xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ชี้ประชาธิปัตย์ระดมทุนสัญญาณชัดใกล้ยุบสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ (แฟ้มภาพ)
“เทพเทือก” ไม่รู้เด็กยี้ห้อยไล่ “มาร์ค” ไปอ่านศรีธนญชัย เหตุไม่ชัดเจนวันยุบสภา ระบุการระดมทุนของ ปชป.ถือว่าส่งสัญญาณชัดเจนว่าใกล้วันเลือกตั้ง รอนายกฯ คุย กกต.ศุกร์นี้ ไม่สน “เจ๊สด” เกี่ยงให้สภาฯ ออกกฎหมายลูกแทน กกต.ออกระเบียบ บอกกฎหมายว่าอย่างไรก็อย่างนั้น พร้อมแนะอย่าคิดในทางร้ายหากจะให้เลือกตั้งต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคุมสถานการณ์ แนะทุกฝ่ายให้โอกาสประเทศร่วมกันนับหนึ่ง



นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงยอดเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากการจัดงานระดมทุนของพรรควานนี้ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ตัวเลขที่แน่นอนของยอดเงินบริจาค ซึ่งในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคก็พยายามทำเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง และถือว่าเป็นการแสดงเจตนาให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งจริงๆ พวกตนได้เตรียมการทุกอย่างเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ฉะนั้นที่ใครกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีพูดไม่แน่นอน ไม่รู้จะยุบสภาเมื่อไหร่ เลือกตั้งเมื่อไหร่ ตนก็บอกว่านี่คือสัญญาณที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์บอกว่าดูดไม่เก่ง แต่ก็มีคนมาช่วยงานมี ส.ส.ต่างพรรคด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ตนเป็นคนมีเพื่อน นักการเมืองก็เป็นเพื่อนกัน คบค้าสมาคมกัน นับถือกัน ตนจัดงานเขาก็กรุณามาเป็นกำลังใจเกือบทุกพรรค เมื่อถามว่าถือเป็นเอ็มโอยูกับพรรคร่วมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามว่านายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความชัดเจนเรื่องยุบสภา ควรไปอ่านหนังสือเรื่องศรีธนญชัย มองว่าอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่ทราบว่าเขาพูดที่ไหนอย่างไร หรือหมายความอย่างไร ตอบไม่ได้

ส่วนที่นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่าการออกระเบียบอาจทำไม่ได้ จึงอยากให้รัฐบาลออกกฎหมายลูกขึ้นมาเพื่อการเลือกตั้ง นายสุเทพกล่าวว่า
ตนคงไม่ไปถกเถียงกับนางสดศรี กฎหมายว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น แต่วันศุกร์นี้นายกรัฐมนตรีจะไปพบ กกต.เพื่อดูเรื่องข้อกฎหมายเรื่องเตรียมการเลือกตั้ง ทำอะไรได้ไม่ได้บ้าง ก็ว่ากันให้ชัดเจน ดังนั้นจะทำให้เรื่องนี้ชัดเจนขึ้น เมื่อถามว่าจัดเจนเรื่องยุบสภาด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า กำหนดวันยังไม่ใช่ เพราะต้องดูว่า กกต.พร้อมก่อน

ต่อข้อถามว่านางสดศรียังระบุว่าหากสถานการณ์ยังมีม็อบ มีการชุมนุมต่างๆ แต่จะมีเลือกตั้งเกิดขึ้น ควรมีการใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในช่วงเลือกตั้งหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปคาดการณ์อะไรในทางร้ายก่อนเลย ช่วยกันพูดคุยตักเตือนบอกกล่าวกลุ่มต่างๆ ดีกว่าเรามาพร้อใจกันให้โอกาสกับประเทศไทย สร้างบรรยากาศให้ดี จัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย กลับมาก็จะได้เริ่มต้นกันใหม่ เป็นโอกาสใหม่สำหรับประเทศชาติ สำหรับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งจะเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย นายสุเทพกล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว มันเป็น 2 พรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่งสำคัญ เมื่อถามว่าหากสถานการณ์บังคับให้อยู่ครบเทอม นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่

ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดนโยบายเร็ว รวมถึงทำเรื่องอื่นๆ ไปก่อน เช่น การระดมทุน จะทำให้มีโอกาสที่พรรคจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน ไม่มีใครที่จะไปอวดโอ่ได้ ดูว่าประชาชนตัดสินอย่างไร แต่ที่พรรคเตรียมการไว้ก็เป็นการเตรียมการปกติของพรรคการเมือง และอีกอย่างตนต้องการส่งสัญญาณให้พรรคการเมืองได้ทราบชัดเจนว่าจะมีเลือกตั้งแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีพูดในงานทำให้คนฟังเคลิ้ม ทุกอย่างดีขึ้นหมด ชีวิตความเป็นอยู่ และยังระบุอีกว่าจะหารายได้เข้าประเทศอย่างไร ทำอะไรบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า ในเวลาสั้นๆ นายกรัฐมนตรีไม่สามารถพูดครบหมด แต่ทุกเรื่องที่พูดนั้นก็เป็นเรื่องจริงที่ยืนยันกับพี่น้องประชาชนได้ และพูดถึงความตั้งใจที่จะทำต่อไป เรื่องรายได้เข้าประเทศ ตนคิดว่าที่เศรษฐกิจเราดีขึ้นก็มาจากผลการที่เรามีรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น การท่องเที่ยว การส่งออกดีขึ้น เมื่อถามว่าคิดว่ายังเหลืออะไรที่เป็นอุปสรรคในการเลือกตั้ง นายสุเทพกล่าวว่า ก็มีเรื่องสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันคลี่คลายก็เรียบร้อย

นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อเตรียมปรับกำลังทหารและพลเรือนในการดูแลความปลอดภัยว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่ได้ดำเนินการไปตามกรอบที่ได้บอกกันไว้ เดี๋ยวจะไปเสนอกฎหมายในเรื่องนี้ ส่วนที่กัมพูชาตอบรับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ในปลายเดือนมีนาคม ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ชี้แจง
กำลังโหลดความคิดเห็น