รองนายกฯ “สามสี” ชี้ เหตุ “สุวิทย์” เลิกถอดใจ เพราะได้มอบอำนาจเต็มให้เป็นหัวหน้าทีมเฉพาะกิจ เดินทางไปเจรจา คกก.มรดกโลก เชื่อ มีความชำนาญและดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด สำทับ “กษิต” ต้องรับฟังทีมเฉพาะกิจ เพื่อจะได้พูดไปทิศทางเดียวกัน
วันนี้ (20 เม.ย.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ตามที่มีข่าวออกมา และพี่น้องประชาชนก็เป็นห่วง เพราะเรากำลังจะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่กรุงปารีส ในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งปกติแล้วรัฐบาลได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ ในฐานะ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นหัวหน้าคณะเจรจาเรื่องนี้มาตลอด เพราะมีความชำนาญรู้เรื่องรายละเอียดมาตลอด และได้ติดต่อพูดจากับคนโน้นคนนี้ทั่วทั้งโลก ทำงานไม่หยุด และพอมามีข่าวออกมาว่าท่านจะขอถอนตัว ประชาชน และรัฐบาลก็ไม่สบายใจ ท่านนายกฯเลยนัดตน นายสุวิทย์ และ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มาหรึกษาหารือกัน เพราะทางรัฐบาลไม่ต้องการจะให้เปลี่ยนตัวให้เป็นคนอื่นเลย เพราะเห็นว่า นายสุวิทย์ เหมาะสมที่สุด และรู้งานดีอยู่แล้ว เราได้คุยกันว่า ท่านขุ่นข้องหมองใจเรื่องอะไรที่คิดจะถอนตัว ท่านก็บอกว่า ต้องการแนวทางอย่างไร อยากให้คณะทำงานเจรจาของท่านอยากจะให้มีลักษณะที่เป็นเอกภาพอย่างไร ก็เข้าใจกัน เพราะฉะนั้นเราก็จะจัดระเบียบให้ใหม่ และ นายสุวิทย์ ก็รับจะเป็นหัวหน้าคณะ เหมือนเดิม ซึ่งนายกฯจะแต่งตั้งคณะให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง โดยทีมนี้ต้องเป็นเอกภาพชัดเจน โดยมี นายสุวิทย์ เป็นหัวหน้า
นายไตรรงค์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องข้อขัดแย้งกับทางกระทรวงการต่างประเทศนั้น ไม่มี อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกัน คือ มันยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ได้ขัดแย้ง นายกษิต ก็พร้อมที่จะทำให้มันชัดเจนทั้งหมดจะได้เป็นเอกภาพก็ตกลงกันได้ เมื่อถามว่า ต่อไปนี้ นายสุวิทย์ พูดอะไรกระทรวงการต่างประเทศต้องฟังใช่หรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า นายกษิต ยืนยันว่า ปกติก็ฟังอยู่แล้ว ไม่เคยขัดแย้งกัน เพียงแต่ไม่ได้มานั่งคุยกันอย่างนี้ เมื่อคนมีอำนาจ 4 คนมานั่งคุยกัน ก็ถือว่าสุดยอดของประเทศ เมื่อจบวันนี้ก็ถือว่าจบ ตนไม่ขอยกตัวอย่างประเด็นปัญหาที่อาจไม่เข้าใจกัน เพราะจะทะเลาะกันเปล่าๆ แค่นี้เรื่องก็ยาวแล้ว สื่อเอาไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เสียหาย เอาเป็นว่าทุกฝ่ายสบายใจแล้วนายสุวิทย์ก็สบายใจแล้ว และทำหน้าที่ต่อเป็นหัวหน้าคณะไปเจรจา โดยในทีมก็มีกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรมด้วย แต่ต่อไปนี้เวลาไปพูดจากับใครต้องปรึกษาหารือกันก่อน และพูดไปทางเดียวกัน นายสุวิทย์ ก็พอใจ และต้องขอบคุณท่านที่รับเป็นหัวหน้าคณะเจรจาต่อไป