ส.ว.ระยอง ซัดรัฐปล่อย7 คนไทยถูกจับขึ้นศาลเขมรเสี่ยงเสียอาณาเขต ทำเอกสารราชการเสื่อม จี้ประท้วงจริงจัง ช่วยเหลือ “วีระ-ราตรี” ฉะ “มาร์ค-กษิต” ปล่อยทหารแขมร์ยึดวัดแก้วฯ ภูมะเขือ จี้ทวงแดนคืน - ส.ว.สระแก้วห่วงชายแดนค้าขายไม่ได้ แนะให้ 2 ฝ่ายหยุดยิง
วันนี้ (7 มี.ค.) การประชุมวุฒิสภา โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง กล่าวว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย ปล่อยให้นายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ถูกจับไปดำเนินคดีในศาลกัมพูชาทั้งที่ดินแดนที่ถูกจับยังมีข้อโต้เถียงว่าเป็นดินแดนของไทยหรือกัมพูชากันแน่ และแม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ได้มีข้อตกลงว่าหากเกิดการจับกุมให้ใช้การเจรจาแทน แต่ฝ่ายไทยได้ปล่อยให้จับตัว 7 คนไทยและถูกศาลกัมพูชาลงโทษ โดยนายวีระ และน.ส.ราตรี ยังถูกจองจำอยู่ในเรือนจำจนขณะนี้ กระบวนการดังกล่าวถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงให้ราชอาณาจักรไทยสูญเสียอาณาเขตตก ไปเป็นของกัมพูชา รวมถึงอาจะทำเอกราชทางศาลของไทยเสื่อมเสียไป เพื่อเป็นการบรรเทาผลร้ายนี้รัฐบาลไทยควรประท้วงรัฐบาลกัมพูชาอย่างจริงจัง และให้ความช่วยเหลือนายวีระและ น.ส.ราตรีอย่างจริงจังเนื่องจากทั้งสองคนไม่ได้เล่นการเมือง แต่ทำไปด้วยความรักชาติรักอธิปไตยของไทย
นายสายกล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร พื้นที่ดังกล่าวได้มีพระราชกฤษฎีกาในสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยยังไม่มีการยกเลิก โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทย แต่ช่วงที่ผ่านมากัมพูชาได้ส่งกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะบริเวณภูมะเขือ และวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกลับไม่ดำเนินการอะไรทำให้เกิดความเสี่ยงให้เอกราชและอาณาเขตไทยตกเป็นของกัมพูชา รัฐบาลจึงควรดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้ได้ดินแดนของไทยกลับมาโดยเร็วที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.พายับ ทองชื่น ส.ว.สระแก้ว กล่าวว่า ปัจจุบันความหวาดระแวงของประชาชนบริเวณชายแดนตะวันออกยังคงมีอยู่ แม้ชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ จะมีการหยุดยิงไปแล้ว แต่จังหวัดชายแดนตะวันออกไม่ว่าจะเป็น จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี และจ.ตราด ยังมีความกังวลเนื่องจากกำลังทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังเผชิญหน้ากัน อยู่จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้กำชับและมีนโยบายเร่งด่วนอย่าให้ทั้งสองฝ่ายใช้กำลังต่อกัน โดยเฉพาะบริเวณจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นเขตการค้าชายแดนซึ่งมีความสำคัญทั้งด้านการค้า และการท่องเที่ยว