วุฒิสภาสบช่องสรรหา ส.ว.ใหม่ เลือกรองประธาน ส.ว.กำแพงเพชร บอกไม่ต้องรอ แนะให้เลือกสัปดาห์หน้า อ้างสังคมรออยู่ ส.ว.เพชรบุรียันไม่เห็นด้วย แนะรอให้ครบองค์ก่อน ก่อนมีมติ 66 ต่อ 11 เสียงให้เลือกวันนี้ ล่าสุด ส.ว.ชัยภูมิคว้าชัย หลังลงคะแนนลับเลือก
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภาที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน ช่วงพิจารณาเรื่องด่วนการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แทนตำแหน่งที่ว่าง จากกรณีที่ น.ส.ทัศนา บุญทอง ส.ว.สรรหา ได้พ้นตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ โดยนายประสพสุขแจ้งว่าได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิป) พิจารณาศึกษาซึ่งได้ข้อสรุปให้ที่ประชุมวุฒิสภาได้เลือกตำแหน่งดังกล่าว โดยตามข้อบังคับ ส.ว.สามารถเสนอชื่อผู้ได้ 1 คน โดยมีสมาชิกรับรอง 10 คน และผู้ได้รับการเสนอชื่อกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ปรากฏว่ามี ส.ว.บางส่วนได้คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการเลือกโดยอยากให้ชะลอไว้ก่อน อาทินายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง กล่าวว่า ตามข้อบังคับการประชุมและตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเลือกรองประธานวุฒิสภา แทนตำแหน่งที่วาง แต่ตนเห็นว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสรรหา ส.ว.สรรหาชุดใหม่ จึงเห็นว่าระยะเวลานี้ไม่เหมาะสม หาก ส.ว.ที่มีอยู่เลือกกันเองภายใน ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งภาพที่ออกไปจะไม่ดี อีกทั้งขณะนี้มีประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่อยู่จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเลือกในเวลานี้ หากไม่เลือกประโยชน์ของรัฐและประชาชนจะเสียหายหรือไม่ ตนก็อยากฟังความคิดเห็นของวิปวุฒิสภาว่ามีความเห็นอย่างไร เท่าที่ตนทราบในการลงมติก็ชนะกันไม่ขาดชนะเพียง 1-2 เสียงเท่านั้น
ขณะที่ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร กล่าวว่า ตนขอพูดใน 2 ฐานะคือในฐานะ ส.ว.และรองประธานวิปวุฒิ ในฐานะ ส.ว.ที่ผ่านการเลือกประธานวุฒิสภาและรองมาทุกตำแหน่งเราเลือกตามกติกา รัฐธรรมนูญกำหนดว่าวุฒิสภาต้องมีประธานและรองประธาน แต่ไม่ได้กำหนดว่าถ้าเรามี ส.ว.เหลือ 76 คนไม่ต้องเลือกตำแหน่งที่ขาดหายไป ส่วนตัวเห็นว่าไม่เป็นการผิดกฎระเบียบหรือข้อบังคับใด ทั้งนี้ เมื่อ ส.ว.เลือกตั้งทำหน้าที่ครบวาระ รองประธานวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้ง (นายนิคม ไวรัชยพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา) ก็ต้องพ้นจากวาระไป ในห้วงเวลานั้นจะเหลือแต่ ส.ว.สรรหา ตนอยากถามว่าในเวลาอย่างนั้นจะเลือกรองประธานแทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ หรือจะปล่อยคาเอาไว้ให้ ส.ว.เลือกตั้งกลับมาก่อน ตนไม่เห็นความจำเป็นต้องรอให้มี ส.ว.สรรหากลับมาก่อน
นายกฤชกล่าวอีกว่า ในฐานะรองประธานวิป ตนไม่เห็นด้วยที่จะมีการเลือกตั้งในวันนี้ แต่ควรมีการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้าเพราะจะได้มีการแสดงวิสัยทัศน์กันในกลุ่มผู้ที่สมัคร แต่ไม่เห็นว่าต้องรอกันไปอีกถึงการมี ส.ว.สรรหาใหม่ ขณะนี้สังคมรออยู่วุฒิสภาจะตอบคำถามสังคมอย่างไรหากไม่เลือก ถามว่า ส.ว.เลือกตั้งก็มีมากกว่า แล้วทำไมท่านประธานได้เป็น แสดงว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องการมาจากสรรหาหรือเลือกตั้งแต่มันอยู่ที่กติกา
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการจะเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่สองในขณะนี้ หากไม่คำนึงถึงที่มาของรองประธานวุฒิสภาว่ามาจาก ส.ว.สรรหาหรือ ส.ว.เลือกตั้ง แต่คำนึงถึงความครบถ้วนของจำนวน ส.ว.150 คน ต่อจากนี้ไปคงมีการประชุมอีก 5-6 ครั้งกว่าจะมีองค์ประชุม ส.ว.ครบ 150 คน ซึ่งหากการเลือกในเวลานั้นน่าจะเป็นการกระทำอย่างเต็มศักดิ์ศรีทุกตำแหน่ง ตนเห็นว่าควรจะรอให้องค์ประชุมมีครบ 150 คน ตนจึงขอตั้งญัตติให้ถามที่ประชุมว่าควรจะมีการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ สองหรือไม่
จากนั้นประธานยังได้ให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่อการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 หลังจากการหารือเป็นเวลาพอสมควร ประธานได้ถามมติที่ประชุมว่าควรเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ในวันนี้หรือไม่ โดยผลการลงมติ ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 11 เสียง ให้เลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ในวันนี้ ประธานจึงให้สมาชิกเสนอชื่อ โดยนางสมพร จูมั่น ส.ว.เพชรบูรณ์ เสนอนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันรัตนปรีดา ส.ว.ชัยภูมิ, นพ.สุรพงษ์ ตันธนศรีกุล ส.ว.กาญจนบุรี เสนอนายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล ส.ว.สมุทรสาคร, นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร เสนอนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ จากนั้นประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกที่ถูกเสนอชื่อได้แสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที
ล่าสุด ที่ประชุมได้ลงคะแนนเลือกด้วยการลงคะแนนลับ โดย ส.ว.กาชื่อที่เลือกในบัตรลงคะแนน ปรากฏว่า นางพรทิพย์ได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่ง 31 คะแนน อันดับสอง นายจิตติพจน์ ได้ 25 คะแนน และอันดับสาม นายสุวิศว์ 21 คะแนน ปรากฏว่ายังไม่มีผู้ใดได้รับเลือกเนื่องจากคะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 41 คะแนน (จำนวน ส.ว.ขณะนี้ 80 คน) ทำให้ต้องลงคะแนนรอบที่ 2 โดยให้ผู้ที่มีคะแนนอันดับที่ 1 และที่ 2 เข้ามาแข่งกัน และใครได้คะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกปรากฏว่ารอบที่ 2 นางพรทิพย์ได้รับคัดเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง 49 คะแนน ขณะที่ นายจิตติพจน์ ได้เพียง 29 คะแนน ถือว่านางพรทิพย์ได้รับเลือกเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ต่อไป