ยื้อโหวต-เขี้ยวชนเขี้ยว !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

 
00 ผลสำรวจชาวบ้านที่นั่งฟัง “ศึกน้ำลาย” ระห่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล ผลก็ออกมาตามคาด ปรากฏว่า “สูสี” ไม่มีผลต่อความนิยมเพิ่มขึ้นหรือลดลง ความหมายก็อาจออกมาในลักษณะที่ว่า “ไม่ได้คาดหวัง” กับคนพวกนี้อยู่แล้ว ทั้งนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ หัวหน้าทีมฝ่ายค้านคนใหม่อย่าง “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แม้ว่าจะดูดีกว่าทุกครั้ง แต่ก็งั้นๆ ดังนั้นก็ต้องติดตามดูกันวันต่อวัน

00 อย่างไรก็ดีเรื่องปัญหาค่าครองชีพ ข้าวของแพง โดยเฉพาะ “วิกฤติน้ำมันปาล์ม” ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาล โดยเฉพาะ ปชป.ไม่น้อย เนื่องจากทราบกันดีว่า ปาล์มเป็นพืชการเมืองมีผลกระทบในวงกว้าง ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ สุเทพ ถึงขั้นต้องใช้วิธีท้าทายให้มีเดิมพันเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตหากได้เงิน “เข้ากระเป๋า” แม้สักบาทเดียว ก็ว่ากันไป ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ แล้วแต่บุคคล แต่มีข้อคิดอยู่นิดหนึ่งว่าคนที่ไม่มีเครดิตส่วนใหญ่มักใช้วิธีสาบาน และท้าทายแบบนี้แหละ

00 ฉวยจังหวะแถเข้ามาทันควันสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ทวิตเตอร์ตามซ้ำ มาร์ค ในเชิง “สอนมวย” เชิงบริหาร พร้อมทั้งแก้ต่าง “ฟอก” ผลงานของตัวเองในอดีต ลักษณะตีคู่ขนานไปกับการอภิปรายในสภา ถือว่าลงทุนไม่มากแต่ก็คุ้มค่า เรียกความดึงดูดความสนใจได้ผลไม่น้อย

00 อย่างไรก็ดีในภาพรวม ซักฟอกดวลน้ำลายกันมาสองวัน ถือว่ายังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำชัดเจน แต่ที่หนักหน่อยกลายเป็น รมต.จากฝั่ง “ภูมิใจเนวิน” เสียมากกว่า เพราะทั้งหัวหน้าพรรคอย่าง “เสี่ยจิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูร เลขาฯพรรค พรทิวา นาคาศัย และ รองหัวหน้าพรรค โสภณ ซารัมย์ มากันครบ แถมยังมีข่าวแว่วว่ามีรายการ “เบี้ยว” กันเล็กๆ มันก็ต้องโวยกันหน่อย นี่แหละถึงเป็นที่มาของข้อเสนอจาก “ปู่ชัย” ให้เลื่อนวันโหวตออกไปจากเดิม 19 มี.ค.เป็น 22 มี.ค.เรียกว่ามีเวลาเช็กเสียงต่อรองให้ชัวร์เสียก่อน อย่างนี้เขาเรียกว่า “เขี้ยว” ชนเขี้ยว ว่างั้นเถอะ

00 จะเรียกว่าสมน้ำหน้า ทุเรศ หรืออะไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกกับการที่ “ไอ้กี้ร์” อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง “ผู้ก่อการร้าย” ที่ “ปอดแหก” ไม่กล้าออกมามอบตัว เหมือนกับ “หัวโจก” คนอื่นๆ เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นเป้า โดดเด่นมากกว่าคนอื่น รู้สำนึกว่าไม่ได้รับการประกันตัวแน่ จึงโผล่ทางยูทิวบ์ประกาศไม่ยอมโผล่ แถมยังตั้งเงื่อนไขให้ มาร์ค-เทือก ยุบสภาเสียก่อน

00 เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การรอลุ้นให้ “ผลัดแผ่นดิน” ใหม่ รอให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเถลิงอำนาจด้วยการชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล และ “หัวโจกแดง” ที่จะได้ดิบได้ดีได้ปูนบำเหน็จเป็นรัฐมนตรี “ไฟเขียว” ให้กลับเข้ามา เมื่อนับนิ้วคำนวณแล้วก็มั่นใจว่าคงเหลือเวลาอีกไม่นาน อดทนรอไปอีกหน่อยแล้วกัน

00 ที่บอกว่าสมน้ำหน้า ระคนกับความรู้สึกทุเรศนั้น ความรู้สึกนี้ส่งไปถึง ฝ่ายความมั่นคงที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เวลาผ่านมากว่า 9 เดือน นับจากพวก “เวรตะไล” พวกนี้มันปลุกระดมเผาเมือง เสร็จแล้วก็หนีไปอย่าง “ลอยนวล” ที่ผ่านมาไม่เคย “ลากคอ” ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้มาเข้าคุกได้เลยแม้ซักคนเดียว จนกระทั่งมีนโยบาย “ปรองดอง” กับโจรคนพวกนี้ก็โผล่ออกมาและก็ได้ประกันตัวกันเกือบครบทุกคน หากยังจำได้ อดิศร เพียงเกษ แกนนำอีกคนหนึ่งก็บอกเองว่าหลบอยู่ในกรุงเทพฯนี่เองไม่ได้หนีไปไหน แล้วอย่างนี้ไม่รู้จะสมน้ำหน้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไรแล้ว

00 ประเด็นก็คือ ผู้ก่อการร้ายไม่มีสิทธิ์ต่อรองสำหรับการประกันตัวอยู่แล้ว ตามที่ สุเทพ พุดนั่นแหละเป็นเรื่องจริงไม่ผิดเพี้ยน แต่คำถามก็คือ ที่ผ่านมา “พวกเอ็ง” ที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงทำไมไม่มีปัญญาในการตามจับกุมมาดำเนินคดี หรือว่าในสมองมีแต่จ้องจะ“รื้อส้วม” ท่าเดียว ทุด !!