กกต.ระบุออกกฎห้ามนักการเมืองโยงสถาบันทำยาก ซัด “มาร์ค” โยนให้ กกต.เป็นเหยื่อทางการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องของรัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้ตำรวจจัดการอย่างจริงจังต่อแก๊งหมิ่นสถาบัน เชื่อมีแนวโน้มเลื่อนยุบสภาสูง เหตุวุฒิฯ ส่งสัญญาณไม่ผ่านกฎหมายลูก 3 ฉบับง่ายๆ เตือน “อภิสิทธิ์” กำหนดช่วงยุบสภา ส่อล่วงเกินพระราชอำนาจ
แหล่งข่าวจาก กกต.เผยว่า กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ กกต.ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการห้ามนำสถาบันมาเกี่ยวกับการเมืองในทุกแง่มุม เพราะพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองนั้น ทางสำนักงาน กกต.ยังไม่เรื่องว่าหนังสือส่งมาถึงหรือยัง แต่ก่อนหน้านี้มีคนส่งข้อหารือมายัง กกต.จำนวนมากถึงการที่จะนำพระบรมราโชวาท หรือนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ นำมาพิมพ์เพื่อหาเสียง ได้หรือไม่ ซึ่ง กกต.ก็ได้ตอบข้อหารือไปว่าไม่บังควร
อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ก็ไม่ได้มีกฎหมายห้ามเอาไว้ แต่ทั้งนี้การกระทำใดๆ ที่ไม่ดีก็อยู่ที่จิตสำนึกของคนคนนั้น หากมีการนำข้อความมีความหมายที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ต้องจัดการ เพราะเป็นคดีอาญา ส่วน กกต.ก็จะดูในเรื่องของการซื้อสิทธิขายเสียง การทุจริต การปราศรัยโจมตีที่เข้าข่ายการกระทำต้องห้าม จะให้ กกต.มาออกระเบียบในเรื่องนี้จะเหมาะสมหรือไม่ เพราะกฎหมายบ้านเมืองมีอยู่แล้ว
“ทาง กกต.มองว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีกำลังจะยืมมือ กกต.จัดการ ที่ผ่านมาที่เขาทำกันก็เป็นเรื่องที่เขาเทิดทูนสถาบันด้วยกันทั้งนั้น ซึ่ง กกต.ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่บังควร แต่ให้ กกต.ไปออกระเบียบหรือกฎหมายห้ามจะถูกต้องหรือไม่ เพราะหากคนที่เขาทำเขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ดี อย่างที่นำพระบรมราโชวาทมาใช้ เราจะให้เขาผิดจนได้ใบเหลือง-ใบแดงหรืออย่างไร หรือจะให้นำไปสู่การยุบพรรค ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ควรที่จะต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะนี้มองว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างที่จะนำสถาบันลงมาเล่นกันเองเพราะประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง ถ้าเทิดทูนกันจริงก็ไม่เห็นต้องเอามากล่าวอ้างกันไปมา ใครพูดแล้วเห็นว่าหมิ่นก็แจ้งความดำเนินคดีกันอย่างจริงจังไปเลย รัฐบาลก็เอามาดิสเครดิตกัน และโยนขี้มาให้ กกต.มากกว่า เพื่อเป็นเหยื่อทางการเมือง อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง รัฐบาลมีหน้าที่ สั่งการให้ตำรวจจัดการคนผิดกฎหมายบ้านเมืองถ้าใครผิดก็ว่ากันไป ไม่ใช่มาสั่งให้ กกต.ออกกฎจัดการ ทั้งที่มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว กรณีนี้เห็นว่านายกรัฐมนตรีจะมายืมมือ กกต.หรือไม่
“สถานการณ์อย่างนี้ กกต.ต้องนิ่ง และต้องตั้งรับให้ดี เพราะขณะนี้มีแต่คนจะดึงเอา กกต.ไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง จัดการกับอีกฝ่ายที่ไม่ใช่พวกของตัวเอง และขณะนี้ก็เริ่มเห็นได้ชัดว่าการเลือกตั้งน่าจะต้องมีการเลื่อนออกไปอีก เพราะมองว่าการแก้กฎหมายลูก 3 ฉบับนั้นคงไม่เสร็จง่ายๆ อย่างที่ตั้งใจ เพราะถ้าจะให้ผ่านอย่างไม่มีปัญหาในชั้นของวุฒิสภาจะต้องไม่มีการแก้ไขถ้อยคำแม้แต่ตัวเดียว เพราะหากมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอะไรก็ต้องส่งกลับไปยังชั้นสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และก่อนที่จะส่งกลับมาที่วุฒิสภาพิจารณาอีกที เชื่อว่าแนวโน้มในการเลื่อนยุบสภามีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะดูแล้วคงไม่ผ่านในชั้นวุฒิสภาแบบง่ายๆ” แหล่งข่าว กกต.กล่าว
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของการยุบสภาเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นพระราชอำนาจของในหลวง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ การที่นายกรัฐมนตรีพูดไม่เว้นแต่ละวันว่าจะยุบแน่ต้นเดือน พ.ค. ขอถามหน่อยว่า หากกฎหมายลูก 3 ฉบับผ่านขึ้นมาจริงๆ แล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธยก่อนที่จะมีการบังคับใช้ จะไปบีบบังคับท่านให้รีบลงได้หรือ แต่ขณะนี้นายกรัฐมนตรีพูดอยู่ตลอดเวลาจะเป็นการล่วงเกินพระราชอำนาจหรือไม่