พรรคการเมืองขนาดกลาง-เล็ก เปิดตัวคึกคักเตรียมพร้อมรอรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ บนการเคลื่อนไหวจับมือกันไว้แล้วไปโกงด้วย
เริ่มจาก “ชาติไทยพัฒนา”ของบรรหาร ศิลปอาชาออกสต๊าร์ทจับขั้วควบไปกับ “ภูมิใจไทย” ของเนวิน ชิดชอบ และล่าสุดการประกาศรวมพรรคกันของ “เพื่อแผ่นดิน” กับ “รวมชาติพัฒนา”ที่จะใช้ชื่อ “รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน”
แต่พรรคร่วมรัฐบาลอีกหนึ่งพรรคที่ยังไม่รู้อนาคตตัวเองจะเอาอย่างไรดี? ก็คือ “กิจสังคม”ของสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา “สุวิทย์”ถือว่าเดินกลยุทธ์ทางการเมืองเหนือชั้น ใช้วิทยายุทธ์ล้ำเลิศจนได้เป็นรัฐมนตรีตลอด ขนาดตกงานหลังโดนเพื่อแผ่นดินสาย “ 3 พิษ” เขี่ยออกจากเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม จู่ๆ ช่วงตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุวิทย์ไปรวบรวม 5 อดีต ส.ส.พลังประชาชน คือ เทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.สัดส่วน, ชยุต ภูมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี, สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ส.ส.สุโขทัย, มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก มาร่วมลงชื่อหนุนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ จนได้เก้าอี้ รมว.ทรัพยากรฯ มาเป็นรางวัลและฟื้นกิจสังคมขึ้นมาใหม่
แต่ก็รู้กันดีในทางการเมือง “กิจสังคม”เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ทำกิจกรรมการเมืองอะไรในรอบสองปีกว่าที่ผ่านมา ขนาด “สุวิทย์” ยังไม่ยอมเป็นหัวหน้าพรรค รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคเท่านั้น ตัวสุวิทย์รวมถึง 5 ส.ส.กิจสังคมก็รู้ดีว่า ที่มารวมตัวกันลงชื่อหนุนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ และสุวิทย์ได้ไปหนึ่งเก้าอี้ เป็นการเมืองเฉพาะกิจ
วันนี้เมื่อการเลือกตั้งจะมาถึงแล้ว พวก ส.ส.ของพรรคต้องคิดหนัก เพราะดูแล้วยากจะชนะหากใส่เสื้อกิจสังคมลงสู้ศึก
เพราะศึกเลือกตั้งครั้งใหม่รบกันรุนแรงแน่ พรรคใหญ่-กลางคงต้องบี้กันหนัก สู้กันสุดฤทธิ์เพื่อชิง ส.ส.เข้ามาเป็นรัฐบาล ขืนลงสมัครพรรคเล็กอย่างกิจสังคม ที่ไม่มีจุดขายทั้งตัวหัวหน้าพรรคและนโยบาย ต่อให้เงินอุดหนุนเต็มพิกัด แต่อนาคตแทบมองไม่เห็น
ถึงเวลาต้องลงสนามเลือกตั้งกันแล้ว การหาพรรคใหม่สังกัด ที่ให้การดูแลดีกว่าและมีโอกาสได้กลับเข้าสภาอีกหน ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีแน่
ว่าแล้วก็มีข่าว กลุ่มส.ส.กิจสังคมเกือบทั้งหมด เตรียมเปิดตัวไปอยู่กับ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ภูมิใจไทยหลังเสร็จเทศกาลสงกรานต์ เพียงแต่ตอนนี้ปากก็ต้องยืนยันว่า จะอยู่กิจสังคมต่อไป เพราะต้องวางท่าสงวนฟอร์มไว้ก่อน
ส่วน “สุวิทย์” ดูแล้ววันนี้ ยังไม่มีท่าทีแน่ชัดว่าจะเอาอย่างไร จะทำกิจสังคมต่อไปหรือไม่ มองอนาคตข้างหน้าช่างมืดมนเหลือเกิน
แม้ทำกิจสังคมต่อไปได้แต่ก็เหนื่อย ลำพังตัวเองจะลง ส.ส.เขต 1 ขอนแก่น ก็มีสิทธิ์สอบตกไม่ต้องลุ้น เพราะรอบที่แล้ว ลงเพื่อแผ่นดินแถมเป็นหัวหน้าพรรค ที่ถือว่าพร้อมกว่ามาก ยังร่วงสนั่นเมืองขอนแก่น
ครั้นจะย้ายไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น “สุวิทย์”ก็ต้องคิดหนักจะไปพรรคไหน ท่ามกลางข่าวการพูดคุยยังไม่นิ่ง ทั้งหมดอยู่ที่การเจรจา หากคุยไม่รู้เรื่อง และไม่อยากง้อใคร เพราะตัวเองก็รุ่นใหญ่แล้ว “สุวิทย์” ก็อาจเลือกต่อชีวิตกิจสังคมต่อไปอีกสมัย
แต่เน้นหวังผลแบบรายจังหวัด-รายเขต เอาไม่มากแค่ 5-6 ที่นั่งที่ดูแล้วมีสิทธิ์ชนะ ก็ทุ่มเต็มที่ โดยรั้ง 5 ส.ส.กิจสังคมเอาไว้ให้อยู่กับกิจสังคมต่อ แล้วหาตัวดีๆ อีกไม่กี่เขตที่ดูแล้วสู้ได้ อัดกระสุนให้หนักๆ ก็พอมีหวัง
หากเป็นไปตามเป้า ก็รอร่วมรัฐบาลอย่างเดียว ไม่ต้องคิดไกล -คิดใหญ่ เข้าทำนอง ขอใหญ่ในบ้านเล็ก ชิลๆ กันไป
ปัญหาก็มีว่า เรื่องเงินๆทองๆในพรรคมีพอสู้กับเขาได้หรือเปล่า ก็ขอบอกว่าตุนไว้เยอะ...
“หลังบ้าน” มือหนักไม่บันเบา ถือทั้งเตารีดและคันไถใส่ไม่ยั้งมาตลอดทั้งปี จนวันนี้ท้องอืดเรอเหม็นเปรี้ยววันละสามเวลา!!
เริ่มจาก “ชาติไทยพัฒนา”ของบรรหาร ศิลปอาชาออกสต๊าร์ทจับขั้วควบไปกับ “ภูมิใจไทย” ของเนวิน ชิดชอบ และล่าสุดการประกาศรวมพรรคกันของ “เพื่อแผ่นดิน” กับ “รวมชาติพัฒนา”ที่จะใช้ชื่อ “รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน”
แต่พรรคร่วมรัฐบาลอีกหนึ่งพรรคที่ยังไม่รู้อนาคตตัวเองจะเอาอย่างไรดี? ก็คือ “กิจสังคม”ของสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา “สุวิทย์”ถือว่าเดินกลยุทธ์ทางการเมืองเหนือชั้น ใช้วิทยายุทธ์ล้ำเลิศจนได้เป็นรัฐมนตรีตลอด ขนาดตกงานหลังโดนเพื่อแผ่นดินสาย “ 3 พิษ” เขี่ยออกจากเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม จู่ๆ ช่วงตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุวิทย์ไปรวบรวม 5 อดีต ส.ส.พลังประชาชน คือ เทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.สัดส่วน, ชยุต ภูมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี, สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ส.ส.สุโขทัย, มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก มาร่วมลงชื่อหนุนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ จนได้เก้าอี้ รมว.ทรัพยากรฯ มาเป็นรางวัลและฟื้นกิจสังคมขึ้นมาใหม่
แต่ก็รู้กันดีในทางการเมือง “กิจสังคม”เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ทำกิจกรรมการเมืองอะไรในรอบสองปีกว่าที่ผ่านมา ขนาด “สุวิทย์” ยังไม่ยอมเป็นหัวหน้าพรรค รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคเท่านั้น ตัวสุวิทย์รวมถึง 5 ส.ส.กิจสังคมก็รู้ดีว่า ที่มารวมตัวกันลงชื่อหนุนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ และสุวิทย์ได้ไปหนึ่งเก้าอี้ เป็นการเมืองเฉพาะกิจ
วันนี้เมื่อการเลือกตั้งจะมาถึงแล้ว พวก ส.ส.ของพรรคต้องคิดหนัก เพราะดูแล้วยากจะชนะหากใส่เสื้อกิจสังคมลงสู้ศึก
เพราะศึกเลือกตั้งครั้งใหม่รบกันรุนแรงแน่ พรรคใหญ่-กลางคงต้องบี้กันหนัก สู้กันสุดฤทธิ์เพื่อชิง ส.ส.เข้ามาเป็นรัฐบาล ขืนลงสมัครพรรคเล็กอย่างกิจสังคม ที่ไม่มีจุดขายทั้งตัวหัวหน้าพรรคและนโยบาย ต่อให้เงินอุดหนุนเต็มพิกัด แต่อนาคตแทบมองไม่เห็น
ถึงเวลาต้องลงสนามเลือกตั้งกันแล้ว การหาพรรคใหม่สังกัด ที่ให้การดูแลดีกว่าและมีโอกาสได้กลับเข้าสภาอีกหน ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีแน่
ว่าแล้วก็มีข่าว กลุ่มส.ส.กิจสังคมเกือบทั้งหมด เตรียมเปิดตัวไปอยู่กับ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ภูมิใจไทยหลังเสร็จเทศกาลสงกรานต์ เพียงแต่ตอนนี้ปากก็ต้องยืนยันว่า จะอยู่กิจสังคมต่อไป เพราะต้องวางท่าสงวนฟอร์มไว้ก่อน
ส่วน “สุวิทย์” ดูแล้ววันนี้ ยังไม่มีท่าทีแน่ชัดว่าจะเอาอย่างไร จะทำกิจสังคมต่อไปหรือไม่ มองอนาคตข้างหน้าช่างมืดมนเหลือเกิน
แม้ทำกิจสังคมต่อไปได้แต่ก็เหนื่อย ลำพังตัวเองจะลง ส.ส.เขต 1 ขอนแก่น ก็มีสิทธิ์สอบตกไม่ต้องลุ้น เพราะรอบที่แล้ว ลงเพื่อแผ่นดินแถมเป็นหัวหน้าพรรค ที่ถือว่าพร้อมกว่ามาก ยังร่วงสนั่นเมืองขอนแก่น
ครั้นจะย้ายไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น “สุวิทย์”ก็ต้องคิดหนักจะไปพรรคไหน ท่ามกลางข่าวการพูดคุยยังไม่นิ่ง ทั้งหมดอยู่ที่การเจรจา หากคุยไม่รู้เรื่อง และไม่อยากง้อใคร เพราะตัวเองก็รุ่นใหญ่แล้ว “สุวิทย์” ก็อาจเลือกต่อชีวิตกิจสังคมต่อไปอีกสมัย
แต่เน้นหวังผลแบบรายจังหวัด-รายเขต เอาไม่มากแค่ 5-6 ที่นั่งที่ดูแล้วมีสิทธิ์ชนะ ก็ทุ่มเต็มที่ โดยรั้ง 5 ส.ส.กิจสังคมเอาไว้ให้อยู่กับกิจสังคมต่อ แล้วหาตัวดีๆ อีกไม่กี่เขตที่ดูแล้วสู้ได้ อัดกระสุนให้หนักๆ ก็พอมีหวัง
หากเป็นไปตามเป้า ก็รอร่วมรัฐบาลอย่างเดียว ไม่ต้องคิดไกล -คิดใหญ่ เข้าทำนอง ขอใหญ่ในบ้านเล็ก ชิลๆ กันไป
ปัญหาก็มีว่า เรื่องเงินๆทองๆในพรรคมีพอสู้กับเขาได้หรือเปล่า ก็ขอบอกว่าตุนไว้เยอะ...
“หลังบ้าน” มือหนักไม่บันเบา ถือทั้งเตารีดและคันไถใส่ไม่ยั้งมาตลอดทั้งปี จนวันนี้ท้องอืดเรอเหม็นเปรี้ยววันละสามเวลา!!
