เลขาฯ กกต.เชื่อตำรวจผนึกกำลัง กกต.จะทำให้สามารถจัดการทุจริตเลือกตั้งได้ พร้อมฝากภูมิคุ้มกัน 5 ขอให้ตำรวจร่วมฝ่าฟันให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างบรรยายพิเศษ เรื่อง “บทบาทตำรวจกับการเลือกตั้ง” ในโครงการสัมมนาเข้าปฏิบัติการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพข้าราชการตำรวจให้กับข้าราชการตำรวจ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไปจำนวน 1,503 นายว่า ขณะนี้ประเทศชาติกำลังจับตามองหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี ประกาศว่าจะมีการยุบสภาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.เพื่อให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น หากมีการยุบสภาเกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว กกต.ต้องดำเนินจัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ซึ่งวันเลือกตั้งน่าจะเป็นวันที่ 26 มิ.ย.54 หรือ 3 ก.ค.54 แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
นายสุทธิพลกล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่มีตั้งแต่เริ่มมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขจนถึงปัจจุบันคือปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่ง กกต.ที่ไม่ได้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วย หากประชาชนมีความรู้ความเข้าใจก็จะทำให้การซื้อสิทธิขายเสียงลดลง แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐด้วย เพราะจากการประเมินสถานการณ์เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะดุเดือดรุนแรง เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ครุกรุ่น รวมทั้งยังมีการแข่งขันระหว่างขั้วอำนาจที่เป็นปัจจัยเสี่ยง อีกทั้งกฎกติกาการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปอาจจะทำให้มีผู้ที่กระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์มากขึ้น ทั้งนี้บทบาทตำรวจกับการเลือกตั้งนั้นมีความสำคัญ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่หลักในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้บ้านเมืองในช่วงที่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ หาก กกต.กับตำรวจทำงานร่วมกันแบบบูรณาการก็จะทำให้การทำงานจัดการกับผู้ที่ทุจริตการเลือกตั้งมีประสิทธิภาพได้
“ผมมองว่าการทำงานร่วมกันระหว่าง กกต.และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง จึงอยากฝากภูมิคุ้มกัน 5 ข้อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ 1.ศึกษากฎหมาย ระเบียบการเลือกตั้ง 2.วางตัวเป็นกลาง ซื่อสัตย์ สุจริต 3.ตัดไฟแต่ต้นลม เสริมสร้างการปฏิบัติงานให้ความรู้แก่ประชาชน 4.ใช้มาตรการป้องปรามการหาข่าวให้มีประสิทธิภาพ และ 5.บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพไม่สองมาตรฐาน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ให้ผ่านพ้นไปให้ได้และให้เกิดความสงบเรียบร้อยต่อบ้านเมือง”