โฆษกกลาโหม เผย “ประวิตร” สั่ง ผบ.ย้ำหน่วยอากาศยานเข้มนักบิน ยุทโธปกรณ์ หลังบินตกบ่อย - ยันพร้อมช่วยแรงงานไทยในลิเบีย ถ้ากระทรวงการต่างประเทศ แจ้งมา
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุม ว่า จากกรณีที่มีเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา จำนวน 2 เครื่อง ประสบอุบัติเหตุตก ที่ จ.ชัยภูมิ ขณะเข้าร่วมทำการฝึกคอบร้าโกลด์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงถึงความปลอดภัย จึงขอให้ ผบ.เหล่าทัพ ได้ เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงที่มีอากาศยานอยู่ ตรวจสอบ ทำความเข้าใจกับนักบิน และต้องปฏิบัติตามกฎนิรภัยต่าง และตรวจสอบอากาศยานอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อยุทโธปกรณ์รวมทั้งการสูญเสียชีวิตของกำลังพลด้วย
โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมประสานมายังกองทัพ เพื่อช่วยเหลือแรงานไทยในประเทศลิเบีย ว่า ในขั้นต้นยังไม่มีการพูดคุย แต่ถ้าหากกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือมาเราก็มีความพร้อม เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลในเรื่องของการอพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัย เรามีเครื่องมือ มีอากาศยาน ซึ่งหลายครั้งที่มีการติดต่อมาทางรัฐบาล เราสามารถจัดเตรียมกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ได้ภายใน 1 วัน ซึ่งทราบว่าในปัจจุบันมีการอพยพแรงงานไทยจากลิเบียมาทางเรือ แต่สภาพอากาศยังไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ยังมีการขนย้ายจากทางอากาศยานประมาณ 4 พันกว่าคน หากยังไม่เพียงพอทางกองทัพ โดยกระทรวงกลาโหมสามารถสนับสนุนได้ทุกกรณี
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุม ว่า จากกรณีที่มีเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา จำนวน 2 เครื่อง ประสบอุบัติเหตุตก ที่ จ.ชัยภูมิ ขณะเข้าร่วมทำการฝึกคอบร้าโกลด์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงถึงความปลอดภัย จึงขอให้ ผบ.เหล่าทัพ ได้ เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงที่มีอากาศยานอยู่ ตรวจสอบ ทำความเข้าใจกับนักบิน และต้องปฏิบัติตามกฎนิรภัยต่าง และตรวจสอบอากาศยานอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อยุทโธปกรณ์รวมทั้งการสูญเสียชีวิตของกำลังพลด้วย
โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมประสานมายังกองทัพ เพื่อช่วยเหลือแรงานไทยในประเทศลิเบีย ว่า ในขั้นต้นยังไม่มีการพูดคุย แต่ถ้าหากกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือมาเราก็มีความพร้อม เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลในเรื่องของการอพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัย เรามีเครื่องมือ มีอากาศยาน ซึ่งหลายครั้งที่มีการติดต่อมาทางรัฐบาล เราสามารถจัดเตรียมกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ได้ภายใน 1 วัน ซึ่งทราบว่าในปัจจุบันมีการอพยพแรงงานไทยจากลิเบียมาทางเรือ แต่สภาพอากาศยังไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ยังมีการขนย้ายจากทางอากาศยานประมาณ 4 พันกว่าคน หากยังไม่เพียงพอทางกองทัพ โดยกระทรวงกลาโหมสามารถสนับสนุนได้ทุกกรณี