ทนายพันธมิตรฯ ชี้ คำพิเคราะห์ศาลแพ่ง ยกคำร้องถอนประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นการฉุกเฉิน แต่ไม่ได้หมายความจะยื่นต่อไปไม่ได้อีก ยันแก้เกมด้วยการไปยื่นต่อศาลรธน.แล้ว และหากมีคำวินิจฉัยว่า การออก พ.ร.บ.ความมั่นคง ขัดต่อ รธน.ถือเป็นที่สุด ซึ่งเคยใช้ได้ผลกับการชุมนุม 193 วัน จนได้รับชนะมาแล้ว
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ กล่าวชี้แจงบนเวทีเสวนาราชาอาณาจักรไทยเสียดินแดน กรณีศาลแพ่งออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ ที่ 630/2554 ที่ นายประพันธ์ คูณมี กรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ยกฟ้องไปแล้ว) และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่อง ละเมิดจากการออกประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศ และข้อกำหนดทุกฉบับ และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับการดำเนินการใดๆ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง
นายสุวัตร ได้กล่าวว่า ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วว่า ในขณะที่พันธมิตรฯไปยื่นขอให้ศาลเพิกถอนคำประกาศเป็นการฉุกเฉิน แต่ศาลชี้ว่ายังไม่ฉุกเฉิน แต่ไม่ได้หมายความว่า ห้ามยื่นอีก ดังนั้น พันธมิตรฯสามารถยื่นต่อไปได้เรื่อยๆ ในอดีตพันธมิตรฯ เคยยื่นจนสามารถจัดชุมนุมได้ตลอด 193 วัน และได้รับชัยชนะในที่สุด และเพื่อเป็นหมากแก้เกมทางคดี ทนายพันธมิตรฯ เกมยื่นคำร้องให้ศาล รธน.วินิจฉัย เพื่อตีความการออกประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ขัดรัฐธรรมนูญหรือ และหากเป็นที่สุดว่าการออกการประกาศดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ถือเป็นที่สุดและศาลแพ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
“มวยไทยมี 5 ยก แต่นี้เป็นเพียงยกแรก ขอให้มั่นใจในรูปคดี ขอให้พลังพันธมิตรฯอย่าเพิ่งถอดใจ และจะต่อสู้ทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด” นายสุวัตร กล่าวทิ้งท้าย
