ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดี มท. กรณีสั่งยึดอาวุธปืนไรเฟิล อ้างเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยก่อนการเลือกตั้ง ชี้เป็นข้อกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยและไม่เหตุอันควร ระบุผู้ครอบครองย่อมมีสิทธิดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ในอาวุธปืนดังกล่าว
วันนี้ (29 เม.ย.) ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดี) ที่200/2554 ที่ลงวันที่ 18 เม.ย.54 ให้ผู้รับใบอนุญาต ให้มี และใช้อาวุธปืนยาวขนาด .223 ขนาด .30-06 ขนาด.308 และขนาด .338 ส่งมอบอาวุธปืนให้นายทะเบียนท้องที่ที่ออกใบอนุญาต ภายในวันที่ 29 เม.ย.นี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยก่อนมีการเลือกตั้งนั้นไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้เนื่องจากคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครองทั่วไปที่มีผลกระทบต่อบุคคลที่อยู่ภายใต้บังคับตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีทั่วราชอาณาจักร เมื่อศาลได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาแล้ว คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีจึงยังไม่มีผลบังคับ จึงให้ผู้ถูกฟ้องคดีแจ้งคำสั่งศาลไปให้นายทะเบียนท้องที่ที่เกี่ยวข้องทราบด้วย
เพราะจากที่ศาลได้เรียกคู่กรณีไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าการออกคำสั่งดังกล่าวยังไม่มีมูลเหตุอย่างใดที่จะต้องเก็บเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยก่อนมีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้าง เนื่องจากว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการตรา พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปแต่อย่างใด และยังไม่มีเหตุบ่งชี้หรือมีเหตุจำเป็นในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด ประกอบกับจากการไต่สวนผู้ถูกฟ้องคดี รับว่าในการดำเนินการออกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักที่จะนำอาวุธปืนไปดำเนินการจัดทำประวัติอาวุธปืนทุกชนิด เพื่อสามารถนำไปพิสูจน์อาวุธปืนหากได้มีการนำอาวุธปืนไปใช้ในทางผิดกฎหมาย คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดี ที่200 / 2554 ลงวันที่ 18 เม.ย.2554 จึงยังมีปัญหาไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
และวัตถุประสงค์ที่มาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 กำหนด ในชั้นนี้คำสั่งขอผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวจึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับ นายสุทธิพล จินดาพล (ผู้ฟ้องคดี)เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ปืนยาวเดี่ยวไรเฟิล ขนาด .308 โดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ฟ้องคดีจึงย่อมมีสิทธิที่จะครอบครองดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ในอาวุธปืนดังกล่าว แต่การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีส่งมอบอาวุธปืนที่ตนเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายให้กับนายทะเบียนแม้จะเป็นการชั่วคราว แต่สิทธิในการครอบครองดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ของผู้ถูกฟ้องคดีก็จะต้องสะดุดหยุดลง แม้ต่อมาภายหลังศาลจะได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดี คำพิพากษาของศาลก็ไม่อาจจะเยียวยาความเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีจะได้รับจากการบังคับตามผลของคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่จะต้องส่งมอบอาวุธปืนที่ตนเป็นเจ้าของและสิทธิครอบครอง ดูแลรักษาประโยชน์ในช่วงระยะเวลาตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีได้
อีกทั้งอาวุธปืนที่จะต้องส่งมอบให้กับนายทะเบียนตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีนั้นเป็นอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตและมีทะเบียนควบคุมที่หน่วยงานของรัฐสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว การทุเลาการบังคับตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าว จึงมิได้เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะแต่อย่างใด กรณีจึงต้องด้วยข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิกาษา หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
