นายกฯ ยันพร้อมกลับดันชาวหม่องกลับบ้านเกิดหลังประเทศเริ่มปลอดภัย ยังไม่ได้คุยพม่า แต่เชื่อคงต้องรับกลับ ยังไม่พูดส่งไปเมื่อไหร่
วานนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาไทยพม่าที่มีข่าวว่าจะมีการปิดศูนย์อพยพและจะผลักดันชาวพม่ากลับว่า จะผลักดันกลับไปเมื่อเห็นว่ามีความปลอดภัยที่จะกลับ จากนี้ก็คงต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีหลักประกันความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ เพราะโดยหลักเราก็กำหนดเป็นนโยบายที่เราใช้มาอยู่แล้ว เนื่องจากการที่รับคนเหล่านี้มาก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและส่งกลับเมื่อเห็นว่ามีความปลอดภัย ซึ่งเราไม่ได้คิดถึงความสมัครใจ แต่เราพูดถึงว่าถ้าคนเหล่านี้มีความปลอดภัยที่จะกลับ ดังนั้นก็อยู่ที่การประเมินสถานการณ์จากหลายๆ ฝ่าย ถ้าเรามีความมั่นใจว่าปลอดภัยถึงจะส่งกลับ ซึ่งเมื่อวาน (11 เม.ย.) ในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็คุยกันในหลักการเดิมว่าถ้าเห็นว่าสถานการณ์เหมาะสม มีความปลอดภัยก็ส่งกลับ ซึ่งเป็นหลักการที่เรายืนยันมาตลอด และหากเราจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องมีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่าได้ประเมินสถานการณ์แล้วเป็นอย่างนี้จึงตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับทางรัฐมนตรีพม่าที่มาพบนายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้พูดเรื่องผู้อพยพ เพราะให้ความสำคัญกับเรื่องของปัญหาอื่นๆ มากกว่าเช่นปัญหายาเสพติด ปัญหาการค้ามนุษย์ การเร่งรัดกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน และกรอบของอาเซียนที่มีการทำงานอยู่
เมื่อถามว่า แนวโน้มทางพม่าพร้อมที่จะรับคนเหล่านี้กลับหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาก็ต้องยอมรับ แต่อย่างไรก็อยู่ที่สถานการณ์ด้วย ซึ่งวันนี้ (12 เม.ย.) ที่มีการหารือกันทางรมต.ต่างประเทศพม่า ก็ยังแสดงความห่วงใยในเรื่องของสถานการณ์บริเวณชายแดนอยู่ และทางรมต.ต่างประเทศพม่ายังพูดค่อนข้างชัดว่า ที่ผ่านมาถือว่ามีเหตุการณ์สำคัญในทางการเมือง เพราะฉะนั้นก็ถือว่ายังไม่นิ่ง แต่หลังจากมีการเลือกตั้ง มีการประชุมสภาครั้งแรก มีการตั้งรัฐบาลแล้ว ก็เชื่อว่าหลังจากนี้ก็น่าจะประเมินได้ง่ายขึ้นว่าเป็นอย่างไรเพราะรัฐบาลใหม่เริ่มเข้าทำงาน ทั้งนี้กล่าวด้วยว่าไม่กล้าพูดว่ากรอบเวลาเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์