“ทนายแม้ว” ยืดอกการันตีนายใหญ่จงรักภักดีตัวพ่อ ซัด ปชป.ใช้วิชามารป้ายสีหวังผลแค่ชนะการเลือกตั้งเท่านั้น ยันประชานิยมแม้วดลใจคนไทย โบ้ยปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ เกิดจากการรัฐประหารปี 49 แบะท่า “ยิ่งลักษณ์” เหินฟ้ารดน้ำดำหัวพี่ชาย ตะวันออกกลางไม่ใช่เรื่องแปลก
วันนี้ (15 เม.ย.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้สั่งการเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันฯ ถือเป็นการใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณว่าจาบจ้วงสถาบัน และกล่าวว่าถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยบ้านเมืองจะวุ่นวายขัดแย้งนั้น ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สั่งการให้ใครไปจาบจ้วงสถาบันฯ เพราะเจ้าตัวก็ทวีตมายืนยันแล้วว่าสถาบันอยู่เหนือการเมือง และทุกฝ่ายไม่ควรนำสถาบันมาโจมตีและทำลายกันทางการเมือง
ดังนั้น ข้อกล่าวหาของนายสุเทพและพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปทุกครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะพรรคไทยรักไทย และพรรคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนอยู่ได้ จึงเลือกใช้วิธีที่ตนเองถนัดก็คือการใส่ร้ายป้ายสีกันทางการเมือง ซึ่งวิธีการนี้มีการทำกันมานานแล้ว อยากถามว่าในอดีตมีใครไปตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีฆ่าในหลวง หรือกล่าวหาจำลองพาคนไปตาย ทำเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น
นอกจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะโฆษณาชวนเชื่อว่า ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยจะเกิดความขัดแย้งกันทางการเมืองตามมา ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาข้าวยากหมากแพง และความขัดแย้งในสังคมอย่างชัดเจน แต่ที่บ้านเมืองมีความแตกแยกก็เพราะมีคนบางกลุ่มไม่ยอมรับการตัดสินใจของประชาชนและทำการยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2549 และมีการออกคำสั่งคณะรัฐประหารเพื่อหวังกำจัดศัตรูทางการเมืองของตน ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยจะเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมในวันที่ 23 เมษายน 2554 นี้ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมและสรุปแนวนโยบายต่างๆ ในขณะที่พำนักอยู่ ณ ตะวันออกกลาง และเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนคนไทยจะเลือกอนาคตที่สดใสมากกว่าจะทนอยู่กับสภาพข้าวยากหมากแพง การเล่นการเมืองของพรรคแกนนำ ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน และความอยุติธรรมสองมาตรฐาน รับรองว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยจะถูกใจคนทุกกลุ่ม ทุกระดับในสังคม
ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเดินทางไปเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว และถ้าจะใช้เวลาช่วงนั้นพบปะพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็อาจมีการเดินทางเพื่อไปรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ตามปกติ