xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” จี้ ทหารอาชีพแสดงตน อย่าปล่อย “แม่ทัพเยิ้ม” มีบทบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” เผย เขมรเปิดฉากรบ เหตุ “ฮุนเซน” ต้องการผลักดันลูกชายเป็นวีรบุรุษ และเบี่ยงเบนความสนใจผู้ต่อต้านมาที่ชายแดน หลังเสถียรภาพการเมืองเริ่มสั่นคลอน โดยใช้บริการทหารไทย จี้ “ทหารอาชีพ” แสดงตนได้แล้ว เพื่อกำจัดทหารการเมืองและทหารพาณิชย์ ไม่อย่างนั้นยากที่จะปกป้องอธิปไตยไว้ได้ พร้อมเหน็บ “แม่ทัพเยิ้ม” คือ ทหารพาณิชย์ชัดเจน ต้องอย่าปล่อยให้แสดงบทบาท

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายประพันธ์ คูณมี"  

วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร กล่าวบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า มีผู้หลักผู้ใหญ่ฝากมาถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยภาพของนักต่อสู้หากิน ซึ่งผู้ใหญ่คนนั้นเคยให้การสนับสนุน ถึงขั้นซื้อคอนโดให้อยู่โดยใช้ชื่อลูกชายตัวเอง แต่วันนี้เมื่อจุดยืนไม่ได้อยู่กับประชาชนแล้ว เขาเลยอิดหนาระอาใจที่จะผ่อนคอนโดให้ต่อ  ใครรู้ตัวก็โปรดออกไปจากคอนโดด้วย

นายประพันธ์ กล่าวว่า ตนได้ข้อมูลจากผู้รู้และการข่าวว่าการรบคราวนี้ถือว่าเป็นการปะทะที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา เคยปะทะตอนกุมภาพันธ์แค่ 1-2 วัน แต่ครั้งนี้ 4-5 วันแล้ว

เหตุของการสู้รบ ทราบมาว่าเนื่องจากพื้นที่ปราสาทตาควายเคยเป็นจุดปะทะมาก่อนแล้ว เมื่อปีที่ผ่านมา และทหารกัมพูชาพยายามจะเข้าทำการยึดแต่ทหารไทยผลักดันออกไป พื้นที่ตรงนี้จึงเกิดการตกลงกันว่า ทหารฝ่ายใดขึ้นมาก็ได้ แต่ห้ามเอาอาวุธขึ้นมาด้วยและห้ามดัดแปลงปรับภูมิประเทศโดยรอบเด็ดขาด และเมื่อวันพุธที่ 20 เม.ย.54 ทหารไทยขึ้นไปมือเปล่าแต่พบว่าทหารกัมพูชาอาวุธครบมือ เลยไปตักเตือนให้เอากลับไป แต่ทหารเขมรไม่สนใจยังขนอาวุธขึ้นมาอีก ทหารไทยก็ไปกดดัน ไปเตือนทุกวัน เพราะกลัวเหมือนกรณีปราสาทพระวิหารที่ตอนนี้เขมรไม่ยอมออกไปแล้ว  ทำให้ทหารกัมพูชาไม่พอใจ จึงใช้อาวุธยิงใส่ในวันที่ 22 เม.ย. แต่ไทยก็ยิงตอบโต้ไปนี่คือจุดเริ่มของการปะทะ

ปราสาทตาควาย กับ ปราสาทตาเมือนธม อยู่ใกล้กัน ก่อนหน้านี้ ฮุนเซนเคยจะเข้ามาดูตาเมือนธม แต่ทหารไทยไม่ยอม บอกให้ขออนุญาตมาก่อนถึงค่อยให้ดูได้ ทหารไทยแน่กว่าแม่ทัพเยิ้ม (พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร) อีก เมื่อต่างฝ่ายต่างขนทหารจนแทบจะปะทะกัน ในที่สุดฮุนเซนก็ถอยกลับ

ดังนั้น ฮุนเซน จึงกลับไปดวยความโกรธแค้น เป็นปมคาใจมานานแล้ว ทหารชุดที่เอามาปะทะกับไทยที่ตาเมือนธมนี้เป็นหน่วยพิเศษ ฮุนเซนเอามาเพื่อคลายปมความแค้น นอกจากนี้ ปัญหาการเมืองในไทย จะเกี่ยวข้องกับการปะทะหรือเปล่า ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน แต่มีข้อมูลการข่าวว่า นักการเมืองไทย หรือพรรคเพื่อกัมพูชา อาจอยู่เบื้องหลังสนับสนุนให้ฮุนเซนสร้างความวุ่นวาย เพื่อดึงทหารไปตรึงที่ชายแดน เพราะกลัวทหารจะทำการปฏิวัติยึดอำนาจ วันนี้ก็มีข่าวว่าแม่ทัพเยิ้มขอกำลังเสริม อาจมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า แม่ทัพเยิ้มต้องการทำเข้าแผนฮุนเซน และนักการเมืองบางคน เพื่อดึงทหารไป เพราะนักการเมืองยังไม่แน่ใจว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาว่าใครแพ้ใครชนะ ตนคิดว่าสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย กัมพูชาก็สูญเสียไม่น้อย ทางฝ่ายกัมพูชาได้รายงานตัวเลขไปยัง UNSC ว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 40 คน

สาเหตุที่มีการปะทะยาวนานสาเหตุอาจเกิดจาก 1.เกิดจากการมีคนตายมากในวันแรก ฮุนเซนเลยต้องทำสร้างเหตุการณ์ออกไปหลายวัน ให้สมกับจำนวนผู้ตาย ไม่อย่างนั้นทหารกัมพูชาจะถูกประชาชนดูถูก และจะอ้างว่า พล.ท.ฮุนมาเน็ต (ลูกชายฮุนเซน) เป็นวีรบุรุษไม่ได้  

อันที่ 2 ความจริงแล้วฮุนเซนวันนี้เสถียรภาพทางการเมืองไม่ดี นับวันถอยหลัง เพราะอาการป่วย มีข่าวเชื่อถือได้ว่าเป็นมะเร็ง และประชาชนกัมพูชาเวลานี้ไม่พอใจฮุนเซนมาก เพราะปกครองโดยอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่โคตรเหง้าฮุนเซนกลับรวยอยู่ตระกูลเดียว พื้นที่งามๆของชาวบ้านก็ถูกยึด มาทำสัมปทานให้นักธุรกิจทั่วโลก คนกัมพูชาที่มาทำงานในไทย พอกลับไปก็เป็นแรงสำคัญในการตั้งกลุ่มต่อต้าน เตรียมโค่นล้มฮุนเซน กองทัพก็ไม่มีเสถียรภาพเพราะฮุนเซนพยายามผลักดันลูกตัวเองให้เป็นใหญ่ในกองทัพข้ามหัวทหารอาวุโสหลายคน เลยมาใช้บริการทหารไทย เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ลูกชายเป็นวีรบุรุษ ปลุกเรื่องรักชาติ  เบี่ยงความสนใจไปสู่ปัญหาชายแดน

“ที่สงสัยว่า ทหารไทยร่วมมือ เพราะฮุนมาเน็ตเรียกทหารบางคนว่าคุณลุง คุณอา มีผลประโยชน์เกี่ยวกันหลายเรื่องมากมาย ทหารบางคนร่ำรวยเพราะทำมาหากินกับฮุนเซน นี่คือข้อพิพาท กองทัพ และรัฐบาลเลยไม่เป็นเอกภาพ พูดกันไปคนละทาง” นายประพันธ์ กล่าว  

นายประพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ได้จำแนกทหารไทยออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.ทหารการเมือง คือ อิงแอบอยู่กับนักการเมืองเพื่อประโยชน์ เพื่อตำแหน่ง และการคุ้มครองจากนักการเมือง ยอมรับใช้นักการเมืองด้วยความสมัครใจ ไม่ว่าจะเลวอย่างไร 2. เป็นทหารพาณิชย์ ใช้อำนาจที่มีอยู่หาประโยชน์ให้ตัวเองตลอดเวลา ช่วยเหลือนักธุรกิจ แม้ผิดกฎหมาย หรือแม้กระทั่งลงมือทำธุรกิจเสียเองแม้ว่าจะเป็นธุรกิจเถื่อน

ซึ่งทหาร 2 ประเภทนี้ยังคงเกาะกุมในกองทัพ  แต่ที่ควรแก่การยกย่อง คือ 3.ทหารอาชีพ คือ ทหารที่แท้จริง กองทัพมีทหารอาชีพอยู่มาก แต่มักถูกบดบังจาก ทหาร 2 ประเภทแรก เพราะทหาร 2 ประเภทนี้มักวิ่งเต้นจนเป็นใหญ่เป็นโต กองทัพถึงตกต่ำ อาชีพทหารถึงตกต่ำอย่างทุกวันนี้

“วันนี้จึงต้องเรียกร้องให้ทหารอาชีพ ทหารที่แท้จริง ออกมาแสดงตน กำจัดทหารการเมือง และทหารพาณิชย์ออกไปเสีย ไม่อย่างนั้นการปกป้องเอกราชอธิปไตยคงยาก การสู้รบกับกัมพูชาขณะนี้พึ่งได้อย่างเดียว คือ ทหารอาชีพต้องมาแสดงตน อย่าปล่อยให้ทหารอย่างแม่ทัพเยิ้มแสดงบทบาท แม่ทัพเยิ้มนี้ คือ ทหารการเมืองและพาณิชย์ชัดเจนไม่งั้นคงไม่ขายกุนเชียง” นายประพันธ์ กล่าว

โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ยังกล่าวอีกว่า การรบกัน การเสียดินแดน ต้องประณามทหารการเมือง ทหารพาณิชย์ และทหารผู้ใหญ่ที่ไม่ทำหน้าที่ และวันนี้ที่นายฮุนเซน ยกย่องลูกตัวเองเป็นวีรบุรุษ ผลสำเร็จอันหนึ่งเกิดขึ้นแล้วคือฮุนมาเน็ตมาบัญชาการรบ ที่ปราสาทพระวิหาร ทหารกัมก็ยังยึดอยู่ ฮุนเซนเอาไปแอบอ้างว่าฮุนมาเน็ตเอาปราสาทพระวิหารคืนให้กัมพูชาได้

ต้องตำหนิ ผบ.ทบ.  นายกฯ รมว.กลาโหม ที่ปล่อยให้กัมพูชายึดพระวิหารอยู่แบบนี้  ต้องโทษรัฐบาล นี่ถ้าไม่สบคบกับฮุนเซนคงไม่ปล่อยไว้แบบนี้ อย่างปราสาทตาควายกัมพูชาเดินเข้ามานิดเดียวก็ยิงเลย

“ถึงบอกว่าประเทศไทยวันนี้มันวิปริต เขมรสู้ไปสู้มาเหลือฝ่ายเดียว แต่ไทยสู้ไปมาเหลือ 3 ฝ่าย 1.ฝ่ายนายทักษิณ กับพวกเสื้อแดง 2.ฝ่ายทหารการเมือง ทหารพาณิชย์ กับรัฐบาลมาร์ค 3. ฝ่ายพันธมิตรฯ คือพวกที่ไม่ยอมทั้ง 2 ก๊กแรก คือพี่น้องผู้รักชาติรักแผ่นดิน วันนี้แผ่นดินไทยก็สู้กันอยู่สามก๊ก แต่เชื่อว่าสู้ไปสู้มาต้องรวมกันเหลือแต่ก๊กประชาชนผู้รักชาติอย่างพวกเรา ปล่อยให้ 2 ก๊ก รบไปกันก่อน ก๊กเราอยู่บนภูดูหมากัดกันไปก่อน” นายประพันธ์ กล่าว 
กำลังโหลดความคิดเห็น