“สุวัฒน์” เชื่อไม่เปลี่ยน รบ. “วีระ-ราตรี”ไม่ได้กลับบ้านแน่ ลั่นเวทีนี้ยังอยู่พื้นที่ 4.6 ตร.กม. และตลอดแนวชายแดนจะไม่เสียง่ายๆ แนะแก้กฎหมาย คนคอร์รัปชั่นต้องรับโทษประหารชีวิต และไม่มีอายุความ ทรัพย์สินที่ได้จากการคอร์รัปชั่นยึดคืนเป็นของหลวงให้หมด ย้ำต้องเว้นวรรคการเมืองสักระยะ แก้กฎหมายแรงๆ ถึงจะยุติปัญหาบ้านเมืองได้
วันที่ 22 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายพันธมิตรฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ตนเดินสายไปปราศรัยให้พี่น้องพันธมิตรฯ ที่สหรัฐอเมริกา 15 วัน พี่น้องที่เอเมริกาเป็นห่วงอยู่สองเรื่อง คือ นาย วีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จะกลับมาสู่แผ่นดินเกิดได้หรือไม่ ซึ่งตนได้ตอบไป ว่า ตราบใดที่รัฐบาลนี้ยังอยู่ไม่ได้กลับมาแน่ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนรัฐบาล เอารัฐบาลที่มีปัญญากดดดันกัมพูชา
น่าแปลกประเทศไทยมีประชากรมากกว่าเขมร อีกทั้งยังมีกองทัพอากาศ ทัพเรือ ขณะที่เขมรไม่ว่าด้านอาวุธ กำลังพล สู้เราไม่ได้เลย แต่ยังปล่อยให้เขากดหัวอยู่ได้ อีกอย่างหน่วยข่าวกรองที่ทำเรื่องถึง กระทรวงกลาโหม ไม่รู้หรือว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ไม่อยากรบอยู่แล้ว ไม่ต้องชงข่มขู่ให้ต้องหวาดกลัวหรอก ไม่เช่นนั้นก.กลาโหม คงไม่บอกบ้านหนองจานเป็นของเขมร คนพวกนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนเขาเอาไปตัดหัว 7 ชั่วโครตแล้ว
“มีคนถามว่าในฐานะที่ตนเป็นทนาย จะช่วยอะไร 2 คนไทยที่ยังติดคุกเขมรอยู่ได้บ้าง นั้น ถ้ามีอะไรที่ทำได้ตนก็จะช่วยอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้นายวีระ นางสาวราตรี ให้ทนายที่อื่นเดินเรื่องซึ่งไม่ใช่ตน จึงไม่มีทางอื่นต้องเปลี่ยนรัฐบาลเท่านั้น”
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า การเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร และ 1.8 ล้านไร ตลอดแนวชายแดน ตราบใดที่เวทีนี้ยังตั้งอยู่จะไม่เสียง่ายๆ เราจะสู้ทุกวิถีทาง ทั้งด้านกฏหมาย มวลชน จนสุดกำลัง หากเราต้องเสียดินแดนเชื่อพวกเราจะไม่อยู่เฉยแน่ ส่วนความห่วงของพี่น้องที่เอมริกา เรื่องที่สอง คือ ความแตกแยกของพวกเรา โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหม่จะเอาอย่างไร ในเมื่อพันธมิตรฯประกาศโหวตโน แต่พรรคการเมืองใหม่จะส่งคนเลือกตั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา รู้หรือไม่ว่าผู้พิพากษามองการต่อสู้ของพันธมิตรเป็นเรื่องสวยงาม มีข้อเท็จจริง มีแนวการต่อสู้ ทำให้เรื่องที่ขึ้นสู่ศาลชนะคดี สามารถปกป้องกันมาตลอด เรื่องนี้ตนไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งคงต้องหาทางไม่ให้เกิดศึกภายในต่อไป
นายสุวัฒน์ กล่าวอีกว่า พี่น้องที่อเมริกาถามว่า หากตนได้เป็นนายกฯ 1 วันจะทำอย่างไรในการแก้ปัญหาบ้านเมืองให้ดีขึ้น ซึ่งตนบอกไปว่า ปัญหาประเทศไทยทุกวันนี้เกิดจากปัญหานักการเมืองชั่วซื้อเสียงเข้ามา จึงได้รัฐบาลเฮี้ยไปจัญไรมา นักการเมืองเข้ามากอบโกย ที่จริงประเทศไทยมีทรัพย์ยากรธรรมชาติมากมาย แต่ทำไม่ประชาชนถึงไม่กินดีอยู่ดี ก็เพราะผลประโยชน์ไม่ตกมาสู่พี่น้องประชาชน ดังนั้น สิ่งแรกต้องแก้กฎหมาย คนคอร์รัปชั่นต้องรับโทษประหารชีวิตอย่างเดียว และไม่มีอายุความ ทรัพย์สินที่ได้จากการคอร์รัปชั่นไม่ว่าจะแปรรูปเป็นอะไรก็ตามยึดคืนเป็นของหลวงให้หมด
ส่วนวิธีการจับคอร์รัปชั่น ใช้แนวทางทำให้แตกคอกัน อาทิ ใครก็ตามที่ให้สินบนรัฐบาล วันหนึ่งหากเปลี่ยนรัฐบาล ถ้าคนเหล้านี้กลับตัวมาให้ข้อมูลลงโทษคนให้สินบนได้ ให้กันตัวไว้เป็นพยานไม่ต้องรับโทษ ไปลงโทษอีกฝั่ง ถ้าทำได้จะทำให้บริษัทใหญ่ๆไม่ไว้วางใจกัน แล้วเราจะได้เงินคืน และพื่อเป็นแรงจูงใจในการเอาข้อมูลมาเปิดเผย ก็แบ่งทรัพย์ที่ยึดมาได้ให้ 20% ทุกวันนี้กฎหมายคนให้และคนรับผิดทั้งคู่ แล้วจะไปหาพยานที่ไหนใครจะกล้าเป็นพยาน ดังนั้นต้องแก้กฎหมายให้คนกลับใจมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่ต้องลงโทษ หากไม่ใช้วิธีนี้ไม่มีทางจับคอร์รัปชั่นได้เลย
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า กฎหมายไทยมีช่องโหว่ แม้ไม่มีช่องโหว่นักการเมืองก็หารูรอดอยู่แล้ว ไม่มีนักกฎหมายคนใดเขียนกฎหมายไม่ให้มีช่องโหว่ได้ เพราะกฎหมายต้องวิ่งตามพฤติกรรมมนุษย์ ขณะที่มนุษย์มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กว่าจะร่างกฎหมายเสร็จ พฤติกรรมมนุษย์ก็เปลี่ยนไปแล้ว กฎหมายจึงตามไม่ทัน ดังนั้น จำเป็นต้องให้คนมีคุณธรรม บ้านเราศาลรัฐธรรมนุญตัดสินการเลือกตั้งของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ไม่ชอบ ก็ออกไปเลือกตั้ง แล้ววนมาเป็นรัฐมนตรีใหม่ แล้วจะมาบอกได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย บ้านเราไม่สามารถเจริญได้ หากปล่อยให้มีการเลือกตั้งอย่างนี้ ต้องเว้นวรรคสักระยะ แก้กฎหมายแรงๆ ถึงจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้
“คนทั่วโลกกำลังดู พี่น้องที่มัฆวานอยู่ และให้กำลังใจพวกเรา จงอย่ากลัวที่จะสู้ และตนก็เชื่อว่าจิตใจพี่น้องเต็ม 100% แล้วเราจะไม่เสียเขาวิหาร”
