นักวิชาการจากรั้วนิด้า ยกย่อง “วีระ” ถือเป็นบุคลากรที่กล้าหาญ จนนักการเมืองฉ้อฉลต้องรวมหัวฮุนเซน กำจัดเสี้ยนหนาม ชี้ น่าละอายทั้งลักพาตัว-ยัดเยียดข้อหา และกักขังอย่างทรมาน ถือว่าขัดหลักสากล ชี้ เข้าข่ายอาชญากรโลก เตือนให้เร่งช่วยเหลือนำตัว “วีระ-ราตรี” กลับไทยโดยด่วน และหากบุคคลทั้งสองมีอันเป็นไป มาร์ค และ รมต.ชุดนี้ จะไม่มีแผ่นดินกลบหน้าในวาระสุดท้าย
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้กล่าวบนเวทีสัมมนาราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน กรณี นายวีระ สมความคิด และ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ถูกทหารกัมพูชาจับกุมในอธิปไตยไทย และยังถูกศาลสั่งจำคุกมาจนทุกวันนี้ ว่า เนื่องจากนักการเมืองฉ้อฉล เห็นว่า นายวีระ เป็นเสี้ยนหนามที่จะต้องช่วยกันกำจัด จึงเกิดกระบวนการลักพาตัว โดยร่วมมือกับประเทศกัมพูชา กลั่นแกล้งและยัดเยียดข้อหาที่ไม่เป็นธรรม ตามหลักสากลโลก ทั้งที่การกระทำของบุคคลทั้งสอง ถือว่าเป็นหน้าที่เพื่อตรวจสอบอธิปไตยตามรธน.
ดร.พิชาย กล่าวว่า ตามหลักสากล รัฐบาลไทยตามระบอบประชาธิปไตยจริง จะต้องยื่นมือเพื่อให้ความช่วยเหลือพลเรือนของตัวเองอย่างเข้มแข็ง แม้ว่าจะกระทำผิดก็ตาม แต่รัฐบาลนี้นอกจากจะไม่ให้ความช่วยเหลือแล้ว ยังสมคบกับประเทศกัมพูชา เพื่อหาทางกลั่นแกล้ง และยัดเยียดข้อหา ถือว่าเป็นอาชญกรรมระหว่างประเทศ
“รัฐบาลนี้ปล่อยให้พลเรือนไทยต้องเผชิญชะตากรรมด้วยหลักไม่เป็นธรรม จึงต้องย้อนถามว่ายังมีมนุษยธรรมอยู่ในจิตสำนึกอีกหรือไม่ แต่อาจจะเป็นเพราะนายกฯ คนนี้มีสองสัญชาติ จิตสำนึกในความเป็นไทยเลยถูกบั่นทอนลงไป 7 ทั้งที่กระบวนการช่วยเหลือไม่ต้องปล่อยให้ล่วงเลย นายวีระ และ น.ส.ราตรี รออุทธรณ์ หรือปล่อยให้ครอบครัวเขายื่นอภัยโทษโดยลำพัง เพียงแต่ใช้อำนาจทั้งด้านเศรษฐกิจ กองทัพไทยที่เหนือกว่ากัมพูชาทุกด้าน กดดันเพื่อให้ปล่อยตัว นายวีระ และ น.ส.ราตรี ให้เป็นอิสรภาพโดยทันที และหากบุคคลทั้งสองต้องมีอันเป็นไป รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ รวมถึงคณะรัฐมนตรีชุดนี้ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และจะต้องตกเป็นอาชญากรโลก และสุดท้ายบาปกรรมจะกลับคืนสนอง จนไม่มีแผ่นดินกลบหน้าในวาระสุดท้าย” ดร.พิชาย กล่าวทิ้งท้าย
