“ลุงจำลอง” สับ รบ.สั่งตำรวจรุกคืบแกล้ง ปชช.หวังยุติการชุมนุม โวยเปิดจราจรทำผู้ชุมนุมไม่ปลอดภัย เชื่อ เตรียมรุกหนักขึ้นแน่ ยันเห็นความสำคัญงานกาชาด แต่มั่นใจจัดงานได้เหมือนปี 51 ด้าน “ประพันธ์” กร้าวทุกคนมีขีดจำกัด เตือนอย่าบีบคั้นมาก เกรงคุมผู้ชุมนุมไม่อยู่ เพราะทุกคนมีสิทธิปกป้องตัวเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การแจ้งข่าว จาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากลั่นแกล้งและยุติการชุมนุมของพวกเรา ซึ่งขณะนี้ได้ทำไปแล้ว 4 ขั้นด้วยกัน ตั้งแต่การเปิดพื้นที่ ถ.ราชดำเนินหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ทำให้มีรถสัญจรไปมาโดยไม่มีการตรวจอาวุธ ซึ่งสร้างความไม่ปลอดภัยต่อผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ที่เคยรักษาความปลอดภัยในช่วงแรก ตอนนี้ก็หายไปจนเกือบหมด ต่อมารัฐบาลก็ยึดพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อกดดันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าออกจากพื้นที่ได้ง่าย หลังจากนั้นก็ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจของ กทม.เข้ามาพยายามรื้อถอนห้องสุขาจำนวน 48 ห้องริมรั้วกระทรวงศึกษาธิการ แต่ตนก็ได้ร้องขอไว้ เพราะจะทำให้ผู้ชุมนุมที่มาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินจะเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ตนคาดว่า ทางตำรวจ และ กทม.จะเร่งดำเนินการอีกครั้งเร็วๆ นี้
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ส่วนขั้นที่ 4 นั้นทางตำรวจจะมาพบตนเพื่อแจ้งขอเปิดการจราจรบน ถ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่การชุมนุมของกองทัพธรรม ซึ่งตนเห็นว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุม เพราะพื้นที่แคบ และตำรวจก็ไม่ได้มายืนรักษาความปลอดภัยให้แก่เรา ทั้งนี้ตนเชื่อว่าหลังจากนี้ก็จะมีมาตรการขั้นต่อๆ ไป เพื่อทำให้เราสลายการชุมนุมในที่สุด อย่างไรก็ตามไม่ว่าตำรวจจะมาขอพื้นที่บางส่วนหรือทั้งหมดก็ตามถือว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุมมาก รวมทั้งการจราจรก็ไม่ได้ติดขัดมาก ส่วนเหตุผลเรื่องงานกาชาด ก็เป็นเพียงเรื่องที่ยกขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้งเรา เพราะคราวก่อนเมื่อปี 51 ที่เราชุมนุมกันอยู่ ก็จัดงานมาถึงเพียงแค่แยกมิสกวันเท่านั้น ไม่ได้กระทบกันแต่อย่างใด
“เราเห็นว่า กิจกรรมกาชาดเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องรุกเข้ามาถึงพื้นที่การชุมนุม เหตุผลเรื่องการจัดการจราจรก็สามารถอ้างได้ ซึ่งสิ่งใดที่สามารถนำมากลั่นแกล้งเราได้ เขาก็จะหยิบขึ้นมาใช้ตลอดเวลา” พล.ต.จำลอง กล่าว
นายประพันธ์ คุณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเสริมว่า การชุมนุมของประชาชนได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสำคัญที่สุดของประเทศ แต่เรื่องการกระทำผิด พ.ร.บ.การจราจรนั้นเป็นกฎหมายระดับรองลงมา หากว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลอ้าง พ.ร.บ.จราจรมาลบล้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ ประเทศนี้ก็จะไม่มีการชุมนุมได้เลย ทั้งการชุมนุมของเกษตรกร พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือการชุมนุมเพื่อปกป้องดินแดนอธิปไตย ทั้งที่สิทธิการชุมนุมในรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะ โดยระบุเหตุผลของการชุมนุมให้ชัดเจน ที่สามารถทำได้ แต่รัฐบาลกระเหือนกระหือรือพยายามกดดันผู้ชุมนุม มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั่วประเทศ ซึ่งตนทราบมาว่าวันนี้ก็มีการระดมทั้งตำรวจและรถคัมขุงผู้ต้องหามาจาก จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องสิ้นเปลืองงบประมาณมากมายเช่นนี้
“เมื่อข้ออ้างเรื่องจราจรไม่สามารถลบล้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ เมื่อประชาชนไม่ได้ทำผิดอะไร และรัฐบาลกลับพยายามกดดันคุกคาม กดขี่ข่มเหงต่อประชาชนอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดบันดาลโทสะตอบโต้รัฐบาลได้ เพราะความอดทนของทุกคนมีขีดจำกัด และมีสิทธิในการตอบโต้ป้องกันตัวตามกฎหมาย ซึ่งเราอาจทำให้ไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้” นายประพันธ์ กล่าว