“เทพเทือก” อ้างสถานการณ์ไม่คลุมเครือ การเมืองวันนี้ชัดเจน ทุกพรรคมุ่งสู่การเลือกตั้ง เชื่อไม่มีปฏิวัติ เหตุผู้นำกองทัพอยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เดินไปได้ด้วยความราบรื่น ปัด “มาร์ค” ท้าดีเบต “นช.แม้ว” แต่ให้ส่งแคนดิเดตนายกฯ มาถกนโยบายกัน
วันนี้ (28 มี.ค.) นายุสเทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ซึ่งมีบางฝ่ายยังมองว่าสถานการณ์ยังคลุมเครือว่า ขอเรียนว่าการเมืองวันนี้ชัดเจนไม่คลุมเคลือ การเมืองคลี่คลายแล้ว การเมืองวันนี้ถนนทุกสายมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง อารมณ์ของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง พรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลและพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่ทุกคนก็เตรียมตัวไปสู่การเลือกตั้งทั้งนั้น การเมืองวันนี้มีความชัดเจนขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจกับทุกฝ่ายว่าต้นเดือน พ.ค.ในสัปดาห์แรกยุบสภาแน่นอน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรียังไม่มั่นใจ โดยระบุว่ายังมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่พยายามจะเสนออย่างอื่นขึ้นมาเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง นายสุเทพกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจแน่นอนว่าจะต้องยุบสภา จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ท่านเดินไปสู่เป้าหมายนี้แน่นอน ส่วนใครที่จะมาเบี่ยงเบนขัดขวางพี่น้องประชาชนเขาไม่ยอมและทำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า อีกเดือนกว่าก่อนที่จะยุบสภาจะไม่มีการยึดอำนาจก่อนยุบสภาใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “ผมเรียนยืนยันว่าไม่มี อย่าไปสร้างความหวั่นวิตกให้เกิดขึ้นเพราะข่าวลือต่างๆ ผมยืนยันเลยว่าไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารการยึดอำนาจเด็ดขาด เพราะว่าบรรดาผู้นำกองทัพทุกท่านที่ผมรู้จัก ผมเรียนแทนทุกท่านที่ผมได้ทำงานอยู่ด้วยได้เลยว่าเขาปรารถนาที่จะเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อยากเห็นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความราบรื่น”
ต่อข้อถามว่าในช่วงใกล้เลือกตั้งแต่ทางเอแบคโพลล์ได้สำรวจ 10 อันดับพฤติกรรมยอดแย่ของนักการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า วันนี้เพื่อความยุติธรรมเราพยายามเสนอภาพดีๆ ของการเมืองดีกว่า อย่าไปบั่นทอนกำลังใจของประชาชน ต้องช่วยกัน เมื่อถามว่า แต่เลือกตั้งกลับมาก็ได้นักการเมืองที่ไม่ดีมาเหมือนเดิมแล้วจะเกิดประโยชน์อะไร นักการเมืองปรับปรุงตัวเองบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า มันต้องดีขึ้น ตนว่านักการเมืองก็ปรับปรุงตัวเองกันเยอะ
ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ท้าทายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดีเบตแข่งขันในการเลือกตั้งทั้งที่เขาไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายสุเทพกล่าวว่า คงฟังสับสน เพราะนายกรัฐมนตรีได้ชักชวนบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองโดยเฉพาะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือคนที่พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจว่าจะให้บุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะ นายกรัฐมนตรีจึงอยากชวนคนคนนี้มาพูดจาเสนอนแวทางต่อประชาชนด้วยกันในโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้มีโอกาสรับรู้รับทราบว่าคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคมีวิสัยทัศน์ มีแนวทางในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาชาติบ้านเมืองและดูแลประชาชนอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่สมควรจะได้ดำเนินการอย่างยิ่ง พรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศจะต้องเสนอเรื่องเหล่านี้ต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวแย้งว่าแต่พรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงอยู่ตลอดเวลา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องแยกกันเรื่องที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงนั่นใช่ แต่เรื่องจะให้ใครมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นอีกคนหนึ่ง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ในฐานะที่จะกลับมาลงสนามแข่งเลือกตั้งได้ ก็ต้องเป็นนอมินี หรือตัวแทน ตัวสำรองของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วแต่จะเรียกว่าอะไร
เมื่อถามแย้งว่า แต่นายกรัฐมนตรีก็ระบุว่าให้ไปบอกคนที่อยู่ดูไบให้มาดีเบตกัน นายสุเทพกล่าวว่า ก็ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณไม่สั่งให้มาออกทีวี ใครก็มาออกไม่ได้ ทั้งหมดอยุ่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีรายชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มองอย่างไร รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถที่จะไปวิจารณ์ได้ เอาไว้ให้พรรคเพื่อไทยชัดเจนก่อนว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเป็นใคร ตอนนี้ ร.ต.อ.ฉลิม อยู่บำรุง ก็หลุดไปคนหนึ่งแล้วก็เหลือน้อยลง ค่อยๆ ชัดขึ้นเมื่อชัดเจนแล้วต่างคนก็ต่างมาเสนอความคิดความเห็นต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศ จะได้ให้เวลาแก่ประชาชนได้ครุ่นคิดว่าสมควรจะเลือกใครอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่านายอภิสิทธิ์ได้เปรียบเพราะซ้อมบนโพเดียมทุกวัน นายสุเทพกล่าวว่า คนอื่นเขาก็อาจจะแอบซ้อมอยู่ทุกวันก็ได้ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ