พรรคร่วมส่งตัวแทนอวยพร 65 ปีประชาธิปัตย์ “สุวัจน์” มาเอง “มาร์ค” เชิญคุยลับ 20 นาที เจ้าตัวบอกมาแสดงความยินดี แนะรอหัวหน้ารวมชาติพัฒนา-เพื่อแผ่นดิน แถลงรวมพรรคหรือไม่ พรุ่งนี้ ไม่รู้ “เหนาะ” จะชวนร่วมเพื่อไทย รับประเมินยากใครแพ้ชนะเลือกตั้ง ชี้ยังไม่ถึงเวลาคิดต่อรองเลือกตั้ง ชี้เหล่าทัพคอนเฟิร์มไม่ปฏิวัติเรื่องดี มั่นใจเลือกตั้งคือทางออก
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคร่วมได้เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องในโอกาสครบ 65 ปี อาทิ นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายนิกร จำนง ฐานะตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา เพื่อแสดงความยินดีกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรค
ทั้งนี้ ภายหลัง นายสุวัจน์ เข้ามอบดอกไม้อวยพร นายอภิสิทธิ์ ได้เชิญ นายสุวัจน์ หารือเป็นการส่วนตัว เป็นเวลากว่า 20 นาที โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมรับฟัง ซึ่งหลังการหารือ นายสุวัจน์ เปิดเผยว่า การมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความยินดีเนื่องในที่พรรคครบรอบ 65 ปี วันก่อตั้งพรรค ทั้งนี้ เป็นพรรคที่คุ้นเคยกันมานาน จึงใช้โอกาสนี้มาร่วมแสดงความยินดีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้เป็นวันที่พรรคประชาธิปัตย์ ย่างเข้าสู่ปีที่ 66 อยากฝากอะไรถึงผู้นำพรรคประชาธิปัตย์บ้าง นายสุวัจน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ในสถาบันการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่อาวุโสมากที่สุด และเป็นพรรคที่เติบโตอย่างมั่นคงสามารถสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองได้ ไม่ง่อนแง่น การแพ้ชนะการเลือกตั้งเป็นอีกเรื่อง ตนขอร่วมเป็นกำลังใจให้พรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่การรวมงานการเมืองระหว่างพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรครวมชาติพัฒนา นายสุวัจน์ กล่าวว่า จะมีการแถลงข่าวให้ทราบถึงการตัดสินใจของทั้ง 2 พรรค เข้าใจว่า ทางหัวหน้าของทั้ง 2 พรรคจะแถลงให้ทราบถึงรายละเอียด
ส่วนกรณีที่ นายเสนาะ เทียนทอง ระบุว่า จะดึงพรรคเล็กไปรวมกับพรรคเพื่อไทย นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรครวมชาติและพรรคเพื่อแผ่นดิน ตนคิดว่าความชัดเจนของทั้ง 2 พรรคจะทราบได้ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น คงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอื่น ส่วนการรวมกันของทั้ง 2 พรรคจะทำให้ได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่คาดเดายาก โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพราะเป็นการเลือกตั้งที่แบ่งเขตใหม่ ดังนั้น ช่วงนี้ประเมินได้ยาก ว่า ใครจะแพ้ หรือใครจะชนะ สำหรับเขตเลือกตั้งเป็นพื้นฐานของความนิยม รวมทั้งเป็นการเลือกตั้งแบบวันแมนวันโหวต ดังนั้น คงคาดการณ์ยาก ดังนั้น ที่พรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็ก ได้รวมกันหรือเป็นพันธมิตรร่วมกัน อย่างน้อยสิ่งที่ได้ คือ เสถียรภาพของพรรคการเมือง โดยพื้นฐานของความแตกแยกในสังคมไทยปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องการเผชิญหน้าทางการเมือง ที่ยังมีอยู่ ดังนั้นการลดการเผชิญหน้าสร้างความเข้าในเป็นพันธมิตรร่วมกัน ก็จะช่วยกระชับความเข้าใจให้ดีขึ้น และการที่พรรคเล็กรวมตัวกัน ก็เป็นเกราะป้องกันตัวในการแข่งขันการเลือกตั้งในเวทีใหญ่
เมื่อถามว่า การรวมกันดังกล่าวต้องการเพิ่มอำนาจต่อรองใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่างน้อยสมาชิกที่อยู่พรรคเล็ก เขามีโอกาสได้กลับมาเป็นผู้แทนในสภาได้มากขึ้น ตนคิดว่า ทุกวันนี้พรรคการเมืองคิดว่าในเรื่องการได้ผู้แทนเข้ามาจำนวนมาก ส่วนอำนาจต่อรองทางการเมือง คงอยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง ดังนั้นช่วงเวลานี้คงไม่ใช้เวลาที่คิดเรื่องการต่อรอง หรือเรื่องการจับขั้วอำนาจทางการเมือง ส่วนความเป็นไปได้ที่จะจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์หลังการเลือกตั้งนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของทั้ง 2 พรรคว่าจะคิดอย่างไร สำหรับยุทธศาสตร์การเป็นรัฐบาล แต่บรรยากาศขณะนี้ เชื่อว่าทุกพรรคคงคิดหาส.ส.เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งก่อน
เมื่อถามถึงกระแสที่ทาง ผบ.เหล่าทัพออกมาแถลงยืนยันไม่มีการปฏิวัติ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ยังไงทุกฝ่ายต้องช่วยกันให้มีการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้ง คือ ทางออก เมื่อมีการเลือกตั้งเมื่อใดเชื่อว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจและความขัดแย้ง ดังนั้นต้องช่วยกันเพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง
“ส่วนข่าวลือที่จะไม่มีการเลือกตั้ง หรือจะมีเหตุการณ์พิเศษ ผมเห็นว่า การที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมายืนยันในสถานการณ์เช่นนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ผมว่าเขาต้องมั่นใจ หากไม่มั่นใจก็ต้องมั่นใจ เพราะอะไรที่เรากังวล คนที่เขาสามารถออกมาพูดเพื่อให้เราหายกังวล เขาก็ได้พูดด้วยความชัดเจนแล้ว ดังนั้นตอนนี้เดินหน้าต่อไปเพื่อให้มีการเลือกตั้ง” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวนี้ต้องชัดเจน และทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมการรณรงค์หาเสียง ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือทำอย่างไรให้การเลือกตั้งครั้งนี้เรียบร้อย ถูกต้อง ทุกฝ่ายยอมรับ เมื่อทุกฝ่ายยอมรับก็เป็นเรื่องง่าย ทำให้การดำเนินงานของรัฐบาล เกิดความชอบธรรม สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศลุล่วงไปได้ แต่หากว่าเลือกตั้งแล้วยังมีอะไรที่ไม่สบายใจมีปัญหาต่างๆ และไม่ยอมรับผลแล้วจะยุ่งจากนี้ไปต้องรีบเคลียร์พื้นที่ สำหรับการเลือกตั้งให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า ขณะนี้นักวิชาการระบุว่าการเลือกตั้ง และการปฏิวัติมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเท่าๆ กัน ในฐานะที่เป็นนักการเมืองอาวุโสมีเค้ารางเรื่องนี้บ้างหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า สำหรับตนมองว่าอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง ไม่น่าจะมีเรื่องอื่น ตนค่อนข้างมั่นใจว่าสถานการณ์ของประเทศเห็นพ้องตรงกันว่าการเลือกตั้งคือทางออก ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อส่งสัญญาณที่ดีเพื่อการเลือกตั้ง
