“ธาริต” เร่งสรุปสำนวน 89 ศพ ในเหตุการณ์แดงคลั่งเผาเมืองสัปดาห์หน้า ยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้เอ็ม 79 ในวันกระชับพื้นที่แน่นอน ระบุหากหลักฐานบ่งชี้ว่ารัฐมีส่วนเกี่ยวข้องญาติผู้ตายสามารถฟ้องศาลแพ่งได้
วันนี้ (13 ม.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่การชุมนุมก่อความไม่สงบของกลุ่ม นปช.จำนวน 89 ศพว่า พนักงานสอบสวนได้ขอขยายเวลาการสอบสวนจากเดิมที่ต้องสรุปสำนวนรายงานข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. 2553 เพราะต้องการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด ซึ่งตนได้กำชับว่าอย่างช้าที่สุดต้องสรุปสาเหตุการเสียชีวิตเพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า
นายธาริตกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นดีเอสไอยังไม่สามารถชี้ชัดว่าอาวุธปืนที่ใช้เป็นของฝ่ายใด เนื่องจากในขณะที่มีเหตุปะทะทั้งสองฝ่ายต่างมีอาวุธในลักษณะเดียวกัน
“การที่จะระบุว่าเป็นการเสียชีวิตจากฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ นปช. เป็นเรื่องยาก แต่อาวุธชนิดที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้นำออกมาใช้ปฏิบัติการแน่นอนคือระเบิดเอ็ม 79 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากระเบิดเอ็ม 79 หลายราย” อธิบดีดีเอสไอกล่าว
นายธาริตกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ไปตอบข้อซักถามของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา ที่มีนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ เป็นประธาน โดยได้ย้ำว่าให้ตอบคำถามไปตามข้อเท็จจริง
ด้าน พ.ต.ท.พเยาว์กล่าวว่า คณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมืองได้ติดใจซักถามเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต 6 ศพ ภายในวัดปทุมวนารามฯ และการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพชาวญี่ปุ่น ตนก็ได้ตอบข้อซักถามไปตามข้อเท็จจริงว่าดีเอสไอได้ทำการสอบพยานและนำภาพจากกล้องของผู้เสียชีวิตมาตรวจสอบ แต่ภาพที่บันทึกไว้นั้นไม่เห็นว่ามีใครอยู่รอบข้างผู้ตาย เชื่อว่าหากบันทึกภาพได้นานกว่านั้นอาจจะมีความชัดเจนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
พ.ต.ท.พเยาว์กล่าวต่อว่า จากการสอบพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การว่า วิถีกระสุนน่าจะมาจากฝั่งที่ทหารประจำการ แต่ในส่วนนี้ยังเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างที่ยังต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบในสำนวน ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบสำนวนคดีการเสียชีวิตจำนวน 13 ศพที่ดีเอสไอส่งสำนวนกลับไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากคาดว่าเจ้าหน้าที่รัฐอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตนั้น ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการ เพื่อให้สำนวนเข้าสู่กระบวนการไต่สวนพยานหลักฐานในชั้นศาล จากนั้นจึงจะส่งสำนวนกลับมาให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อสรุปสำนวน
“ทั้งนี้ หากผลการไต่สวนชี้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ญาติผู้เสียหายสามารถนำไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้” พ.ต.ท.พเยาว์กล่าว
