพระราชมารดา

2.ผู้นำระดับโลกหนีตายภัยเสื้อแดงหางจุกตูดออกจากประเทศไทย นายกฯ ไทยหนีตายภัยเสื้อทุกสีหางจุกตูดแต่วนเวียนอยู่ในประเทศไทย

3.รับประกันคนเผาบ้านเผาเมืองว่าเป็นคนดี ไม่มีอาวุธ เจรจาขอถนนคืนง่ายไม่เหมือนพันธมิตรฯ นี่สิ่งมหัศจรรย์อันที่ 3

สิ่งมหัศจรรย์อันที่ 4 ทำให้คนไทยกลายเป็นคนรูหนีตายจากเขมรกลายเป็นผู้อพยพถาวรในดินแดนประเทศไทย นี่ผลงานยอดเยี่ยมของนายอภิสิทธิ์

5.เป็นนายกฯ ที่มีผู้บังคับบัญชามากที่สุดคือ ฮุน เซน, จรกา, แป๊ะขายหมู, พี่เน, น้องโชค และอื่นๆ

สิ่งมหัศจรรย์ต่อมา อันที่ 6 เป็นนายกฯ ที่มีชีวิตสับสนในทุกเรื่อง อันนี้เป็นความสงสัยของท่านนะ สับสนเรื่องเพศ สับสนด้านหน้าด้านหลัง กลางวันครับกลางคืนฮะ สับสนเรื่องหัว ว่าหัวไหนใช้สวมถุงยาง หัวไหนใช้สวมหมวก สับสนเรื่องใครเป็นนายกฯ ไทย สับสนว่า เป็นฮุน เซน หรือจรกา หรือแป๊ะขายหมู หรือพี่เน รู้อย่างเดียวว่าไม่ใช่คนชื่อ อภิสิทธิ์ แน่ๆ สับสนเรื่องเขตแดนไทย สับสนว่าบ้านหนองจาน กับ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของไทยหรือคนเขมร อภิสิทธิ์สับสนมากครับ รู้อย่างเดียวว่า ซอยสุขุมวิท 31 เป็นบ้านของกูผู้เดียวคนไทยไม่เกี่ยวห้ามผ่าน สับสนเรื่องพื้นที่ สับสนว่าเขมรยึด 2 เลนถนนราชดำเนินนอกเลยไม่ขอคืนพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ทั้งๆ ที่เขมรยึดครอง เขมรก็ประกาศว่ากูไม่ออก กูไม่ไป มันไม่สนใจครับ มันสนใจ 2 เลนเท่านั้นเองครับพี่น้อง สับสนเรื่องความจริงกับตอแหล สับสนว่าตอแหลคือความจริง ความจริงคือตอแหล สับสนเรื่องตัวเลข ได้ตำแหน่งผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นแต่ไม่รู้ว่า ทวิ ภาษาไทยคือ 2 จึงไปเอาอินโดนีเซียมาไงครับพี่น้อง สับสนเรื่องสี สีแดงเผาบ้านเผาเมือง แต่แจ้งจับสีเหลืองว่าเป็นผู้ก่อการร้าย พรุ่งนี้เราเลยต้องไปรายงานตัวครับพี่น้อง สับสนเรื่องกฎเหล็ก 9 ข้อว่าเป็นเพียงไอติม 9 แท่ง ที่คนไทยดูวันเดียวก็ละลายหายไป สับสนเรื่องพรรคกับชาติ สับสนว่าพรรคสำคัญกว่าชาติ ชาติสำคัญน้อยกว่าพรรค แต่ไม่สับสนว่า ถ้าชาติไทยเป็นอะไรไปก็ยังไปอยู่ชาติอังกฤษได้

สิ่งมหัศจรรย์อันที่ 7 ท่านบอกว่า เป็นนายกฯ ไทยที่มีฉายามากที่สุด ได้แก่ ไม่ฉลาดขี้ขลาดตอแหล, นางอัปรีย์สิทธิ์, นายกฯ โพเดียม, นายกฯ ไทยใจเขมร, เด็กหย่านมแต่ยังไม่หย่าเอ็มโอยู, เด็กถือขวดนม, หน้าหล่อใจเหลี่ยม, หน้าหล่อใจดำอำมหิต, หล่อปลิ้นลิ้นกระดก, หลอตอแหล, หล่อลืมตัว, หล่อสตอเบอรี่, มาร์คตระบัดสัตย์, มาร์คสวมตอ, มาร์คชั่งไข่ขาย, มาร์คโสภา, มาร์คสองสัญชาติ, มาร์คสองมาตรฐาน, มาร์คสองเลน และมาร์คสอง... เติมเอานะ

นี่เป็นจดหมายของท่านผู้ไม่เปิดเผยนามแต่อ่านแล้วได้อารมณ์ ได้สาระดีก็เลยเอามาฝากท่าน เขียนมาไม่ต้องระบุที่ไหนบอกสะพานมัฆวานก็ถึงแล้วครับ ขอบคุณครับ นี่เป็นอารมณ์ขัน และเป็นปัญญาของพี่น้องประชาชน 100 วันนี้ทำให้คนที่ฟังการปราศรัย หรือรายการบนเวทีนี้ เรียกว่าจบด็อกเตอร์ด้านการเมือง ด้านปกครองกันแทบทุกคนเลยครับ ต้องปรบมือให้ตนเองและพี่น้องประชาชนของเราด้วย

พี่น้องครับ เมื่อวานนี้ผมพูดเรื่องทหาร และพูดเรื่องรถถังยูเครน พูดเรื่อง ผบ.ทบ.นายทหารรุ่นเก่าที่กำลังจะตกรุ่น และกำลังพูดถึงนายทหารยังเติร์กรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง เป็นอนาคตของกองทัพขึ้นมา พูดถึงทัศนะ วิธีคิด ตรรกปรัชญาหลักที่เขายึดถือแล้ว ผมว่าทหารรุ่นใหม่นี้น่าจะเป็นอนาคตมากกว่าทหารรุ่นเก่าที่กำลังหลงกลิ่นอายการเมืองในขณะนี้ พอผมพูดเรื่องรถถังยูเครนเลยมีท่านที่คงจะปรารถนาดีกับผม ส่งภาพมาให้ เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ฉลองพระองค์ในชุดเครื่องแบบทหาร สง่างามทั้ง 2 พระองค์เลยครับ สวยมากภาพนี้ คงจะเป็นเครื่องเตือนใจให้ทหารพึงระลึกถึงว่า กองทัพไทยนั้น จอมทัพคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นะครับ ถือว่าเป็นภาพที่สวยงาม และเป็นมงคล ขอบคุณท่านที่ส่งมาให้

ขณะเดียวกันปรากฏว่า มีผู้โพสต์เข้ามาดูคำปราศรัยของผมเมื่อวานนี้หมื่นกว่าคนครับ ต้องขอบคุณมาก แสดงว่าพี่น้องสนใจและติดตาม เพราะฉะนั้นคนที่บอกว่า คนมาชุมนุม 100 คน 200 คน คนพวกนี้เขาพยายามหลอกตัวเองครับ พยายามกลบเกลื่อนตัวเอง หลอกตัวเอง ปลอบใจตัวเอง หาว่าเราทำลายมิตร ทำลายพวก ไม่มีคนเข้าร่วม ไม่มีคนสนับสนุน พลังพันธมิตรฯ อ่อนลง ความจริงแล้ว พลังพันธมิตรฯ เข้มแข็งขึ้นทุกวัน แต่พลังของคนที่ทำลายมิตรและอ่อนแอลงทุกวัน ก็คือพลังของนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งบรรดาลิ่วล้อพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ นั่นน่ะครับไม่มีพลังประชาชนสนับสนุนเลย เพราะอะไรครับ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์บริหารบ้านเมืองจนคนที่เคยเลือก และคนที่เป็นมิตรอย่างพวกเรา คนที่เป็นแนวร่วมอย่างพวกเราหันตูดให้ทั้งนั้นเลยครับพี่น้อง ไม่มีใครศรัทธาและให้ความนับถือ และทุกคนตัดสินใจว่า คราวนี้โหวตโน และจะไม่เลือกอีกแล้ว เพราะฉะนั้นต้องถามซิว่า ใครกันแน่ที่ไม่มีพลัง และใครกันแน่ที่กำลังผู้สนับสนุนอ่อนแอ ใครกันแน่ที่ทำลายกัลยาณมิตร มิตรอย่างพวกเรายังหันหลังให้แล้วจะมีใครเหลือสนับสนุนคุณ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้เข้าใจผิด จึงพยายามพูดปลอบใจตัวเอง เพื่อปลอบใจบรรดาลิ่วล้อและคนที่กำลังสนับสนุนตัวเองอยู่ ให้ยึดมั่นยึดถือในตัวบุคคล คือนายอภิสิทธิ์ ซึ่งวันนี้คนเห็นแล้วว่าล้มเหลวทุกด้าน

นอกจากนี้ยังมีคนโพสต์เข้าไป ก็คงจะเป็นบรรดาพวกลิ่วล้อของนายอภิสิทธิ์ คงนึกว่า เอ๊ะนายประพันธ์พูดถึงเรื่องรถถังยูคงยูเครนรู้เรื่องรู้ราวเรื่องรถถัง เครื่องยนต์รึเปล่า คุณมันเด็กวานซืน คุณไม่รู้จักผมหรอก ผมมันศิษย์เก่าไทย-เยอรมัน จบมาทางด้านออโต้แมคคานิก จบด้านเครื่องยนต์โดยเฉพาะ ไอ้หำน้อย แล้วถ้าคุณจะเอาข้อมูลเรื่องรถถังยูเครน ผมยังมีในรถอีกลัง คุณอยากจะฟังเรื่องอะไรมานั่งฟังผมจะสาธยายให้คุณฟังว่า รถถังยูเครนมันเศษเหล็กที่กองทัพไปซื้อมา เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากจะรู้ว่า ทำไมเครื่องยนต์ที่เอามาใช้ถึงไปเอาเครื่องยนต์เรือ มานั่งฟังผม ผมจะอบรมพวกคุณที่ยังหูหนวกตาบอด และยังคิดว่า นายอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองน้ำดี ความจริงแล้วมันเน่ายิ่งกว่าเขาครับพี่น้อง เดี๋ยววันนี้คุณมาฟังภาค 2 เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณฟังว่า ความอัปยศของนักการเมืองไทย และความอัปยศอย่างนายอภิสิทธิ์ มันเลวยิ่งกว่าเขา

รถเมล์เอ็นจีวีที่จะซื้อ ไปๆ มาๆ ค้าน โยกไปโยกมา ส่งไปสภาพัฒน์ ไปๆ มาๆ ตอนนี้ ขสมก.แอบซื้อรถเมล์ไปไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคันแล้วครับพี่น้อง นั่นน่ะเรื่องฉาวโฉ่ทุจริต แต่เรื่องนี้หนักกว่ารถเมล์อีก เพราะซื้อรถถังยูเครน พี่น้องรู้ไหมตอนนี้นายอภิสิทธิ์ซื้อไปแล้วกี่คัน ซื้อไปแล้ว 200 คันครับพี่น้อง คนไทยยังไม่รู้เรื่องเลย นี่ไงครับนักการเมืองน้ำดี นักการเมืองที่สะอาด แต่ภาพด้านในนั้นอัปลักษณ์ สกปรก และไม่เคยคำนึงถึงประโยชน์ชาติบ้านเมืองเลยครับพี่น้อง

ประเด็นของรถถังยูเครนมันอยู่ตรงไหนครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยพวกผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ สมัย พล.อ.สนธิ สมัยนั้นกองทัพบกเคยทำเรื่องจะขอให้นายกฯ อนุมัติเพื่อขอซื้อรถถังยูเครนมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ปรากฏว่าที่ขออนุมัติไปคราวนั้นถูกพวกผมอภิปรายในสภา คณะกรรมาธิการคุณธรรม ที่มีท่านประสงค์และหลายคนที่เป็นกรรมาธิการตรวจสอบแล้วมีความเห็นว่ารถถังยูเครนนั้นมีคุณสมบัติไม่ควรจะซื้ออย่างไรบ้าง มันมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสอย่างไรบ้าง อภิปรายในสภา กรรมาธิการตรวจสอบ หลังจากนั้นพอกองทัพบกเสนอไป พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงทำเรื่องตีกลับมา ซื้อไม่ได้นายกฯ ไม่อนุมัติ ไม่เห็นด้วยจะให้ซื้อ แล้วปัญหาคือมาซื้อได้ตอนไหนเดี๋ยวผมจะไล่ให้พี่น้องฟัง

เรื่องนี้มันมีพฤติกรรมที่ไม่สุจริต ไม่โปร่งใสอยู่หลายเรื่อง ผมถึงอยากเอาเรื่องนี้มาพูดเพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นภาพว่า การเมืองที่สกปรก การเมืองที่น้ำเน่า การเมืองที่สามานย์นั้นจะมานำการทหารไม่ได้เพราะมันจะพากันเข้ารกเข้าพงลงนรกทั้งการเมืองและการทหาร เราจะได้ยินอยู่บ่อยๆ ใช้ไหมครับว่า การเมืองต้องนำการทหาร ใช่ครับ การเมืองต้องนำการทหาร แต่การเมืองที่จะนำการทหารได้ ต้องเป็นการเมืองที่สะอาด โปร่งใส มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์และเป็นการเมืองที่ดี ไม่ใช่การเมืองเลว การเมืองสามานย์ ถ้าการเมืองสามานย์ การเมืองที่เลวมานำทหาร มันก็พากองทัพไปเป็นกองโจรเท่านั้นเอง และคนที่พูดได้ดีคนหนึ่งไม่ใช่ผมนะ ก็คนที่ผมเอาบทความท่านมาอ่านเมื่อวานนี้ พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี ซึ่งก็ทราบว่า ท่านเป็นนายทหารที่รับราชการอยู่ภาคเหนือ สอบถามแล้วบอกว่า ไม่ได้เป็นลูกท่าน พล.อ.ประยุทธ์ มีท่านผู้รู้มาบอก แต่เป็นทหารที่ พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร ให้ความเชื่อถือไว้วางใจ และเป็นลูกน้องที่ดีคนหนึ่ง ทำงานอยู่ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เป็นทหารลูกศิษย์ของทูลกระหม่อม ท่านพูดว่าอย่างไรครับ การเมืองที่ถูกทางจึงจะนำทหารไปถูกที่ หรือจะเรียกว่า การเมืองที่ถูกที่จึงจะนำทหารไปถูกทาง นั่นก็นัยยะเดียวกัน คือ การเมืองที่ดีที่มีคุณธรรมเท่านั้นจึงจะมานำการทหารได้ แต่วันนี้ ผู้นำการทหารปัจจุบันนี้กับการเมืองนั้นมันขนมจีนผสมน้ำยาครับพี่น้อง การเมืองสามานย์นำการทหารก็เลยลงนรกเข้ารกเข้าพง ทหารระดับล่างเขารู้ เขาอึดอัด ว่าผู้นำของเขาเวลานี้กำลังเพิดเพลินไปกับผลประโยชน์ที่นักการเมืองหยิบยื่นให้ ก็เลยไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในลักษณะที่ด้อยคุณภาพมาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาใช้ ที่สำคัญก็คือ ทหารนั้นเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนที่มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของชาติ เป็นคนที่จะต้องยึดเอาประโยชน์ชาติ ประโยชน์บ้านเมืองเป็นที่ตั้ง เป็นหลัก จะต้องเป็นคนที่ทำให้ประชาชนไว้วางใจในสิ่งเหล่านี้ แต่การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในเรื่องนี้ มันส่อให้เห็นว่า ทหารบางคนวันนี้ก็พึ่งไม่ได้ และทำลายเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของกองทัพ และทำลายตัวเองอย่างน่าระอายที่สุดครับ ทำลายความไว้วางใจ ทรยศต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ ว่าคุณจะใช้เงินภาษีอากรของประชาชนไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทรงประสิทธิภาพและคุ้มค่า เพื่อเป็นหลักประกันเอกราชและอธิปไตยของชาติ ถ้าอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ เป็นเศษเหล็กล่ะใครรับผิดชอบ ความมั่นคงของประเทศได้รับผลกระทบกระเทือนไหม เงินภาษีอากรของประชาชนต้องละลายแม่น้ำ สูญเปล่าอย่างไรประโยชน์ไหม เครื่องแบบอันทรงเกียรติที่ประชาชนไว้วางใจ คุณก็กลายเป็นคนทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนอย่างน่าระอายไหมครับ นี่คือสิ่งจำเป็นที่ต้องพูด

ที่สำคัญคือ ถ้าการตัดสินใจนี้มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้และพี่น้องจะมองเห็นว่า เราจะพึ่งเขาได้ไหม พี่น้องครับ ประเด็นข้อพิพาทเรื่องการจัดซื้อรถถังยูเครน วันนี้ผมเอาข้อสรุปมาพูดให้ท่านฟัง ถ้าจะดูรายละเอียดมีเป็นกระสอบครับ ไม่ต้องห่วง คนอย่างผมไม่นั่งเทียนพูดเรื่องไร้สาระ เรามีข้อมูล มีสเปก มีรายละเอียดหมด ทำไมผมถึงรู้ว่าเครื่องยนต์มันไปเปลี่ยนเอาเครื่องเรือมาใช้รถยนต์รถถังที่ซื้อนี้ก็เพราะว่าผมมีข้อมูล มีข้อเท็จจริง มีเอกสาร มีหลักฐาน คุณจะดูไหมรายงานของกองทัพบก รายงานว่าเอาเครื่องยนต์อะไรมาใช้ ใครจะมาเถียงผมกรุณาหุบปาก เพราะคุณไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่าได้โพสต์เข้ามา มันอายเขาพวกลิ่วล้อประชาธิปัตย์ที่ไม่ทำการบ้าน ผมไม่มีข้อมูลผมไม่พูด ผมมีเอกสารราชการ ผมมีหลักฐาน

สรุปให้พี่น้องฟังอย่างนี่ครับ ประเทศยูเครนมายื่นซองเอกสารในการประมูลจัดซื้อรถถังยูเครนล็อตแรก มาก็ยื่นเลยเวลาที่เขาให้ยื่นซองแล้ว เขาปิดซองเวลา 16.30 น.ยื่นเลยเวลา นี่ประการที่ 1 ซึ่งโดยระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างมันก็ผิดแล้ว นี่ประการที่ 1 จากการตรวจสอบของ สตง. ประการที่ 2 ประเทศยูเครนเสนอข้อมูลว่า การบรรจุกำลังรบ พลรบในรถลำเลียงพลหุ้มเกราะล้อยางชุดนี้ ระบุว่า บรรจุกำลังพลได้ 9 +2 คือ 11 นาย แต่พอมาดูรายละเอียดแล้ว ความต้องการของกองทัพเขาต้องการกำลังพลที่บรรจุในรถถัง ต้อง 11+2 นาย คือรวมแล้วต้องเป็น 13 นาย ของมันแค่ 11 ก็ตกสเปกไปแล้ว ถือว่าประเทศยูเครนมีคุณสมบัติไม่ครบตามประกาศข้อกำหนดของคณะกรรมการคัดเลือกแบบยานเกราะ ซึ่งต้องถูกตัดสิทธิ์เช่นเดียวกับผู้เข้าเสนอแบบยานเกราะล้อยางจากประเทศอื่น ประเทศอื่นที่เสนอมาไม่เข้าหลักเกณฑ์ อย่างอิตาลี เกาหลี ไม่ผ่านคุณสมบัติก็ถูกปัดตก แต่ทำไมประเทศยูเครนไม่ตก

เดี๋ยวพี่น้องตามผมมาแล้วจะรู้ว่าใครที่มันหากินกับบริษัทนี้ แล้วมันเกี่ยวดองอะไรกับคนในกระทรวงกลาโหม เป็นญาติพี่น้องอะไรกัน แล้วจะรู้ว่า ทำไมมันถึงมีอภิสิทธิ์ ในขณะที่บริษัทอื่นตก บริษัทของยูเครนไม่ตก เพราะญาติพี่น้องตระกูลของคนในกระทรวงกลาโหมเป็นที่ปรึกษาบริษัทนี้ แล้วพี่น้องจะเห็นว่า การเมืองวันนี้ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงอี๋อ๋อเอาใจทหาร ก็มันหารับประทานร่วมกันไงครับ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย

ข้อที่ 3 ประเทศยูเครนไม่มีความร่วมมือทางด้านการทหารกับกองทัพบกไทย นี่ก็ถือว่าขัดระเบียบคำสั่งของกองทัพบกแล้ว การที่จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากประเทศไหนนั้น จะต้องเป็นประเทศที่มีความร่วมมือระหว่างกองทัพบกไทยกับประเทศนั้น ประเทศยูเครนกับเราไม่มีข้อตกลงความร่วมมือทางด้านการทหารกันเลยครับพี่น้อง จึงขัดกับระเบียบและคำสั่งตามหนังสือที่ กห.0403/4257 ลงวันที่ 1 พ.ค.2541 พวกลิ่วล้อประชาธิปัตย์ฟังเอาไว้ ถ้าไม่มีข้อมูลอย่าทะลึ่งมาเถียงประพันธ์ก็พอแล้ว เมื่อมันขัดระเบียบ ไม่มีความตกลงมันก็ซื้อไม่ได้ เพราะปัจจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น มันจะมีผลกระทบต่อการจัดหายุทโธปกรณ์ เพราะถ้าเราไม่มีความสัมพันธ์ร่วมมือทางการทหาร วันหนึ่งถ้าเราซื้อจากเขาสแปรพาสขาดแคลน อุปกรณ์ขาดแคลน ยุทโธปกรณ์ที่ต้องการเพิ่มเติม เกิดเขาไม่ส่งให้ วันหลังก็กลายเป็นเศษเหล็ก นี่จึงเป็นหลักการ เป็นระเบียบ ประเทศนี้ผิดหลักการ ผิดระเบียบ เรายังไปซื้อไปร่วมมือกับเขา นี่ประการที่ 3

เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้ ประเทศยูเครนก็ควรจะต้องถูกตัดสิทธิ์อีกเหมือนกัน เพราะเป็นประเทศที่เราไม่มีความตกลงร่วมมือกันทางทหารครับพี่น้อง เห็นไหมครับมันผิดหลักเกณฑ์ทั้งนั้น กองทัพไปซื้อมาได้อย่างไร

ประการที่ 4 ประเทศยูเครนได้นำรถยานเกราะล้อยางในรุ่น BTR 70, BTR 80 มาดัดแปลงขาย โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น BTR 3E 1 ซึ่งเป็นรถที่ประเทศรัสเซียเขามอบให้ประเทศยูเครนใช้ เมื่อมีการแยกประเทศออกไปแล้ว รัสเซียมอบรถถังจำนวนนี้ให้ประเทศยูเครน 2,000 คัน ปรากฏว่า ประเทศยูเครนได้นำรถที่ประเทศรัสเซียมอบไว้นี้มามอบและดัดแปลงจำหน่าย ประเทศรัสเซียโดยบริษัท เจเอสซีอาซามัด แมชชินเนอรี่ จำกัด เลยออกหนังสือยืนยันว่า ประเทศยูเครนไม่มีโรงงานผลิตเครื่องจักรของตนเองที่จะทำการผลิตลำเลียงพลหุ้มเกราะล้อยางได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ประเทศยูเครนได้ปรับและซ่อมแซมรถลำเลียงพลหุ้มเกราะของรัสเซียที่ได้ทำการแก้ไขไว้แล้วก่อนนั้น สรุปก็คือ

ถ้าเราจะซื้อรถถังจากประเทศไหน มันต้องเป็นรถถังที่ประเทศนั้นเขาผลิตได้เอง และเป็นรถถังที่ผลิตขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่ซื้อรถถังเก่าที่เขาดัดแปลงย้อมแมวขายครับพี่น้อง ประเทศเจ้าของผู้ผลิตคือ รัสเซีย เขามายืนยันแล้วว่า นี่เป็นรถถังของรัสเซีย ไม่ใช่รถถังของยูเครน นี่ก็เป็นหลักฐานที่กระทรวงกลาโหมไม่ควรจะซื้อ ใช่ไหมครับพี่น้อง

นอกจากนี้ ในขั้นตอนเสนอราคา พี่น้องรู้ไหม ตอนประมูลเสนอราคา ยูเครนเสนอคันละ 8 แสนเหรียญสหรัฐ แต่ภายหลังพอมาทำสัญญาปรากฏราคาไม่เป็นไปตามนั้น มันราคาผิดจาก 8 แสนเหรียญ รุ่นCarrier BTR 3 E1 นั้นปรากฏไปทำสัญญา 948,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา เรียกว่า ตอนประมูลเสนอราคาหนึ่งพอตอนทำสัญญาตกลงจะซื้อขายกัน ไปทำสัญญาซื้อขายกันอีกราคาหนึ่ง แบบนี้มันก็โกงประเทศคู่แข่งที่เขามายื่นราคาแข่งในเวลานั้นใช่ไหมครับพี่น้อง ซึ่งมีรายละเอียดหมดว่า รุ่นไหนตอนเสนอราคาเสนอเท่าไหร่ พอถึงเวลาจริง ทำสัญญาตกลงกันอีกราคา ผมก็มีข้อมูล

ทั้งหมดนี้พี่น้องเห็นไหมครับว่ารถถังที่ซื้อจากประเทศยูเครนนั้นมันเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ทั้งนั้นเลย คือประมูลจัดซื้อจัดจ้างมาโดยไม่ชอบตามกฎหมาย นี่คือปัญหา คณะอนุกรรมการที่เขาตรวจสอบชุดนี้ ตรวจสอบมาตั้งแต่สมัยผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ คณะอนุกรรมการนี้คือ คณะอนุกรรมาธิการจริยธรรม คุณธรรม ของสภานิติบัญญัติ ตรวจสอบครับ คณะนี้มีท่านประสงค์เป็นประธาน ตรวจสอบจึงพบข้อมูลข้อเท็จจริง และทำเรื่องนี้ร้องเรียน เสนอไปที่สำนักงานตรวจการแผ่นดิน และ ป.ป.ช.เวลานี้เรื่องรถถังยูเครนล็อตแรก สตง.ชี้มูลมาแล้วว่ามันผิด ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย และขั้นตอนการประมูล ทั้งได้ส่งเรื่องนี้ไปที่ ป.ป.ช.แล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับบุคคลเหล่านี้แล้วครับพี่น้อง เขาสอบพยานทุกคนแล้ว เรื่องคาอยู่ที่ ป.ป.ช. และ สตง.

ล็อตแรกที่ซื้อ ปรากฏว่ากองทัพบกได้จัดซื้อรถยานเกราะล้อยาง จำนวน 96 คัน ปรากฏว่ารัฐมนตรีกลาโหมที่อนุมัติให้ซื้อ เมื่อกี้ผมบอกแล้วใช่ไหมครับว่า เคยเสนอเรื่องนี้ไปสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ พล.อ.สุรยุทธ์ เขาก็ตีเรื่องกลับมา ปรากฏว่าซื้อไม่ได้ ยังไม่อนุมัติ ครม.ยังไม่อนุมัติ มาอนุมัติตอนไหนครับพี่น้อง ตอน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เดินตามก้นนายสมัคร สุนทรเวช สังเกตไหม ตอนนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เดินตามก้นนายสมัครแจเลยครับพี่น้อง สมัครไปจีนก็ตาม สมัครไปไหนก็ตาม ทำตัวอย่างกับ ผบ.ทบ.เป็นนายทหารติดตามนายกรัฐมนตรี เหมือนตำรวจติดตามไม่มีผิดเลยครับ จนคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผบ.ทบ.เวลานี้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นนายตำรวจรับใช้ หรือนายตำรวจติดตามรัฐมนตรีกลาโหม สมัคร สุนทรเวช หรือนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ไปแล้วหรือ ใช่ไหมครับพี่น้องในช่วงเวลานั้น ปรากฏว่านายสมัครเซ็นอนุมัติในตอนนั้น ใครเป็น ผบ.ทบ. คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แต่การอนุมัติครั้งนั้นนายสมัครยังให้ความเห็นว่า เห็นควรแต่งตั้งผู้แทนจาก สตง.ไปเป็นคนตรวจรับด้วย 96 คันเพื่อความโปร่งใส เนื่องจากคำสั่งอนุมัติของรัฐมนตรีกลาโหมนั้น ก็อนุมัติแต่เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต จึงจำเป็นต้องแต่งตั้งผู้แทนจาก สตง. ไปตรวจสอบร่วมด้วย สรุปแล้วคือ อนุมัติให้มีการจัดซื้อ 96 คันในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช แต่ปราฏว่า หลักการอนุมัติครั้งนั้นยังมีการมาขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ และเปลี่ยนระบบเกียร์ของประเทศยูเครน ปรากฏรถถังยูเครนชุดที่จะซื้ออันนั้นน่ะ ยังขอเปลี่ยนเครื่องยนต์และเปลี่ยนเกียร์ด้วยครับพี่น้อง เพราะอะไร เพราะเครื่องยนต์ชุดเดิม เป็นเครื่องยนต์จากประเทศเยอรมัน ที่เขาเรียกว่า เครื่องยนต์ดอยซ์ เครื่องยนต์เดิมเป็นเครื่องยนต์ดอยซ์ บีเอฟ 6 เอ็ม 1015 มาเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ เอ็มทียู 6 อาร์ 106 ทีดี 21 เปลี่ยนเครื่องยนต์ แล้วก็ยังเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ซึ่งการเปลี่ยนเครื่องยนต์ และเปลี่ยนเกียร์นั้น มันจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจรับรองของ สตง. จึงจะสมบูรณ์ แต่ปรากฏว่า การเปลี่ยนนั้นไม่ได้รับความเห็นชอบจาก สตง. สตง.เลยทำหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นสาระสำคัญที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มีความเห็นแย้งกับสำนักงานอัยการสูงสุด และได้ตอบข้อหารือของกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก กองทัพบก ที่ให้ข้อมูลกับสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่ครบถ้วนตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่ดำเนินการแข่งขันเลือก ซึ่งเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของทางราชการ และไม่เป็นไปตามกำหนดแนวทางของการบริหารราชการแผ่นดิน

สรุปคือ การอนุมัติซื้อรถถังล็อตแรกนั้น เป็นรถถังย้อมแมว ประมูลไม่ถูกหลักการ เครื่องยนต์ก็เปลี่ยน เกียร์ก็เปลี่ยน มันไม่เป็นเครื่องยนต์ตามสเปกเดิมที่เสนอมาแต่แรกอีกต่างหากครับพี่น้อง ทั้งหมดนี้ ล็อตแรก 96 คัน ยังมีปัญหา และยังไม่ได้รับมอบ ที่ส่งมา 3-4 คันเป็นตัวอย่างและรับมอบมานั้น ก็ไม่กล้าเอามาวิ่ง

(สัญญาณขาดหาย)

ยูเครนหรืออย่างไรครับพี่น้อง ตกลงรถถังประเทศอื่นไม่มีดีแล้วหรอ นี่ถ้าทหารอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นชายชาติทหารและเป็นสุภาพบุรุษจริง ควรจะเอารถถังยูเครนมาโชว์ให้พี่น้องดูหน่อยว่า ประสิทธิภาพมันสมราคาคุยหรือเปล่าครับพี่น้อง มาทดสอบ มายิง มาโชว์ เปรียบเทียบกับรถถังประเทศอื่นๆ ให้ประชาชนดูหน่อยได้ไหม ถ้ามันมีประสิทธิภาพจริง

เพราะฉะนั้นโดยความเป็นจริง วันนี้ประเทศไทยมันแย่ไหมครับพี่น้อง นี่ผมพูดแค่เรื่องเดียว ยังไม่พูดเรื่องอื่น ไอ้ไม้ชี้ป่าช้า นั่นก็จบไปแล้ว ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ตรวจสอบไม้ชี้ป่าช้า ไม้ล้างป่าช้า ไอ้นั่นก็ซื้อเขามา ไอ้นี่ก็เหมือนกันครับ รถถัง ถ้าบ้านเมืองมีทหารที่ตัดสินใจซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาแบบนี้ โดยคำนึงถึงอะไร คำนึงถึงศักยภาพ ประสิทธิภาพของรถถัง หรือคำนึงว่า นายและพวกตัวเองจะได้ประโยชน์อะไรจากการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้กันแน่ นี่คือปัญหา เพราะฉะนั้นกองทัพบกในการดำเนินดังกล่าวนี้ จึงเป็นการไม่สอดคล้องกับระเบียบราชการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก็คัดค้านในการอนุมัติจัดซื้อ รถถังล็อตแรก 96 121 นั้นเป็นล้อยาง แต่ 7,200 ล้านที่จะซื้อนี่เป็นล้อตะขาบ นี่ก็อีกแบบหนึ่ง มันก็จะแบบเดียวกันอีก เดี๋ยวเอาแต่ละรุ่นมาจารไนแล้วพี่น้องเราแทบจะต้องเอาตีนก่ายหน้าผาก ทุกหน่วยงานใช้เงินภาษีประชาชนแบบนี้

เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์รุ่นนี้ กลายเป็นเครื่องยนต์ที่ไม่เป็นไปตามสเปก ไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ผลิตจากประเทศเยอรมัน มันเป็นเครื่องยนต์เรือที่เอามาสวมแทนรถถังยูเครน ขณะนี้ครับ คำถามก็คือ เอ๊ะเอาเครื่องเรือมาใส่แทนได้อย่างไร นี่น่ะซิครับ ปรากฏว่าเครื่องเรือ คนที่หากินกับกองทัพเรือ ก็คือบริษัทหนึ่ง ซึ่งมีคนนามสกุลวงศ์สุวรรณ เป็นที่ปรึกษาบริษัทนี้อยู่ และวันนี้มาเป็นวุฒิสมาชิก พี่น้องครับ ผมไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร สามารถเอาเครื่องเรือไปใส่ในเครื่องรถถังได้อย่างไร ถ้านี่ไม่ใช่นามสกุลวงศ์สุวรรณ จะทำได้ไหมพี่น้องครับ คำถามก็คือ การจัดซื้อครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ท่านได้ประโยชน์อะไร พล.อ.อนุพงษ์ ท่านได้ประโยชน์อะไร พล.อ.ประยุทธ์ คุณได้ประโยชน์อะไร นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ คุณได้ประโยชน์อะไรในการอนุมัติโครงการนี้ให้กองทัพ และ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงศ์สุวรรณ ท่านได้ประโยชน์อะไร จึงสามารถเอาเครื่องเรือมาขาย และมาใส่ในรถถังยูเครนล็อตที่จะซื้อนี้ได้ ช่วยตอบคำถามให้พี่น้องประชาชนทราบหน่อย ผมไม่อยากกล่าวหาอะไรท่าน แต่ช่วยตอบคำถามหน่อยครับว่า ทำไมต้องซื้อรถถังยูเครน และนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ ช่วยตอบคำถามประชาชนหน่อย ทำไมคุณจึงเอาใจ พล.อ.ประยุทธ์ เอาใจ พล.อ.ประวิตร เอาใจอนุพงษ์ อนุมัติโครงการให้หมดเลย จะซื้อรถถังยูเครนกี่พันล้านกี่หมื่นล้านก็ประเคนให้ เพราะอะไร เพราะการเมืองมันสามานย์ มันอยากติดสินบนทหารเอาไว้เป็นพวกไงครับจะได้ไม่ปฏิวัติ ไม่มีเหตุผลอะไร วันนี้ทั้งกองทัพกับฝ่ายการเมือง มันจึงขนมจีนผสมน้ำยา บ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้ มันผีเน่ากับโลงผุ การเมืองที่สามานย์มันนำการทหาร บ้านเมืองไม่ฉิบหาย เสาและรั้วของประเทศถึงผุกร่อนและไว้วางใจไม่ได้

ถ้าเป็นอย่างนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ในระดับ ผบ.ทบ. ระดับกองกำลัง ระดับผู้บังคับบัญชาทำเรื่องอย่างนี้ได้ แล้วพี่น้องครับ หน่วยงานอื่นๆ จะไม่แย่กว่านี้หรอครับ ผมพูดแค่นี้ยังไม่ต้องลงรายละเอียดอะไรว่าสเปกรถถังเป็นอย่างไร อะไรอย่างไร รายละเอียดเอาไว้ให้เขามาเถียงกับผมก่อน แล้วผมจะตอกหน้ากลับไปทีละคนสองคน รายละเอียดคุณอยากรู้ผมก็พอจะมีความรู้ ศึกษาได้เครื่องยนต์กลไก

พูดแค่นี้พี่น้องเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่า ทุกวันนี้ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยเป็นพรรคที่รังเกียจทหาร กับทหารนั้นยังกับขมิ้นกับปูนในอดีต วันนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ใช่ไหมครับพี่น้อง แสดงว่าคนพวกนี้วันนี้สมประโยชน์กันใช่ไหมครับมันถึงร่วมกันได้ สมประโยชน์กันใช่ไหมถึงลากคอไอ้เนออกจากพรรคเพื่อไทยแล้วมาตั้งรัฐบาลได้ อนุมัติโครงการคราวนี้ก็เพื่อจะผูกมัดทุกคนว่า เลือกตั้งเสร็จห้ามแตกแถวไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย แม้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงมาก ก็ยังไม่แน่ว่าจะรวมเสียงเอาพวกนี้ไปร่วมตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะวันนี้สมคบคิดกัน เรียกว่าร่วมหัวจมท้ายกันปล้นบ้านกินเมืองไปหมดแล้วครับพี่น้อง

เพราะฉะนั้นวันนี้คุยให้พี่น้องฟังว่า เรื่องรถถังยูเครนมันเป็นภาพอัปลักษณ์และเป็นความอัปยศเรื่องหนึ่งของกองทัพบกไทย ที่ผมเศร้าใจเพราะอะไร เพราะ ผบ.ทบ.ออกมาให้สัมภาษณ์กระดี๊กระด้าดีใจว่า ที่ได้อนุมัติซื้อรถถัง 200 กว่าคัน และจะซื้ออีก 49 คันรถตีนตะขาบ 7,200 ล้าน บอกจะใช้ได้ถึง 200 ปี ใช้ได้อีกเป็นร้อยปี ผมไม่เข้าใจว่าท่านเอาอะไรพูด เอาอะไรคิด แล้ววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการพัฒนาของเครื่องยนต์กลไกไม่เกิน 1 ปีก็ตกรุ่น ที่จริงแล้วรถถังรุ่นนี้ซื้อมาก็ใช้ไม่ได้ จะมาพูด 100 ปีได้อย่างไร ถ้าคุณเป็นสุภาพบุรุษจริง ผมอยากให้ไปทำสำรวจความเห็นของทหารว่า เขาเห็นด้วยหรือเปล่าที่ซื้อรถถังยูเครน ที่แน่ๆ ผมรู้ทหารรู้สึกระอายครับ ที่ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจซื้ออย่างนี้ เขาไม่ภูมิใจ

เพราะฉะนั้นความหวังของเราในวันนี้มันเศร้า เพราะว่าทหารทำตัวเป็นผู้รับใช้การเมือง การเมืองก็เอาผลประโยชน์โยนใส่ทหาร ทหารก็เลยลืมภาระหน้าที่ ลืมบทบาทของตัวเอง กลายพันธุ์เหมือนอย่างบทความของ พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี เขียนนั่นแหละครับ เป็นพวกกลายพันธุ์ เห็นแก่ประโยชน์และความละโมบโลภมากจนลืมภาระหน้าที่ของตัวเอง

เมื่อพูดถึงทหารแล้ว ผมจึงคิดว่าความหวังของพวกเรานั้นมันมีอยู่เพียงทหารรุ่นหนุ่มๆ ที่ยังเหลืออยู่ แล้วก็เป็นทหารที่มีความคิดดี ก้าวหน้า หลายคนครับ ซึ่งผมอยากจะพูดถึง แต่เมื่อคืนผมพูดถึง 1 ท่านแล้ว มาดูอีกท่านหนึ่งครับ ท่านใช้นามปากกาว่า ขงเบ้ง ผมอยากจะเอาบทความของท่าน ที่ใช้นามปากกาว่า ขงเบ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของทูลกระหม่อมอาจารย์ เขียนบทความลงในนี้ ว่าด้วยเรื่องของบ้านเมือง ท่านบอกว่า "บ้านเมือง บ้านเมือง บ้านเมือง บ้านเมืองวันนี้" หัวข้อของท่านนะครับ ท่านบอกว่า หากใครจะปรารภถึงปัญหาของชาติวันนี้ขึ้นมา การเมืองวันนี้ การเมืองวันนี้ การเมืองวันนี้ การเมืองวันนี้ การเมืองวันนี้ จะให้ความหมายที่แคบไป แคบเพราะบริบทการเมืองไทยคือความเป็นประชาธิปไตย แม้ปัญหาประชาธิปไตยอาจเป็นปัจจัยต่อเศรษฐกิจ โดยจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเสรี โดยเฉพาะในภาวะที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ปัญหาของชาติทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ประชาธิปไตยและเศรษฐกิจเท่านั้น จึงสมควรที่ผู้นั้นจะปรารภเสียใหม่ว่า บ้านเมืองวันนี้ บ้านเมืองวันนี้ บ้านเมืองวันนี้ ท่านย้ำตรงนี้นะครับ ซึ่งจะครอบคลุมปัญหาทั้งหมด และปลุกจิตสำนึกแก่คนไทยทุกคนว่า บ้านเมืองของเราเราต้องรักษา แม้เราจะจรรโลงชาติด้วยคำขวัญสักร้อยอื่นหมื่นแสน ก็ไม่ซึ้งเท่ากับความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อันเป็นทั้งสถาบันหลักของชาติ และเป็นแก่นแท้ รากฐานทางวัฒนธรรมไทย เป็นอัตตาอยู่ในรูปลักษณ์ของความเป็นไทยมาช้านาน ปัญหาบ้านเมืองวันนี้ เราเปรียบเหมือนผู้มองไม่เห็นฝั่ง และไม่หยั่งรู้ ก็จะสาละวนแต่ฝั่งนี้ สิ้นอัตภาพไปในฝั่งนี้ และได้อัตภาพใหม่ในฝั่งนี้ ส่วนผู้มองไม่เห็นฝั่งแต่หยั่งรู้ ก็จะหาวิธีจะข้ามไป

เครือข่ายการเมืองปัจจุบันเชื่อมโยงกันในระดับท้องถิ่น แต่ในระดับชาติ การเมืองในระดับท้องถิ่น เคยถูกแสตมป์ (ตีตรา) ว่าการศึกษาของคนในชาติต่ำ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยของคนในชนบทยังมีน้อย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่จบการศึกษาภาพบังคับ ยังมีคนไม่รู้หนังสือ คนชรา และเด็กที่จะพ้นวัย พลอยมีศิษย์เลือกตั้ง ซึ่งพวกนี้ถูกชักจูงไปตามกระแสค่านิยมระดับชาติ ส่วนคนชราหูตาฝ้าฟางก็จะคล้อยตามบทบาทของนักการเมืองระดับท้องถิ่น โครงการรณรงค์ประชาธิปไตยมีมากมาย ทั้งครู ก. ครู ข. และวิทยากรแม่ไก่ แต่การซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็ยังมีอยู่ คำชาวบ้านว่า เงินไม่มากาไม่เป็น ถามเสียงของผู้แสวงประโยชน์ทางการเมืองโดยมิชอบ มีอยู่ทุกตำบล นี่คือเสียงของทหารพูดและเขียน ฐานเสียงเกิดจากการสะสมผลประโยชน์ต่างตอบแทน มิใช่เกิดจากการสร้างสมดุลคุณงามความดี ใครสมัครรับเลือกตั้งก็ได้ ถ้าได้ฐานเสียงนั้น มีคีย์เวิร์ดอยู่หลายคำที่เป็นตัวแปรทางการเมือง ได้แก่ ผู้มีอิทธิพล หัวคะแนน ฐานเสียง การเลือกตัวบุคคล การเลือกพรรค สภาผัวเมีย ระดับรากหญ้า คนชั้นกลาง ประชานิยม ผลประโยชน์ ขั้วอำนาจ โควต้ารัฐมนตรี เป็นต้น เห็นไหมครับทหารเขายังรู้เรื่องพวกนี้เลย แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ยักรู้ บอกการเมืองดีจังเลยเพราะได้รับอนุมัติงบประมาณครับพี่น้อง

การแก้ไขปัญหาการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็มีวิถีทางประชาธิปไตยและทางออกอื่น แต่ปัญหาการเมืองนั้นขึ้นอยู่กับตัวแปรการเมือง ผู้สร้างความไม่สงบเรียบร้อยทางการเมือง จะต้องถูกกล่าวหาว่าทำให้เศรษฐกิจชะงักงัน ซึ่งเป็นคำทันสมัยในสถานการณ์ปัจจุบัน และใช้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาปรองดองกัน รวมทั้งป้องปราม กล่าวโทษ และโยนความผิด ความมีเสน่ห์ทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ดึงดูดนักลงทุนได้โดยง่าย ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ทรัพย์ในดินสินในน้ำ ของอนุภูมิภาค ตัวตนของภูมิภาคนี้ วัฒนธรรมที่ตกผลึกเป็นรากเหง้าของเรา เราก็ไม่รู้ทั้งหมด เราไม่ศึกษาแต่กลับดูแคลน แต่เขาศึกษาเขาจึงรู้ จึงกล่าวได้ว่า เราไม่รู้จักตนของเราและไม่รู้จักตัวเขาเสียแล้ว หลายทศวรรษที่ผ่านมาแล้ว ไม่ปรากฏว่า พญาช้างสารประสานงา เห็นมีแต่ควายถูกเสี้ยมเขาให้ชนกัน แล้วควายนั่นเองแหละที่พ่ายแพ้เสียประโยชน์ในอนุภูมิภาค ประเทศชาติกำลังจะถูกจัดสรร

สุดท้ายนี้เป็นส่วนสำคัญครับ การเข้าสู่การเมือง ควรเป็นวิถีทางที่มีเกียรติ แต่ปัจจุบันนี้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การเข้าสู่การเมืองจึงง่าย พลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้ชั่วข้ามคืน เพียงแค่ซื้อด้วยเงิน ด้วยการรีครูท (คือการคัดเลือก) ผ่านเครือข่ายในเขตเลือกตั้ง ภายใต้ความหมายของคีย์เวิร์ด หรือความหมายสำคัญ คำสำคัญทางการเมือง ได้แก่ ผู้มีอิทธิพล หัวคะแนน ฐานเสียง และรสนิยมถ่อย ดั่งคำชาวบ้านว่า เงินไม่มากาไม่เป็น นั่นละพวกโกงชาติเป็นพวกกินบุญเก่า โกงชาติด้วยมิจฉาสติ มีปัญญาในการทำชั่ว พวกเขาเป็นผู้มองไม่เห็นฝั่ง เขาไม่คิดจะข้ามไป เขาสาละวนอยู่แต่ฝั่งนี้ และมองไม่เห็นว่าจะมีภัยมาในวันหน้า จึงต้องปรารภปัญหาของชาติวันนี้ว่า คือ บ้านเมืองวันนี้ บ้านเมืองวันนี้ บ้านเมืองวันนี้ ไม่ใช่ปัญหาการเมืองวันนี้

เห็นไหมครับ นี่ทหารรุ่นหนุ่มๆ มีความเข้าใจธาตุแท้ และสันดานนักการเมืองดีกว่านายเยอะเลยครับพี่น้อง นายวันนี้ออกมาชื่นชมนักการเมือง พรรคการเมือง เราต้องการเมืองแก้ไขการเมืองในระบอบของตัวเอง การที่ ครม.อนุมัติงบประมาณให้วันนี้ ก็ ครม.ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีความรู้ อย่างนั้นอย่างนี้ ชื่นชมยกย่อง ครม. นักการเมือง เป็นการใหญ่ครับ นี่คือคำพูดของ ผบ.ทบ. ผมก็เลยจะถามท่านหน่อย ท่านมาเรียกร้องวันนี้ว่า ทหารต้องเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ถ้าท่านเป็นกลางแน่ ท่านต้องโหวตโนใช่ไหมครับ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคไหน ไม่เลือกพรรคไหน ก็ต้องกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ไม่ใช่เป็นกลางแต่เอียงข้างพรรคใดพรรคหนึ่ง แล้วอย่าบอกว่าเป็นกลาง ใช่ไหมครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ทหารจึงมี 2 จำพวก และ 3 ประเภท ประเภทหนึ่ง ทหารอาชีพ อีก 2 จำพวก คือ ทหารการเมือง กับทหารพาณิชย์ วันนี้ที่บ้านเมืองเป็นอยู่อย่างนี้ เพราะเรามีทหารการเมืองกับทหารพาณิชย์ มีอำนาจครอบงำกองทัพเหนือทหารอาชีพ ก็เลยขอร้องว่า ทหารอาชีพลุกขึ้นมาปกป้องอาชีพของท่านเสียเถอะครับ

พี่น้องครับผมพูดมาก็กินเวลาไปพอสมควร ผมว่าจะพูดอีกเรื่องหนึ่ง เอาเรื่อง อ.เจิมศักดิ์ คนอื่นเขาพูดไปเยอะแล้วผมไม่อยากพูด ผมจะพูดนิดเดียวแล้วกันเรื่องของ อ.เจิมศักดิ์ และบรรดานักวิชาการของพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้กระแสโหวตโนของเราขึ้นสูง แต่จะเห็นได้ว่า นักวิชาการพวกนี้จะสร้างวาทะกรรมมา 2 - 3 เรื่อง อย่างที่คุณสนธิพูดไปแล้ว วันนี้เจิมศักดิ์ก็เขียนบทความลงแนวหน้าเหมือนกัน ในคอลัมน์ขอคิดด้วยคน เขียนเรื่องโหวตโนเพื่อใครหรือเพื่อไทย เห็นไหมครับนายแหลอีกคน พยายามจะใส่ร้ายว่า โหวตโนทำเพื่อพรรคเพื่อไทย นี่บทความของคุณเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผมอยากจะบอกคุณเจิมศักดิ์ ปิ่นทองว่า ตกลงที่คุณเขียนโหวตโนเพื่อใครหรือเพื่อไทย ผมถามคุณตรงๆ ได้ไหม คุณอยากจะมาบอกพวกผมอย่าโหวตโนไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ใช่ไหม คุณพูดมาตรงๆ ดีกว่า ความจริงแล้วครับพี่น้อง คนพวกนี้ทำตัวเป็นอีแอบ ความจริงหน้าด้านไม่กล้าพูดตรงๆ เขียนเพื่อบอกให้พวกเราหันกลับไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เลือกนายอภิสิทธิ์อีกใช่ไหม ตอบมาเลยตรงๆ

พี่น้องครับ ผมอยากสรุปให้พี่น้องฟังว่า วันนี้ความจริงแล้วที่คุณเจิมศักดิ์พยายามจะบิดเบือน ใส่สีตีไข่ว่า เราโหวตโนเป็นการทำเพื่อพรรคเพื่อไทยนั้น คุณเจิมศักดิ์ต้องหันกลับไปดูเงาตัวเองเสียใหม่ และหันไปยอมรับความจริง พี่น้องครับถ้าเราทบทวนให้ดี ปี 40 ผมเป็นคนออกไปไล่ พล.อ.ชวลิต ทำให้เศรษฐกิจพัง นายชวน หลีกภัย กลับมาเป็นนายกฯ รอบ 2 นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ และช่วงนั้น พล.อ.ชวลิต ทำให้บ้านเมืองพังจนเข้าโปรแกรมไอเอ็มเอฟ นายชวนเข้ามาเป็นนายกฯ บริหารบ้านเมืองรอบ 2 ครั้งนั้นบริหารบ้านเมืองเป็นอย่างไรครับ เขาเรียกว่า ชวนเชื่องช้า ใช่ไหมครับพี่น้อง นี่ก็ยังไม่ได้รับรายงาน อันนี้ก็ขอศึกษาดูก่อน อันนี้ก็ต้องรอหน่วยงานเขาเสนอขึ้นมา ปัญหาบ้านเมืองหลายเรื่องแก้ไม่ได้ แล้วยังออกกฎหมาย 11 ฉบับ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ออกกฎหมายจนเขาบอกว่า กฎหมายขายชาติ และยังแถมไปทำ MOU43 ด้วยใช่ไหมครับพี่น้อง การขายทรัพย์สิน ปล่อยให้ ปรส.ยึดทรัพย์สินของประชาชนไปประมูลขายให้กับบริษัทโกแมนแซก เลห์แมนบราเธอร์ และบริษัทต่างๆ คนไทยถูกเอาทรัพย์สินไปขายหมดเกลี้ยง โดยบริษัทฝรั่งเข้ามายึดกิจการของคนไทยหมด นั่นคือยุคการบริหารของนายกฯ ชวน

ผมจึงสรุปให้พี่น้องและคุณเจิมศักดิ์ฟังว่า ถ้าคุณเป็นคนที่มีใจเป็นธรรม และคุณเคารพความจริง คุณต้องรู้ว่า คนที่ทำให้ทักษิณเกิดคือ นายชวน หลีกภัย ครับพี่น้อง ถ้าชวน หลีกภัย บริหารบ้านเมืองดี และบริหารชาติบ้านเมืองด้วยความกระตือรือร้น เข้าถึงประชาชน ทันต่อปัญหา แก้ไขปัญหาชาติประสบความสำเร็จ รับรองทักษิณไม่มีวันได้เกิด พรรคไทยรักไทยไม่มีวันเอาชนะเลือกตั้ง ชวน หลีกภัย ได้ใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นผมจึงสรุปให้ฟังว่า ชวน หลีกภัย เป็นคนทำให้ทักษิณเกิดครับ แต่คนที่ทำให้ทักษิณตายคือ พันธมิตรฯ ใช่ไหมครับ พันธมิตรฯ เป็นคนทำให้ทักษิณตาย ระบอบทักษิณพังทลาย หมดอำนาจ ด้วยพลังของพี่น้องพันธมิตรฯ ใช่ไหมครับ ถ้าไม่มีพันธมิตรฯ ประชาธิปัตย์จะต้องเป็นฝ่ายค้านไปประมาณ 150 ปีถึงจะได้เป็นรัฐบาล แล้วเป็นเพราะการต่อสู้ของพวกเราใช่ไหมคุณถึงได้มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง พอนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ปรากฏว่า ผมให้ข้อสรุปอีกครั้งหนึ่งคือ ชวน หลีกภัย ทำให้ทักษิณเกิด พันธมิตรฯ ทำให้ทักษิณตาย อภิสิทธิ์ทำให้ผีดิบทักษิณฟื้นชีพขึ้นมา ทำไมล่ะ ก็เพราะบริหารหน่อมแน้ม ไร้ประสิทธิภาพ ล้มเหลวทุกด้าน นายอภิสิทธิ์บริหารบ้านเมืองล้มเหลวทุกด้าน นายเจิมศักดิ์ นายทักษิณถึงจะกลับมา ถ้าคุณบริหารบ้านเมืองดี ไม่มีวันที่ทักษิณจะฟื้นชีพกลับคืนมาใช่ไหมครับ นอกจากบริหารบ้านเมืองล้มเหลวทุกด้านแล้ว ยังเนรคุณ ทรยศพี่น้องประชาชนอีก คุณต่างหากที่เป็นคนทำลายมิตร ทำลายแนวร่วม ทำลายคนที่เคยสนับสนุนคุณมาใช่ไหมครับ คุณทำลายฐานคะแนนนิยมของคุณหมดเลย คุณไม่เห็นหัวประชาชนเลย แถมยังขายชาติ ปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลโกงบ้านกินเมือง เลวพอๆ กัน เหมือนที่ผมพูดเรื่องรถถังยูเครนเพิ่มให้คุณไปอีกเรื่องหนึ่ง แล้วคุณทิ้งทวนอนุมัติวันเดียวแสนกว่าล้าน เลวที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไม่ใช่หรือเจิมศักดิ์

เมื่อคุณทำงานล้มเหลวอย่างนี้ แล้วคุณจะมาข่มขืนให้พี่น้องเลือกเขาอีกได้อย่างไร คุณจะเชลียร์เอาอภิสิทธิ์มายัดเยียดให้ประชาชนเลือกอีกอย่างไร ถูกไหมครับพี่น้อง เราไม่เลือกคุณเพราะคุณล้มเหลวทุกด้าน ผมจะไล่ให้ฟังว่าคุณล้มเหลวอย่างไร คุณเอาที่ผมเขียนไว้ 30 ข้อ ถ้าคุณจำไม่ได้ ล้มเหลวทุกด้านอย่างไรอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อล้มเหลวแล้วคุณจะบังคับข่มขืนจิตใจให้ผมไปเลือกคุณได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์เป็นผลิตผลของการเมืองเก่าที่ล้าหลัง เป็นคนที่มารักษาระบอบการเมืองสามานย์อยู่ในขณะนี้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์เป็นตัวแทนของพรรคและนักการเมืองที่โกง ทุจริต ขายชาติใช่ไหม นายอภิสิทธิ์สมคบกับนักการเมือง พรรคการเมืองที่โกงทุจริต 5 พรรคร่วมรัฐบาล อยู่อย่างเหนียวแน่นมั่นคงไม่เสื่อมคลาย ถ้าจะพูดอะไรขัดใจเขากลัวไม่ได้เป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์มีอุดมการณ์การเมืองอะไร กล้าเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองที่ล้มเหลวไหมไม่มี มีแต่เอาหัวไปซุกระบอบการเมืองเก่า นายอภิสิทธิ์คำนึงถึงแต่คนที่ยกมือสนับสนุนตนเองแต่ไม่คำนึงถึงประโยชน์ชาติประโยชน์ประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ล้มเหลว เอาแค่ 2 เรื่อง น้ำมันปาล์ม กับชั่งไข่ขาย ก็เจ๊งแล้วไม่ต้องพูดเรื่องอื่น เศรษฐกิจแย่หมด การทำมาหากินฝืดเคือง ประเทศย่ำแย่ทุกด้าน เรื่องทำลายหลักนิติรัฐ หลักยุติธรรม ไม่ส่งเสริมระบอบการปกครอง แก้ไขปัญหาความมั่นคงภาคใต้ก็ล้มเหลว ปัญหาชายแดน ปัญหาอธิปไตยไม่ต้องพูดถึง คุณทำงานใช้ไม่ได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว แล้วการเมืองการทูตระหว่างประเทศ นายอภิสิทธิ์เป็นตัวตลกและทำให้เกียรติภูมิของชาติตกต่ำ คุณมีอะไรเทียบเคียงได้บ้างแต่ละด้าน คุณช่วยสาธยายมาหน่อยซิ ถ้าคุณเจิมศักดิ์อยากให้พวกผมไปเลือกอภิสิทธิ์ ช่วยกรุณาสาธยายคุณงามความดี บุญคุณอันล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ท่วมหัวพวกผม ที่อภิสิทธิ์ทำให้ประเทศไทยและพวกเราหน่อยได้ไหม มีไหม ผมอยากไปเลือกใจจะขาด แต่ช่วยสาธยายคุณงามความดีให้เราฟังหน่อย อยากรู้จริงๆ ว่าทำงานประสบความสำเร็จอะไรบ้าง

พี่น้องครับ ผลโพลล์มันฟ้อง ขนาดเอแบคโพล แพ้เขาทุกด้านเลย ไม่ว่าจะพิจารณาด้านไหน ไม่ว่าด้านวิสัยทัศน์ ก็แพ้เขาขาดลุ่ย ไม่ว่าด้านนโยบายก็แพ้เขาขาดลุ่ย ไม่ว่าเรื่องเข้าถึงประชาชน คุณก็อยู่บนหอคอยงาช้าง ตีนไม่ติดดินทั้งนั้น ส.ส.พวกคุณมีแต่ใคร ม.ร.ว.อภิมงคล ไอ้นี่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่รู้จักความทุกข์ยากของประชาชน คุณเลือกแต่ลูกท่านหลานเธอ แม่งไม่เคยรู้จักความทุกข์ยากของประชาชนเลย คนแบบนี้หรอจะมาเป็นตัวแทนประชาชน รวมทั้งตัวนายอภิสิทธิ์ก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ จะบอกให้ ไม่เคยสัมผัสชีวิตของประชาชน เวลาคุณไปเถียงเขา เอ๊ะทำไมพรรคเพื่อไทยยังมีฐานมวลชนอยู่ ก็เขาทำงานมวลชนตลอดปี เขาเปิดโรงเรียนสอน อบรม เข้าถึงประชาชน พรรคคุณไม่เคยโผล่หัวออกจากกรุงเทพมหานครเลย ไม่เคยไปอยู่กับชาวบ้าน แล้วจะมีใครมาเลือกคุณ ไม่ต้องมีโหวตโนคุณก็แพ้เขามาตลอด เพราะฉะนั้นรายละเอียดพวกนี้ผมแทบไม่ต้องมาพูดซ้ำกับพี่น้องคนอื่นๆ ที่พูดไปแล้ว ว่าคุณล้มเหลวทุกด้าน คุณทำตัวคุณเองต่างหาก คุณก็ควรจะต้องรับกรรมของคุณ ด้วยการสั่งสอนจากประชาชนมิใช่หรอ

เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ วันนี้ผมพูดหลายเรื่องแล้ว แต่ว่าความจริงอยากจะพูดเรื่องสุดท้าย เพราะนายอภิสิทธิ์เพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อตอนหัวค่ำ ออกแถลงข่าวเมื่อ 2 ทุ่ม ขอดูสักนิดได้ไหมครับ ขอเวลาอีกสัก 5 นาที ว่านายอภิสิทธิ์แถลงยุบสภาแล้วมาพูดอย่างไร อยากให้ทีมงานช่วยเปิดบทสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ ส่งท้ายหน่อยครับ

(VTR นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

โอเคครับเบรกก่อน พี่น้องชักทนไม่ไหวแล้วครับ เห็นไหมครับ คือฟังแค่นี้พี่น้องก็จะทนไม่ไหวแล้ว คนที่มีความรู้ มีปัญญา ไม่หน่อมแน้มแบบคุณเจิมศักดิ์ เขาต้องคิดได้ แต่คนอย่างคุณเจิมศักดิ์คิดไม่ได้ เพราะทำหน้าที่เชลียร์นายอภิสิทธิ์อย่างเดียว แปลกไหมครับ คือ 1.ครับพี่น้อง จะยุบสภามีพระราชกฤษฎีกาแล้วก็โอเค ก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษายุบสภาก็จบ แต่พอได้รับพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว ทำเป็นพูดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แค่ไม่ถึง 1 นาที ความจริงมันควรจะจบแล้วโดยมารยาทของคน นี่ทะลึ่ง หน้าด้าน ใช้เวลาทีวีหาเสียง พูดจาเข้าข้างตัวเอง น่าระอายไหมครับ พูดจาหาเสียงให้กับตัวเองนั้น ถ้ามันเป็นความจริงมันก็พอฟังหรอกครับพี่น้อง แต่นี่มันแหลทั้งนั้นเลย บอกว่ายุบสภาจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ มันเริ่มต้นใหม่ตรงไหนบักหำน้อย บักแหล เริ่มต้นใหม่ตรงไหน ก็คือวนเวียนไปสู่การเมืองระบอบเก่า มีอะไรใหม่สำหรับประเทศนี้ คนที่ล้มเหลวอย่างคุณยังเสนอหน้ามาให้ประชาชนเลือกอย่างหน้าด้านๆ และไม่ระอาย ไม่สำนึกในความล้มเหลวของตัวเองอีกต่างหาก

พี่น้องครับ สิ่งที่น่าระอายที่สุด และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดนี้มันไม่มีอะไรเลวร้ายเท่ากับนักการเมืองเลว นักการเมืองล้มเหลวแต่ไม่รู้จักตัวเองครับพี่น้อง นักการเมืองที่ล้มเหลว นักการเมืองที่เลวร้าย ไม่รู้จักความเลวและความเลวร้ายของตนเองนั้น มันเป็นสิ่งที่น่าอัปยศ และเป็นสิ่งที่น่าสะพึงกลัวที่สุด ความเลวร้ายของนักการเมือง คือ เมื่อได้อำนาจมาแล้วไม่เคยช่วยประชาชน ในระหว่างที่อยู่ในอำนาจก็ไม่เคยทำหน้าที่ของตัวเองสมกับที่ได้รับความไว้วางใจ บอกว่าเป็นการเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศไทย มันเดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศไทยตรงไหนวะ ลื้อเป็นนายกฯ อยู่ลื้อยังไม่ได้แก้อะไรสักเรื่องเลย ทำไมต้องรอเลือกตั้งถึงจะกลับมาแก้ ก็เป็นนายกฯ อยู่ไม่เห็นแก้อะไรเลย หน้าด้านลอยไปลอยมาอย่างเดียว

แล้วก็บอกว่า ที่ยุบสภานี่เป็นไปด้วยความเต็มใจของตัวเอง เต็มใจหรือถูกประชาชนบีบ ถูกประชาชนไล่ ไม่มีทางออก ขืนอยู่นานเดี๋ยวอาจจะมีคนปิดฉากซะก่อนก็เลยต้องรีบยุบ นอกจากนี้ ยังบอกว่า เราจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชน โธ่เอ้ย ที่เป็นมามีอะไรบ้างที่คุณแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชนสำเร็จสักเรื่อง มีแต่ประชาชนเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์ม ชั่งไข่ขาย อันนู้นก็ขาดแคลน อันนี้ก็ขึ้นราคา ราคาสินค้าผลผลิตประชาชนตกต่ำทั้งนั้น มีน้ำยาอะไร ค่าพลังงานน้ำมันขึ้นทุกวัน แก๊สขึ้นทุกวันใช่ไหมครับพี่น้อง ผมถึงบอก คนตอแหลพูดอะไรต้องใส่มันทันทีอย่าปล่อยให้พูดข้ามวัน

มาบอกว่า พี่น้องในชนบทยังรอคอยการพัฒนา อ้าว ลื้อให้เขารอคอยทำไม มึงมาให้พ่อแม่ญาติพี่น้องกูรอคอยทำไม เป็นนายกฯ แล้วทำไมไม่ไปแก้ไข แล้วเลือกตั้งเสร็จเดี๋ยวก็บอกรอคอยต่อไปอีก อีก 1 ปีแสงมันจะได้พัฒนาไหมครับพี่น้อง เพราะรอแต่กอดโพเดียมอย่างเดียว ไม่เคยโผล่หัวไปหาพ่อแม่พี่น้องเลย แล้วบอกพี่น้องรอคอย รู้ได้อย่างไรรอคอย เขาไม่ได้รอคอยคุณ เขารอคอยคุณพุ่งสู่เมรุต่างหาก

สุดท้ายบอกว่า ทุกคนต้องการการศึกษา อย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ต้องมาพูดแล้ว เรื่องที่อัปยศที่สุด ปัญหาการทุจริตจะต้องได้รับการแก้ไข แล้วมึงอยู่ไม่เห็นแก้ แก้อะไรบ้าง กฎเหล็ก 9 ข้อเป็นอะไร เรื่องทุจริตคุณจับใครได้สักเรื่อง มีแต่คุณส่งเสริมการโกงการทุจริต ยังมาแหลอยู่ได้ ที่หน้าด้านคือ ใช้เวลาทีวีหาเสียง หลังจากแถลงนี้จบยังไม่พอ ยังให้ช่อง 11 ออกรายการ ว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ การแก้ไขปัญหาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำอย่างนู้นอย่างนี้ หาเสียงดีแต่มาแหล มาพูดให้ประชาชนฟัง แต่ทำอะไรไม่เป็นสักเรื่องครับ เพราะฉะนั้นปัญหาชายแดน ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาทุกเรื่องในประเทศนี้ เขาบอกว่า เขาได้ทุ่มเทจนสุดความสามารถแล้ว ถ้าฟังอีกพี่น้องจะถีบทีวี ผมว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่า ผมฟังจบแล้วผมบอก "ปัญหาหลายเรื่องอาจจะทำให้พี่น้องพอใจ บางเรื่องอาจจะไม่พอใจ แต่ผมขอสัญญาว่า ผมได้ทุ่มเทความสามารถจนสุดความสามารถแล้ว" ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า อ๋อ สุดความสามารถของลื้อทำได้แค่นี้แล้วจะหน้าด้านกลับมาเป็นนายกฯ ทำไมอีกล่ะ ถ้าสุดความสามารถแล้วก็ควรจะกลับบ้านอย่ามาเลือกตั้งอีก เพราะหมดความสามารถแล้ว ให้คนที่เขายังไม่หมดความสามารถมาบริหารบ้านเมืองดีกว่า ถ้าคุณบอก ผมหมดความสามารถแล้วครับ ผมทำอะไรไม่ได้ เขมรก็ให้มันอยู่ต่อไป ภาคใต้ก็ตาย 2 ศพต่อวันเรื่อยไป พี่น้องก็เข้าคิวซื้อของต่อไป คนโกงคนทุจริตพรรคร่วมรัฐบาลจะโกงผมก็สุดความสามารถแล้วครับ ทำอะไรไม่ได้ครับ ขอนั่งดูเฉยๆ ครับ จะมาหาเสียงเลือกตั้งหาพระแสงอะไร ผมถึงบอกว่าคนๆ นี้มันจบแล้ว อยู่ได้ด้วยดีเอ็นเอหน้าด้านเท่านั้นครับพี่น้องที่อยู่ได้ในขณะนี้ไม่มีอะไรเลย

เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า คุณเจิมศักดิ์ครับ คุณควรจะไปตักน้ำแล้วดูเงานายอภิสิทธิ์กับคุณร่วมกันว่า ถ้าคุณทำงานดี ถ้าคุณบริหารบ้านเมืองประสบความสำเร็จ ประชาชนจะไม่หันหลังให้คุณ ประชาชนจะเลือกคุณ ศรัทธาคุณ และให้โอกาสคุณต่อไป ใช่ไหมครับพี่น้อง เมื่อประชาชนเขาไม่ให้โอกาสคุณ คุณไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้วด่าประชาชน เพราะอำนาจในการจะโหวตลงคะแนนอยู่ที่ประชาชน คุณมีหน้าที่ทำงานและเสนอนโยบายให้ประชาชนชื่นชม พอใจ ศรัทธา แต่วันนี้ตัวคุณไม่เหลืออะไรให้ประชาชนเคารพศรัทธาเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นถ้าวันนี้ประชาชนจะหันหลังไม่เลือกคุณ จึงเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของพี่น้องที่จะลงโทษนักการเมือง

พี่น้องครับ ผมใช้เวลามาพอสมควร วันนี้มีหลายเรื่อง บางเรื่องอาจจะรวบรัดตัดตอนข้ามไปบ้างขออภัย พบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น