แม่ทัพภาค 4 ยัน วางมาตรการรับมือแก๊งป่วนสงกรานต์แล้ว เชื่อ ชาวบ้านไม่อยากได้รัฐมลายูตามนโยบายบางพรรค แต่พูดไม่ได้ เพราะกลัวอำนาจปากกระบอกปืน ยันต้องพิสูจน์ให้เข้าใจว่า รัฐไทยให้ความเป็นธรรมได้ เผย เริ่มถอนทหารแล้วแบบค่อยเป็นค่อยไป
วันนี้ (11 เม.ย.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังการรับมอบของใช้จำเป็นให้กับ หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 31 กองร้อย ในพื้นที่รอยต่อภูเขาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงสถานการณ์สงกรานต์ ว่า เป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่กลุ่มก่อเหตุพยายามเลือกทำในช่วงวันสำคัญ เพื่อให้กำลังพลของกองทัพอ่อนเปลี้ย แต่ได้วางมาตรการการจัดกำลังให้เป็นมาตรฐานเชิงรุกอยู่แล้ว คงไม่มีการปรับกำลังมากมาย เพื่อไม่ให้เกิดความเคร่งเครียด เมื่อต้องเข้าช่วงวันสำคัญ ค่อยๆ ทำให้เขารู้สึกว่า วันพรุ่งนี้ไม่มีผลต่อการปฏิบัติการ หรือจิตใจของกำลังพล ส่วนกรณีที่บางพรรคการเมืองได้นำนโยบายการแบ่งแยกรัฐมลายูไปหาเสียงในบางพื้นที่นั้น เชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่อยากแยกไปไหน แต่อาจพูดไม่ได้ เพราะอำนาจปากกระบอกปืนของคนบางกลุ่ม ถ้าเราสามารถปลดอาวุธจากคนกลุ่มนี้ได้ประชาชนยังอยู่กับเราแน่นอน เพราเขาเป็นคนไทย 100%อยู่แล้ว เพียงแต่แตกต่างกันด้านเชื้อชาติ และความเชื่อเท่านั้น
ส่วนกรณีที่หน่วยข่าวรายงานถึงงบประมาณในการดำเนินการของบีอาร์เอ็น เมื่อปี 53 วงเงิน 85 ล้านบาทนั้น พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า เงินคงไม่สำคัญเท่าอุดมการณ์ แต่ถ้าเราสร้างความเข้าใจว่าผืนแผ่นดินเป็นของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่เราแตกต่างเรื่องความเชื่อ เราก็สามารถพิสูจน์ได้ว่ารัฐไทยให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ดังนั้น เงินไม่ใช่ปัจจัยใหญ่ที่จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดการก่อเหตุ เพียงแต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เราพยายามดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในการใช้หน่วยงานทั้งหลายเข้าไปดำเนินการต่อปัญหาแทรกซ้อน เพราะเงินส่วนหนึ่งมาจากการค้ายาเสพติด และถูกฟอกไปเข้าขบวนการเหล่านี้
เมื่อถามถึงความพร้อมในการถอนกำลังทหารจากภาคต่างๆ กลับหน่วย พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มดำเนินการแล้วในบางส่วนในการบังคับบัญชาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เช่นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในการให้กองพลทหารราบที่ 15 จัดหน่วยเฉพาะกิจขึ้นคุมกำลังของกองทัพภาคที่ 4 เองในพื้นที่ 3 จังหวัด เดิมหน่วยเฉพาะกิจ สงขลาจะดูแลในพื้นที่ของ 4 อำเภอ จ.สงขลา ขณะนี้ได้เริ่มคุมในบางอำเภอใน 3 จังหวัดภาคใต้ในพื้นที่ 3 ฉก.ใน 3 อำเภอ พร้อมทั้งได้นำกำลังทหารพรานบางส่วนจากกองทัพอื่นเข้าไปช่วย กองทัพภาคที่ 4 ส่วนการถอนกำลังจากกองทัพภาคอื่นกลับก็ต้องดูจากสถานการณ์ โดยให้เรามั่นใจก่อน และต้องค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะกำลังส่วนใหญ่ที่เข้าไปอยู่กับประชาชนเราค่อนข้างทำประโยชน์ให้ประชาชนมาก ทำให้ประชาชนไม่อยากให้ไป เมื่อมีการถอนกำลังจากพื้นที่นั้นไปพื้นที่นี้จะมาร้องเรียน ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ
วันนี้ (11 เม.ย.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังการรับมอบของใช้จำเป็นให้กับ หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 31 กองร้อย ในพื้นที่รอยต่อภูเขาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงสถานการณ์สงกรานต์ ว่า เป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่กลุ่มก่อเหตุพยายามเลือกทำในช่วงวันสำคัญ เพื่อให้กำลังพลของกองทัพอ่อนเปลี้ย แต่ได้วางมาตรการการจัดกำลังให้เป็นมาตรฐานเชิงรุกอยู่แล้ว คงไม่มีการปรับกำลังมากมาย เพื่อไม่ให้เกิดความเคร่งเครียด เมื่อต้องเข้าช่วงวันสำคัญ ค่อยๆ ทำให้เขารู้สึกว่า วันพรุ่งนี้ไม่มีผลต่อการปฏิบัติการ หรือจิตใจของกำลังพล ส่วนกรณีที่บางพรรคการเมืองได้นำนโยบายการแบ่งแยกรัฐมลายูไปหาเสียงในบางพื้นที่นั้น เชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่อยากแยกไปไหน แต่อาจพูดไม่ได้ เพราะอำนาจปากกระบอกปืนของคนบางกลุ่ม ถ้าเราสามารถปลดอาวุธจากคนกลุ่มนี้ได้ประชาชนยังอยู่กับเราแน่นอน เพราเขาเป็นคนไทย 100%อยู่แล้ว เพียงแต่แตกต่างกันด้านเชื้อชาติ และความเชื่อเท่านั้น
ส่วนกรณีที่หน่วยข่าวรายงานถึงงบประมาณในการดำเนินการของบีอาร์เอ็น เมื่อปี 53 วงเงิน 85 ล้านบาทนั้น พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า เงินคงไม่สำคัญเท่าอุดมการณ์ แต่ถ้าเราสร้างความเข้าใจว่าผืนแผ่นดินเป็นของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่เราแตกต่างเรื่องความเชื่อ เราก็สามารถพิสูจน์ได้ว่ารัฐไทยให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ดังนั้น เงินไม่ใช่ปัจจัยใหญ่ที่จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดการก่อเหตุ เพียงแต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เราพยายามดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในการใช้หน่วยงานทั้งหลายเข้าไปดำเนินการต่อปัญหาแทรกซ้อน เพราะเงินส่วนหนึ่งมาจากการค้ายาเสพติด และถูกฟอกไปเข้าขบวนการเหล่านี้
เมื่อถามถึงความพร้อมในการถอนกำลังทหารจากภาคต่างๆ กลับหน่วย พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มดำเนินการแล้วในบางส่วนในการบังคับบัญชาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เช่นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในการให้กองพลทหารราบที่ 15 จัดหน่วยเฉพาะกิจขึ้นคุมกำลังของกองทัพภาคที่ 4 เองในพื้นที่ 3 จังหวัด เดิมหน่วยเฉพาะกิจ สงขลาจะดูแลในพื้นที่ของ 4 อำเภอ จ.สงขลา ขณะนี้ได้เริ่มคุมในบางอำเภอใน 3 จังหวัดภาคใต้ในพื้นที่ 3 ฉก.ใน 3 อำเภอ พร้อมทั้งได้นำกำลังทหารพรานบางส่วนจากกองทัพอื่นเข้าไปช่วย กองทัพภาคที่ 4 ส่วนการถอนกำลังจากกองทัพภาคอื่นกลับก็ต้องดูจากสถานการณ์ โดยให้เรามั่นใจก่อน และต้องค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะกำลังส่วนใหญ่ที่เข้าไปอยู่กับประชาชนเราค่อนข้างทำประโยชน์ให้ประชาชนมาก ทำให้ประชาชนไม่อยากให้ไป เมื่อมีการถอนกำลังจากพื้นที่นั้นไปพื้นที่นี้จะมาร้องเรียน ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ
