รองประธานสภา ระบุผลโหวตซักฟอก ไำม่สะท้อนความเป็นจริงทำระบบสภาฯเสียหาย ชี้ รมต.ที่ที่ควรได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุด กลับได้เสียงมากสุด เรียกรัอง ส.ส.ช่วยกันแก้ระบบที่เป็นปัญหา ด้าน "กษิต" ขอบคุณพรรคร่วมฯให้ความไว้วางใจ ยันอินโดฯไม่ได้เข้าแทรกแซงถกเจบีซีไทย-กัมพูชา 7-8 เม.ย.นี้
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า โดยภาพรวมแล้ว มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และมีการประท้วงน้อยลง แต่ผลคะแนนโหวตที่ออกมาไม่สะท้อนความจริง และเป็นที่น่าเสียดายที่การลงมติในครั้งนี้ทำให้ระบบสภาผู้แทนราษฎรเกิดความเสียหาย เพราะรัฐมนตรีบางคนที่ควรได้รับคะแนนไว้วางใจน้อยที่สุด กลับมีคะแนนมากที่สุด และมากกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วย
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องช่วยกันแก้ระบบสภาฯ ครั้งต่อไป ไม่ควรให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก โดยต่อไปฝ่ายค้านจะต้องมีการปรึกษาหารือ และวิเคราะห์ถึงตัวเลขคะแนนโหวตที่ออกมา
"ผมรู้สึกตกใจที่ขณะนี้จะมีนายกรัฐมนตรีผู้หญิงคนแรกแล้ว" พ.อ.อภิวันท์ กล่าวติดตลก
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับคะแนนความไว้วางใจที่ได้รับ โดยขอขอบคุณ ส.ส.จากพรรคร่วมทุกคน ที่ลงมติไว้วางใจให้ทำงานต่อไป โดยหลังจากนี้ จะตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยก่อนหน้าที่จะมีการลงมติ มีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่ารัฐมนตรีทุกคน สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ชัดเจนและตรงประเด็น
นายกษิต ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-กัมพูชา ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 7-8 เม.ย.ว่า การประชุมดังกล่าว จะเป็นกระบวนการเจรจาเพื่อหาความคืบหน้าในการจัดหาบริษัท เพื่อดำเนินการ ถ่ายภาพทางอากาศ และเพื่อสำรวจหาหมุดปักปันเขตแดน
นายกษิต ยืนยันว่ากรณีที่ประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ไม่ได้เข้ามมาแทรกแซงการเจรจา เพียงแต่ดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือในการอำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างกันเท่านั้น