สถานการณ์การเมืองเดินเข้าใกล้การยุบสภา ลงสนามเลือกตั้งอีกครั้งของบรรดาผู้แทน ตามปฏิทินที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุไว้ว่าจะยุบสภาสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ก็ยิ่งพบความขัดแย้งวุ่นวายภายในพรรคการเมือง เรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ เช่น ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย เพราะกระแสพรรคในบางพื้นที่ ทำให้ผู้สมัคร ส.ส.มีเปรียบเหนือคู่แข่งเป็นกระบุง
ข่าวคราวการแย่งชิงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองเหล่านี้ จึงมีออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ
“วัชระ เพชรทอง” ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโวยวายพรรคต้นสังกัดที่จะดันตัวเขาขึ้นระบบบัญชีรายชื่อ โดยจะส่งลูกบุญธรรมของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ลงแทน "วัชระ" จึงออกโรงมาจวกแหลกชนิดไม่ไว้หน้า บอกใช้เส้นใช้สาย เล่นพรรคเล่นพวก ขณะที่ตัวเองก็อยู่ในสายของบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ก็ต้องลองวัดกำลังภายในกันก่อน ว่าสุดท้ายใครจะได้ตามที่ต้องการ
นอกจากรายของ "วัชระ" แล้วยังมีอีกหลายคนเจอสถานการณ์เดียวกัน กำลังต่อรอง ล็อบบี้กันอย่างหนัก คนที่ผิดหวังก็อาจออกมาฟาดงวงฟาดงาอย่างนี้ หรือถึงขั้นลาออก ย้ายพรรคไปเลยก็ได้
ดังนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการจับตาดูสถานการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆ รอตกปลาที่กระโดดมานอกอ่างกันตาเป็นมัน
ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็มีปัญหาไม่ต่างกันว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายคน ยังเดินเกมขบเหลี่ยม ชิงที่ว่างกันอุตลุต บางเขต บางแห่ง มีการขึ้นป้ายตัวเองเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซ้ำซ้อนหลายคน จนชาวบ้านงง ใครลงกันแน่
ล่าสุด ที่มีการเปิดตัวผู้สมัครหน้าใหม่กันอย่างเอิกเกริก ทั้งหนุ่มหล่อ สาวสวย ก็ชักไม่แน่เสียแล้วว่าจะได้ลงกันทุกคนหรือไม่ แว่วว่า อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ลูกสาวคนสวยของ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ที่มาลงสมัครแจ้งความจำนงไว้ที่เขตห้วยขวาง ไม่รู้ว่าจะได้ลงเขตที่ต้องการ หรือต้องไปลงเขตอื่น หรือไม่ได้ลงเลย เพราะเจ้าของพื้นที่เดิมยังขอสู้ต่อด้วยเหมือนกัน
ทั้งนี้ ในส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาที่สุด คือ การจัดวางลำดับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้สมัครหลายคนในระบบนี้ กำลังรอลุ้นการจัดวางของพรรคตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ
ในพรรคเพื่อไทย พวกนายทุน นักธุรกิจหน้าตักใหญ่อาจได้เปรียบหน่อย ในยุคของการเมืองที่ต้องใช้ปัจจัยเข้ามาเล่นกัน ส่วนพวกคนทำงาน เบี้ยน้อยหอยน้อย คงต้องออกแรงกันมากหน่อย
หลายคนประเมินความน่าจะเป็น น่าจะได้ของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไว้ที่เท่านั้น เท่านี้ หากตัวเองได้ลำดับต่ำกว่า อยู่ใน "เรดโซน" ย่อมไม่พอใจแน่นอน เพราะนั่นหมายถึงอนาคตการเป็นส.ส.ของตัวเองแขวนไว้บนเส้นด้าย
แต่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบนี้จะขยับปรับตัวย้ายเข้าย้ายออกคงจะลำบากหน่อย เพราะกว่าแต่ละพรรคการเมืองจะประกาศรายชื่อบอกลำดับออกมา คงใกล้เลือกตั้งเต็มทีแล้ว หากผิดหวังคิดจะย้ายพรรคก็อาจไม่ทันการณ์
ดังนั้นอาจเห็นอาการ "เซ็ง" จากใครบางคน ที่ไม่ได้ลำดับตามที่คาดหวังและถ้าเลือกตั้งมาแล้วไม่ได้ ก็เป็นไปได้สูงที่จะต้องทบทวนท่าทีทางการเมือง จะวางบทบาทกับพรรคอย่างไร หรือจะย้ายออกให้รู้แล้วรู้รอด
ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะบริหารจัดการปัญหาภายในกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน หากเกิดอาการแพแตกก่อนเลือกตั้ง ย่อมไม่เป็นผลดีแน่
เพราะเท่ากับแพ้ตั้งแต่ยังไม่รบ
จึงต้องดูกันว่าพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ จะใช้วิธีการอะลุ่มอล่วย ปลอบใจอย่างไรสำหรับคนที่ผิดหวัง นี่เป็นบททดสอบสำคัญก่อนลงสนามราวีศัตรู
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ก็ยิ่งพบความขัดแย้งวุ่นวายภายในพรรคการเมือง เรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ เช่น ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย เพราะกระแสพรรคในบางพื้นที่ ทำให้ผู้สมัคร ส.ส.มีเปรียบเหนือคู่แข่งเป็นกระบุง
ข่าวคราวการแย่งชิงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองเหล่านี้ จึงมีออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ
“วัชระ เพชรทอง” ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโวยวายพรรคต้นสังกัดที่จะดันตัวเขาขึ้นระบบบัญชีรายชื่อ โดยจะส่งลูกบุญธรรมของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ลงแทน "วัชระ" จึงออกโรงมาจวกแหลกชนิดไม่ไว้หน้า บอกใช้เส้นใช้สาย เล่นพรรคเล่นพวก ขณะที่ตัวเองก็อยู่ในสายของบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ก็ต้องลองวัดกำลังภายในกันก่อน ว่าสุดท้ายใครจะได้ตามที่ต้องการ
นอกจากรายของ "วัชระ" แล้วยังมีอีกหลายคนเจอสถานการณ์เดียวกัน กำลังต่อรอง ล็อบบี้กันอย่างหนัก คนที่ผิดหวังก็อาจออกมาฟาดงวงฟาดงาอย่างนี้ หรือถึงขั้นลาออก ย้ายพรรคไปเลยก็ได้
ดังนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการจับตาดูสถานการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆ รอตกปลาที่กระโดดมานอกอ่างกันตาเป็นมัน
ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็มีปัญหาไม่ต่างกันว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายคน ยังเดินเกมขบเหลี่ยม ชิงที่ว่างกันอุตลุต บางเขต บางแห่ง มีการขึ้นป้ายตัวเองเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซ้ำซ้อนหลายคน จนชาวบ้านงง ใครลงกันแน่
ล่าสุด ที่มีการเปิดตัวผู้สมัครหน้าใหม่กันอย่างเอิกเกริก ทั้งหนุ่มหล่อ สาวสวย ก็ชักไม่แน่เสียแล้วว่าจะได้ลงกันทุกคนหรือไม่ แว่วว่า อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ลูกสาวคนสวยของ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ที่มาลงสมัครแจ้งความจำนงไว้ที่เขตห้วยขวาง ไม่รู้ว่าจะได้ลงเขตที่ต้องการ หรือต้องไปลงเขตอื่น หรือไม่ได้ลงเลย เพราะเจ้าของพื้นที่เดิมยังขอสู้ต่อด้วยเหมือนกัน
ทั้งนี้ ในส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาที่สุด คือ การจัดวางลำดับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้สมัครหลายคนในระบบนี้ กำลังรอลุ้นการจัดวางของพรรคตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ
ในพรรคเพื่อไทย พวกนายทุน นักธุรกิจหน้าตักใหญ่อาจได้เปรียบหน่อย ในยุคของการเมืองที่ต้องใช้ปัจจัยเข้ามาเล่นกัน ส่วนพวกคนทำงาน เบี้ยน้อยหอยน้อย คงต้องออกแรงกันมากหน่อย
หลายคนประเมินความน่าจะเป็น น่าจะได้ของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไว้ที่เท่านั้น เท่านี้ หากตัวเองได้ลำดับต่ำกว่า อยู่ใน "เรดโซน" ย่อมไม่พอใจแน่นอน เพราะนั่นหมายถึงอนาคตการเป็นส.ส.ของตัวเองแขวนไว้บนเส้นด้าย
แต่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบนี้จะขยับปรับตัวย้ายเข้าย้ายออกคงจะลำบากหน่อย เพราะกว่าแต่ละพรรคการเมืองจะประกาศรายชื่อบอกลำดับออกมา คงใกล้เลือกตั้งเต็มทีแล้ว หากผิดหวังคิดจะย้ายพรรคก็อาจไม่ทันการณ์
ดังนั้นอาจเห็นอาการ "เซ็ง" จากใครบางคน ที่ไม่ได้ลำดับตามที่คาดหวังและถ้าเลือกตั้งมาแล้วไม่ได้ ก็เป็นไปได้สูงที่จะต้องทบทวนท่าทีทางการเมือง จะวางบทบาทกับพรรคอย่างไร หรือจะย้ายออกให้รู้แล้วรู้รอด
ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะบริหารจัดการปัญหาภายในกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน หากเกิดอาการแพแตกก่อนเลือกตั้ง ย่อมไม่เป็นผลดีแน่
เพราะเท่ากับแพ้ตั้งแต่ยังไม่รบ
จึงต้องดูกันว่าพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ จะใช้วิธีการอะลุ่มอล่วย ปลอบใจอย่างไรสำหรับคนที่ผิดหวัง นี่เป็นบททดสอบสำคัญก่อนลงสนามราวีศัตรู