“เจริญ คันธวงศ์” อ้างสถานทูตไทย ระบุ การตั้งเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือ “วีระ-ราตรี” เปรียบเสมือนไปด่าพ่อแม่เขา แล้วจะไปขอยืมเงินอีก วอนหยุดโจมตี ฮุนเซน-กัมพูชา โบ้ยอยากให้บรรยากาศทั้ง 2 ประเทศดีขึ้น กลัวหางจุกตูด ย้ายประเทศหนีไม่ได้ เผย “ชวน” โทรศัพท์หาเจ้ารณฤทธิ์แก้ปัญหาทั้ง 2 ประเทศ
วันนี้ (7 เม.ย.) นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนรัฐสภาไทย แถลงว่า ก่อนที่ตนจะไปร่วมประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซี่ยน (ไอป้า) นั้น ตนได้ขอเข้าพบเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศกัมพูชา เพื่อจะขอไปเยี่ยม นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ แต่เอกอัครราชทูตของไทยบอกว่า ทั้ง 2 คนอยู่ที่กัมพูชา ทางการทูตไทยได้ดูแลเป็นอย่างดี ไม่อยากให้ตนไปเยี่ยม เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มอื่นขอเข้าไปเยี่ยมด้วย ทั้งนี้ ตนยังถามเอกอัครราชทูตไทย อีกว่า การอภัยโทษจะเป็นอย่างไรต่อไป ทูตไทยบอกว่าความจริงไม่ต้องต่อสู้คดี แต่ขออภัยโทษจะต้องให้สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เซ็นให้จะดีกว่า ซึ่งสถานทูตไทยได้ทำเรื่องอภัยโทษไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งถูกปฏิเสธการได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากเป็นเรื่องของการเมือง มากกว่าปัญหาด้านข้อกฎหมาย และเขารู้ดีว่า นายวีระ กับ น.ส.ราตรี เป็นคนเสื้อเหลือง มันเหมือนไปด่าพ่อแม่ของเขา แต่สุดท้ายกลับไปขอยืมเงิน เป็นใครจะให้
นายเจริญ กล่าวอีกว่า ทางการทูตไทยไม่ค่อยสบายใจที่มีกลุ่มเสื้อเหลืองบางคนได้ไปยืนด่ากัมพูชา บริเวณที่ นายวีระ และ น.ส.ราตรี คุมขังอยู่ ซึ่งเป็นการรบกวนประชากรกัมพูชาที่เขาเดินเข้าเดินออกบริเวณนั้น อย่างไรก็ตาม ในการประชุมไอป้าครั้งนี้ ตนได้คุยกับ ส.ส.รัฐบาล ของกัมพูชา ในเรื่องดังกล่าว เขาก็แนะนำให้ตนเอาดอกไม้ไปเยี่ยมฮุนเซน เพราะเป็นวันเกิด แต่ตนก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ตนยังได้เล่าให้ ส.ส.กัมพูชา ฟังอีกว่า การที่มีคนไทยบางคนด่ากัมพูชา นั้นไม่ไช่ความคิดเห็นของคนไทยทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้บรรยากาศทั้ง 2 ประเทศเพลาๆ ลงบ้าง เพราะเราจะย้ายประเทศหนีก็ไม่ได้ จะต้องแก้ไขกันอย่างสันติ
“อยู่ที่กัมพูชาเขาดูทีวี เอเอสทีวี ก็กล่าวหากัมพูชาบ่อยครั้งมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไรนัก ประเด็น คือ อยากให้พันธมิตรฯยุติการปราศรัยโจมตีฮุนเซน และกัมพูชา ลงบ้าง” นายเจริญ กล่าว
นายเจริญ กล่าวว่า ตนได้คุยกับ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง นายชวน ก็ได้ติดต่อกับสมเด็จกรมพระนโรดมรณฤทธิ์ พระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหนุ แห่งราช อาณาจักรกัมพูชา