คปร.ชงแนวทางฝ่าวิกฤตการเมือง-ศก. แนะแก้ไขปัญหายั่งยืน

คปร. ชงแนวทางปฏิรูปโครงสร้างการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้แก่ประชาชน โดยแนะเข้าถึงทรัพยากร รวมทั้งสร้างกลไกแก้ไขปัญหายั่งยืน จะได้เป็นการป้องกันเกิดวิกฤตซ้ำซาก

วันนี้ (5 มี.ค.) ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) กล่าวในเวทีเสวนา “คิดเพื่ออนาคตถอดโจทย์ประเทศไทย” ซึ่งจัดขึ้นโดยคลื่นความคิด FM 96.5 MHz ว่า ประเทศไทยมีปัญหา 2 อย่าง คือ 1.ระบบการเมืองที่ไม่ลงตัว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ 2.การพัฒนาประเทศที่ไม่มีความเท่าเทียม เกิดความแตกต่างทางรายได้อย่างมหาศาล และเกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะที่ระบบการเมืองภายในประเทศไม่สามารถรับมือได้เท่าทัน เช่น การเปิดเสรีทางการค้า ที่ทำให้นายทุนต่างชาติเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรภายในประเทศ

โดยในส่วนกลไกภาครัฐกลับไม่ทำงาน ปล่อยให้กลไกตลาดทำงานด้วยตัวเอง จนนำไปสู่ การชุมนุมประท้วงของเกษตรกร ท้ายที่สุดเกิดความระส่ำระส่าย จากการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ จนทำให้ทุกคนอยู่นิ่งไม่ได้ เกิดการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นจะต้องมีการปรับอำนาจในแนวราบ กล่าวคือ แทนที่จะให้ผู้มีอำนาจเข้ามาช่วยเหลือ เปลี่ยนเป็นเปิดเวทีการต่อรองมากขึ้น ด้วยการปฏิรูปโครงสร้างทางอำนาจ ในการลดอำนาจจากส่วนกลาง แต่เพิ่มอำนาจให้กับท้องถิ่น ที่จะโยงไปสู่การแก้ไขปัญหาและการกระจายทรัพยากร ทั้งนี้ เห็นว่าอย่ายึดติดกับปัญหารูปธรรมแต่ควรสร้างกระบวนการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เพราะถ้าไม่สร้างกลไกการแก้ปัญหา ประเทศไทยก็จะเจอวิกฤตซ้ำซาก

ขณะที่ ศ.ดร.นิธี เอียวศรีวงศ์ คณะกรรมการปฏิรูป กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการปฏิรูปประเทศไทยต้องมีการสร้างอำนาจต่อรองให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเพื่อให้เข้าถึงทรัพยากรด้วยการปรับโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจ เช่น การกระจายการถือครองที่ดินให้กับประชาชนระดับล่าง