“รบ.มาร์ค” ทุ่มไม่อั้นจัดเต็มตาม ก.กลาโหมของบฯ ผูกพัน 4 ปี ปรับปรุงเรือฟริเกต ชุดเรือหลวงนเรศวร วงเงิน 2,951 ล้านบาท และซื้อยานยนต์สายสรรพาวุธ 1,475 คัน วงเงิน4,998,037,500 บาท อ้างเพิ่มขีดความสามารถกองทัพ และเห็นชอบปรับโครงสร้างสภาความมั่นคงฯ จาก 116 อัตรา เป็น 209 อัตรา กับงบกลางสนับสนุนอีก 8 ล้าน
วันที่ 26 เม.ย. 2554 นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการปรับปรุงเรือฟริเกต ชุดเรือหลวงนเรศวร วงเงิน 2,951 ล้านบาท ระยะ 4 ปี ปีงบประมาณ 2554-2257 โดยปีงบประมาณ 2554 จำนวน 600 ล้านบาท ปี2555 จำนวน 800 ล้านบาท ปี 2556 จำนวน 1,100 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 451 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงกลาโหมรายงานว่าโครงการดังกล่าวประกอบด้วยเรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงตากสิน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ขีดความสามารถและศักยภาพในการป้องปรามสูง เพื่อให้สมบูรณ์ตามที่กำหนดไว้ ตามความต้องการในทางราชการ ซึ่งมีหลายระบบ ระบบการรบ ระบบแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแนวตั้ง ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางวิธีอัตโนมัติ เป็นต้น
นายศุภชัยแถลงต่อว่า นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติให้กระทรวงกลาโหมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธระยะที่ 2 ทบ.1412 โดยกองทัพบกจัดซื้อจัดจ้าง โดยงบประมาณที่ขอมาทั้งสิ้นมีงบประมาณ 3 ปี งบประมาณปี 2554 จำนวน 749 ล้านบาท งบประมาณปี2555 จำนวน 1,750 ล้านบาท ปี 2556 จำนวน 2,498 ล้านบาท เพื่อซื้อรถยนต์บรรทุกขนาด 2 ตันครึ่ง ซึ่ง ครม.อนุมัติจัดซื้อวิธีพิเศษ เพื่อทดแทนยุทโธปกรณ์เดิมที่เก่าล้าสมัย ที่ได้มีการรับแจกจ่ายใช้ในราชการมาเป็นเวลานาน และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพให้บรรลุเป้าหมาย
โดยกองทัพบกได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นไม่ผูกพันงบประมาณ ตามกรอบวงเงิน โดยได้คัดเลือกยานยนต์สายสรรพาวุธ ชนิดรถยนต์บรรทุก ขนาด 2 ตันครึ่ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น FTS 34 SU-KDPN จากบริษัท สิทธิผลอิมปอร์ต จำกัด ผู้แทนจำหน่ายโดยตรงอีซูซุ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ราคาคันละ 3,388,500 บาท จำนวน 1,475 คัน วงเงิน4,998,037,500 บาท
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการขอปรับโครงสร้างสภาความมั่นคงแห่งชาติและจัดสรรอัตรากำลังข้าราชการ จากจำนวน 116 อัตรา เป็น 209 อัตรา ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติตามโครงสร้างใหม่ เพื่อส่งให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาต่อไป
ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้อนุมัติตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กอ.รมน.เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินจำเป็น (แผนงาน/โครงสร้างภายในปี 54) จำนวน 8,792,618 บาท เพื่อใช้ในการซ่อมบำรุงสาธาณูปโภค ขุดบ่อ รวมถึงในการสร้างจิตวิทยามวลชนสัมพันธ์
