นายกฯ เผยเชิญหน่วยงานช่วยคนไทยในญี่ปุ่น ตามคนหาย แต่ยังไม่มีรายงานว่ามี ยันไร้ปัญหาช่วยกลับบ้าน พร้อมสั่งแผนรับมือสถานการณ์ ส่งสิ่งของช่วยยุ่นคืนนี้ แต่ยังระงับการช่วยกู้ภัย ยันยังไม่พบรังสีเข้าไทย พร้อมประสานท่าเรือตรวจสอบสินค้า “กษิต” รับยังติดต่อคนที่เซนไดไม่ได้อีก 200 ปัดค่าตั๋วบินไทยแพง ยันตกลงราคาพิเศษแล้ว
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่น พร้อมการให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากภัยสินามิ ว่า ได้ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาซักซ้อมการทำงานในขั้นตอนต่อไปในการรองรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น โดยเรื่องแรก คือ การติดตามและการช่วยเหลือคนไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตพร้อมเครือข่ายที่มีอยู่ในญี่ปุ่นยัง ดำเนินการติดตามอย่างต่อเนื่องในกรณีที่ยังมีพื้นที่ซึ่งประสบภัยพิบัติและ มีผู้สูญหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราไม่ทราบว่าในจำนวนนั้นจะมีคนไทยหรือไม่ แต่ยังไม่มีรายงานเรื่องการสูญเสียชีวิต เพียงแต่ยังมีจำนวนคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งซึ่ง พยายามติดตามอยู่ แต่เนื่องจากระบบการสื่อสารในญี่ปุ่นยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ทั้งหมด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือคนไทยที่จะเดินทางกลับไม่มีปัญหา ขณะนี้เที่ยวบินต่างๆ ทางการบินไทยแจ้งยังมีเที่ยวว่างอยู่และสามารถรองรับการเดินทางกลับได้ และในสถานการณ์หากระดับความรุนแรงอยู่ในระดับปัจจุบัน คิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการรองรับ อย่างไรก็ตาม ได้มีการเตรียมแผนไว้ว่า ถ้ามีสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นก็ควรให้หน่วยงานต่างได้มีการเตรียมการรองรับ กรณีที่มีความจำเป็นให้คนไทยกลับมาในจำนวนที่มากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
ส่วนการให้ความช่วยเหลือกับทางญี่ปุ่นนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของสิ่งของเรามีการดำเนินการ โดยได้รับความกรุณาจากทั้งพี่น้องประชาชนทั้งภาคเอกชน ซึ่งเรื่องการขนส่งสิ่งของไปนั้นได้ทำกันทั้งในส่วนของการบินไทย และจะมีเครื่องบินซี 130 ไปในคืนนี้ (15 มี.ค.) และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำหรับของที่ไปถึงจะมีจุดพักของและมีระบบการจัดส่งต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางญี่ปุ่นได้แจ้งว่าความต้องการของเขามากที่สุดตอนนี้มีเรื่องของน้ำ ไฟฉาย ผ้าห่ม ถุงนอน ถุงเท้า ภาชนะใส่น้ำ เช่น กระติกน้ำ เป็นต้น ฉะนั้น ผู้ที่ต้องการจะบริจาคอยากจะบริจาคให้ตรงตามนี้ก็จะเป็นไปตามความต้องการของทางญี่ปุ่น
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปทำงานเรื่องการกู้ภัยต่างๆ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้เราจะพร้อม แต่ทางญี่ปุ่นได้ขอระงับในการรับ เพราะจากประสบการณ์ที่หลายประเทศส่งไป ระบบการจัดการตรงนั้นยังเป็นปัญหาอยู่ อย่างไรก็ตาม เรายังยืนยันอะไรก็ตามที่เป็นความช่วยเหลือเราจะให้ แต่อยู่ที่ทางญี่ปุ่นการที่จะพร้อมรับหรือไม่อย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของผลกระทบที่จะตามเกี่ยวกับเรื่องของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ได้มีการซักซ้อมกันใน 3 ส่วนในแง่ของการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสี โดยเรื่องของอากาศเราเครื่องมือที่สามารถติดตามระดับของรังสีเหล่านี้ในอากาศได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสิ่งที่บ่งบอกว่ามีความผิดปกติและผู้เชี่ยวชาญค่อนข่างมั่นใจโดยสภาพของดินฟ้า อากาศ ทิศทางลม โอกาสที่จะเข้ามาสู่ประเทศไทยมีน้อยมากๆ ส่วนเรื่องของอาหารที่นำเข้ามา ตรงนี้ได้มีการประสานงานให้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจ ซึ่งเรามีอยู่แล้วที่มาบตาพุด แต่ที่คลองเตย ซึ่งเป็นจุดที่จะมีการนำเข้ามาอีกจำนวนหนึ่งก็จะมีการส่งเครื่องมือและบุคลากรไปประสานงานกับทางท่าเรือ เพื่อตรวจสอบสินค้าและอาหารที่เข้ามา
ส่วนเรื่องของคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงภายในคืนนี้ (16 มี.ค.) จะมีระบบตรวจที่ด่าน โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวไปแล้ว โดยจะมีการประสานกับทางกระทรวงวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ตรงนี้จะเป็นลักษณะของการให้บริการความรู้ ให้คำแนะนำ รวมจนถึงกรณีที่มีคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องการจะตรวจก็จะสามารถให้ตรวจได้และให้เป็นไปตามความสมัครใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับในแง่ของระบบข้อมูลข่าวสารทางกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นศูนย์กลางอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ แต่หน่วยงานอื่นที่พี่น้องประชาชนอาจจะอยากได้ข้อมูลข่าวสารก็จะให้มีการประสานงานกัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ข้อมูลและมีความมั่นใจสบายใจในแง่ของความ เสี่ยงเรื่องภัยพิบัติต่างๆ ด้วยพร้อมๆ กันไป
ส่วนปัญหาค่าตั๋วเครื่องบินแพงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากปรากฏการณ์ที่ทางการบินไทยแจ้งคือมีคนจะกลับ แต่เดินทางมายังสนามบินไม่ทัน เนื่องจากระบบการคมนาคมค่อนข้างขลุกขลัก
ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงถึงตัวเลขคนไทยในญี่ปุ่นว่า ที่จุดเซนไดจะมีคนไทยประมาณ 300 คน ได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้วอยู่ที่โตเกียว 70 คนและอีก 40 คนจะเดินทางกลับมาในคืนนี้ (16 มี.ค.) เหลืออีกประมาณ 200 คนที่ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ยังมีปัญหาเรื่องการติดต่อด้านโทรคมนาคม แต่เรามีเครือข่ายร่วมกับชุมนุมคนไทยในพื้นที่ ซึ่งกำลังช่วยกันทั้งสำนักงานแรงงาน และสำนักงาน ก.พ.ที่ดูแลนักเรียนอยู่
ส่วนปัญหาค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับไทยแพงเกินเหตุนั้น นายกษิต กล่าวว่า คงไม่จริง เพราะคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากไม่มีเงิน เราก็ส่งกลับ ค่าใช้จ่ายระยะแรกไม่มีปัญหา ขณะเดียวกัน เราได้ตกลงราคาพิเศษสุดกับประธานการบินไทยแล้ว