“แก๊งแกนนำแดง” หวั่นเชื้อคุกแทรกซึมสู่ร่างกาย แจ้นไปตรวจร่างกายเพื่อความชัวร์ ด้าน “ขวัญชัย” อ้างติดคุกมานานกลัวเชื้อโรคเรือนจำเป็นอันตรายเหมือน “วิคเตอร์ บูท” โดน ขณะที่ “ไอ้เต้น” โก่งคอจวก “มาร์ค” ไม่สละสัญชาติผู้ดี เป็นจุดอ่อนให้ทนายความต่างด้าวแม้วใช้ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ เหน็บอยู่มาจนอายุจะ 50 คิดสละสัญชาติเวลานี้ไม่ทันแล้ว แนะอย่าหนี ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (26 ก.พ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยนายแพทย์เหวง โตจิราการ และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จำเลยในคดีก่อการร้ายและที่ศาลอาญาเพิ่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพระราม 9 หลังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร เป็นเวลานานร่วม 9 เดือน
โดยในโอกาสนี้ นายขวัญชัยกล่าวเพียงสั้นๆ ต่อสื่อมวลชนว่า หลังได้รับการปล่อยตัวแล้ว สุขภาพร่างกายของตนเป็นปกติดี แต่เพื่อความปลอดภัยจึงจำเป็นต้องมาตรวจร่างกายอีกครั้ง เพราะเกรงว่าร่างกายอาจจะติดเชื้อภายในเรือนจำเหมือนกับนายวิคเตอร์ บูท
อย่างไรก็ตาม นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายนิสิต สินธุไพร ก็จะเดินทางมาตรวจร่างกายด้วยเช่นกัน
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ายังไม่ได้สละสัญชาติอังกฤษว่า จะเป็นเงื่อนไขให้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชาวต่างชาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำคดีความไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศได้ และเชื่อว่านายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม จะยังมีเรื่องอื่นๆ ไปยื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ศาลรับฟ้องอีกด้วย
นอจากนี้ เชื่อว่านายอภิสิทธิ์จะยังเอาตัวรอดและยื้ออยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ เพียงแต่การสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในครั้งต่อไปของนายอภิสิทธิ์อาจจะเกิด ปัญหา เพราะอาจจะมีบางหน่วยงานที่ต้องการให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ ก่อนการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. หากวันนี้นายอภิสิทธิ์คิดที่จะสละสัญชาติอังกฤษก็คงจะทำได้ยากแล้ว เพราะจะยิ่งเหมือนกับการจงใจปกป้องตัวเอง ดังนั้น อยากแนะนำนายอภิสิทธิ์ว่าไม่ต้องดิ้นรนอยู่มาจนถึงอายุจะ 50 ปีแล้ว ควรยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากกว่าจะมาหลบหนี