xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.ชี้ตั้งกองพลใหม่ เกลี่่่ยงบฯ จาก ทบ.ไม่ได้ขอเพิ่ม คาด 10 ปีเสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“ประยุทธ์” แจงตั้ง พล.ร.7-พล.ม.3 ใช้งบของกองทัพไม่ได้ขอรัฐบาลเพิ่ม ยันทหารเป็นมิตรกับทุกสี วอนหยุดโทษทหารฆ่า ปชช. ปล่อย กม.ตัดสิน ลั่นไม่ถอนกำลังทหารชายแดนเขมร ด้าน “ประวิตร” เผยเขมรยังยื้อไม่กำหนดถกจีบีซี แต่มั่นใจ 2 ชาติคุยรู้เรื่อง

วันนี้ 3 มี.ค. 2544 เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งกองพลทหารราบที่ 7 (พล.ร.7 ) และ กองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ว่า การจัดตั้งทั้ง 2 กองพลขึ้นมา เพื่อเตรียมรองรับภัยคุกคามในอนาคต ซึ่งกองทัพบกคิดมานานแล้วในการตั้งทั้ง 2 กองพล โดยพล.ร.7 ตั้งขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบภาคเหนือ และภาคตะวันตก เพราะปัจจุบันในภาคเหนือมีกองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4 ) กองพลเดียว และกองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) ซึ่งถือว่า ทั้ง 2 กองพลเป็นคนละภารกิจกัน ทั้งนี้ในพื้นที่ตามแนวชายแดนมีพื้นที่รับผิดชอบ 1,700 กิโลเมตร ดังนั้นการมีพล.ร.4 เพียงกองพลเดียวจึงไม่น่าเพียงพอ ซึ่ง เราได้มองถึงศักยภาพในอนาคตของกองทัพกับประเทศเพื่อนบ้านว่า ควรจะต้องมีความทัดเทียมกันในการป้องกันแนวชายแดน และรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดน

“การใช้งบประมาณในการตั้ง พล.ร.7 ห้วงที่หนึ่ง เราใช้งบของกองทัพบกไม่ได้มีการเบิกงบประมาณใหม่จากรัฐบาลเลย โดยใช้เวลาในการก่อตั้ง 10 ปี ดังนั้นอย่ากังวลในเรื่องงบประมาณ ส่วนการตั้ง พล.ม.3 นั้น เรามีกรมทหารม้าที่ 6 อยู่แล้ว เราตั้งเพียงสายการบังคับบัญชาขึ้นมา คือ พล.ม.3 เพื่อเป็นหน่วยบังคับบัญชาของกรมทหารม้าที่ 6 ส่วนจะมีการขยายอะไรขึ้นอยู่กับสภาพภัยคุกคามที่จะเกิดในอนาคต อยากเรียนว่าเราใช้งบประมาณของกองทัพบกทั้งสิ้นไม่ได้มีการเบิกงบที่ไหนมาเพิ่มเติม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองระบุว่าการตั้ง 2 กองพลขึ้นมาเพื่อข่มขวัญกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ว่าจะเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อดำ หรือเสื้ออะไรก็แล้วแต่เป็นคนไทยทั้งนั้น ตนไม่จำเป็นต้องไปข่มขวัญอะไร ที่ผ่านมา ทหารช่วยเหลือทุกสีทั้งดำ แดง เหลือง เขียว ทหารช่วยหมด น้ำท่วม ฝนแล้ง ภัยพิบัติอะไร ทหารก็ช่วยไม่เคยแบ่งแยก เพราะมองว่า ทั้งหมดเป็นคนไทยทั้งสิ้น อย่ามาแบ่งแยกทหารก็แล้วกันว่า จะมีทหารไปข่มขวัญเสื้อแดง คิดว่า ไม่น่ากลัว ทหารไม่น่ากลัวสำหรับประชาชน อยากให้มองทหารเป็นมิตรกับประชาชน คำขวัญทหหารมีอยู่ว่า ทำเพื่อชาติ ศาสานา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ดังนั้นอย่าแบ่งแยกทหารว่า เป็นสีอื่น เพราะเวลามีปัญหาอะไรขึ้นมา เราดูแลทุกสี อย่าไปเกรงกลัวทหาร ว่า มีการจัดตั้งกองพลขึ้นมาเพื่อไปข่มขวัญเสื้อนั้น เสื้อนี้ ทุกอย่างไม่มี และข่มขวัญไม่ได้ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน แต่เกรงว่า เขาจะมาข่มขวัญทหารมากกว่า ทหารทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรน่าวิตก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ามีทหาร 5 นายยิงเข้าใส่ประชาชนเสียชีวิต 6 ศพในวัดปทุมวนารามฯ ว่า ตนไม่ทราบว่าใครยิง ตนสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีการชี้แจงมา และไม่เห็นว่าใครยิง ทั้งหมดต้องเป็นเรื่องกระบวนการสอบสวน ตนไม่อยากให้ใครมากล่าวหาเจ้าหน้าที่ อยากขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ ทุกอย่างปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม หากพูดไปมาไม่มีวันจบ ทุกคนอยากเห็นประเทศชาติไปได้ในข้างหน้า ทุกคนอยากเห็นการปรองดอง แต่เมื่อไม่ยอมหยุดอย่างนี้จะให้ทหารทำอย่างไร เรื่องนี้ตนตอบไปหมดแล้ว ต่อไปนี้ตนคงตอบว่า ต้องใช้กระบวนการทางยุติธรราม ยืนยันว่า ทหารไม่เคยเป็นศัตรูกับประชาชนไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ทั้งปีนี้ ปีที่แล้วหรือปีต่อไปก็เป็นทหารของชาติ เป็นทหารของพวกเราทุกคน วันนี้ทหารไม่เคยไปเรียกร้องกับใคร ที่ผ่านมาตนเรียนไปหมดแล้วว่า ทุกอย่างต้องเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ตนได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 รับ ทราบว่าสถานการณ์เรียบร้อยดี ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์กระทบใดๆเกิดขึ้น ไม่มีปัญหาอะไร ทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ยังคงดูแลปกติ ไม่มีการขยับกำลังอะไรออกจากพื้นที่ทั้งสิ้น ทหารรักษาอธิปไตยที่มีอยู่ ขณะนี้รอการพูดคุยระดับจีบีซี ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ โดยขณะนี้รมว.กลาโหมไทยกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการทำสิ่งใดก็ตามหลีกเลี่ยงข้อเท็จจริงไปไม่ได้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรทุกคนทราบดี อย่ากังวล ตนเรียนไปแล้วว่าเหตุการณ์ปะทะเราไม่ได้เป็นคนเริ่มกระสุนนัดแรก เราพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราจำเป็นต้องรักษาอธิปไตย และรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน และที่ผ่านมา ทหารในพื้นที่เกิดอันตราย ดังนั้น หากเขายิงมาเราจำเป็นต้องตอบโต้กลับไป

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับทางฝั่งกัมพูชาเพื่อขอให้มีการประชุมจีบีซี ซึ่งเราต้องการให้สองฝ่ายมีการคุยกัน โดยการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ซึ่ง กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นเขามีสิทธิ์กำหนดวันเวลาตามความพร้อมของเขา แต่ตนพยายามเต็มที่เพื่อให้มีการประชุม เพราะถือเป็นจุดยืนของไทยที่จะให้มีการคุยแบบทวิภาคี ซึ่งการประชุมไม่ได้มีการพูดเรื่องเขตแดน แต่พูดเรื่องการวางกำลังทหาร ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ประชาชน ความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า กัมพูชาปฏิเสธที่จะหารือในเจบีซีนั้นถือว่าเป็นส่วนของกัมพูชา แต่เราพยายามประสานงานอย่างเต็มที่เพราะปัญหาทุกอย่างเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะคุยกันรู้เรื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น