“สนธิ” ถาม “ชวน” เหตุใดปล่อย “มาร์ค” เด็กสร้าง โกหกรายวัน แถมปล่อยพรรคร่วมฯ โกงวินาศสันตะโร ซ้ำกำลังทำให้ประเทศสูญเสียดินแดน จวกโกงแบบเถื่อนๆ หากินกับน้ำมันปาล์มบนความเดือดร้อนของประชาชน จี้หากเห็นชาติสำคัญกว่าพรรคต้องจัดการ “นายกฯ ลูกกรอก” เหมือน “พล.ต.จำลอง” จัดการ “แม้ว”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 22 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า วันนี้อยากฝากบอกไปถึงนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายสัมพันธ์ ทองสมัคร คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตนรู้จักและรักใคร่สนิทสนม แต่เพราะความสนิทสนมจึงต้องพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่คนเหล่านี้เป็นเสาหลักอยู่ว่าวันนี้พรรคนี้ใกล้จะฉิบหายแล้ว ต้องขอโทษที่พูดจาแบบตรงไปตรงมา
นายสนธิกล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งปี 2544 พรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายชวนเป็นหัวหน้าแพ้การเลือกตั้งต่อพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะนายชวนหลงเชื่อนักเรียนนอกอย่างนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ซึ่งก็เป็นเพราะนายชวนไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ จึงปล่อยให้กลุ่มนายธารินทร์ปู้ยี่ปู้ยำเอาสมบัติชาติไปขายให้ฝรั่งในราคา 5-10% แล้วฝรั่งก็เอามาขายคืนคนไทยในราคา 100% การเลือกตั้งครั้งนั้นประชาธิปัตย์แพ้ราบคาบ เพราะประชาชนทนไม่ได้กับการทำงานไม่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนั้น และถ้าเปรียบเทียบกับยุคนี้ นอกจากทำงานไม่เป็นแล้วยังมีส่วนร่วมในการโกงชาติ และทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนอีกด้วย
นายสนธิกล่าวว่า นายชวนนั้นคือผู้สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนที่เคยสนับสนุนนายธารินทร์ เพราะเห็นว่าเรียนจบจากต่างประเทศเหมือนกัน แต่ไม่ได้ดูว่านายอภิสิทธิ์เคยผ่านอะไรมาบ้าง นายชวนน่าจะดูตัวเองว่าการเป็นลูกชาวบ้าน แม้จะถูกตั้งฉายาว่าเป็น ชวนเชื่องช้า แต่ผู้คนก็ยังชื่นชมเพราะเข้าถึงชาวบ้าน แต่นายกฯ คนนี้ดูคนด้วยหางตา ไม่เข้าใจความลำบากของคน ตอนนั้นชวนเคยพูดถึงทักษิณว่า จะไม่มีแผ่นดินอยู่ก็ไม่มีแผ่นดินอยู่จริงๆ แต่ตอนนี้ให้ระวังว่านายอภสิทธิ์ก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกัน
“ผมรู้ว่าพี่ชวนเป็นคนซื่อสัตย์ สมัยพี่เป็นนายกฯ มีทุจริตแค่ลักเล็กขโมยน้อย แต่สมัยนี้มันเปลี่ยนจากลักเล็กขโมยน้อยกลายเป็นปล้นชาติปล้นแผ่นดินไปแล้ว พี่ๆ ตอบผมมาหน่อยได้ไหม ตั้งแต่เกิดมาเคยเห็นคนเข้าคิวซื้อนำมันปาล์มไหม แล้วมันเกิดในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้ยังไง
พี่ชวนเป็นคนมีสัจจะ พี่พูดอะไรแล้วน้อยครั้งที่พี่จะกลืนคำพูดลงไป ยังยืนยันในหลักการของพี่ตลอด แต่วันนี้พี่ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์คนที่พี่สร้างมาเป็นนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคโกหกทุกวันและให้อาจารย์ปานเทพจับโกหกได้ทุกวันได้ยังไง” นายสนธิกล่าว
นายสนธิกล่าวอีกว่า ถึงนายชวนจะเป็นคนลงนามในเอ็มโอยู 2543 แต่ตนก็ไม่ตำหนิ เพราะเชื่อว่านายชวนไม่รู้เรื่อง เพราะคนที่ชงเรื่องคือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมช.ต่างประเทศขณะนั้น แต่ว่าในปี 2541 นายชวนได้ลงนามในพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งมีแผนที่แสดงอาณาเขตชัดเจน แต่ในปี 2543 นายชวนไปเซ็นเอ็มโอยู นายชวนเห็นความสำคัญของเอ็มโอยูมากกว่าพระราชกฤษฎีกาได้อย่างไร ทำไมจึงไม่ยกเลิก
นายสนธิกล่าวว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เข้ามาร่วมกับพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ก็เพราะเป็นคนเปิดจุกให้ยักษ์ทักษิณออกมาจากขวด พล.ต.จำลองจึงต้องเป็นคนจับยักษ์ใส่ขวดกลับเข้าไปเหมือนเดิม แล้วคนที่เป็นนายกฯ ลูกกรอกที่นายชวนสร้างขึ้นมา ก็ควรจะถูกนายชวนจับใส่ขวดไปถ่วงทะเลเหมือนกัน
“พี่ชวนต้องตัดสินใจ ชาติสำคัญกว่า หรือพรรคประชาธิปัตย์สำคัญกว่า ถ้าพี่เห็นว่าชาติสำคัญกว่า พี่ต้องอำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งลงไป ผมรู้จักพวกที่มานาน สมัยที่นายชำนิ ศักดิเศรษฐ นายวิทยา แก้วภราดัย นายสุธรรม แสงประทุม ยังอยู่กับพรรคพลังธรรม มาขอเงินผมไปหาเสียงคนละ 5 แสน ผมก็ให้ไปทั้งหมด 1.5 ล้าน แต่ละคนเจอหน้าทีไรก็ยากจนทุกคน ขับรถปิกอัพ แล้ววันนี้พรรคเอาเงินจากไหนมาให้ ส.ส.คนละ 2-3 แสนต่อเดือน เป็นไปได้ยังไงพี่ชวน
วันนี้พรรคของพี่ชวนไม่ต่างจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทยที่สิ้นเดือน ส.ส.จะได้เงินพิเศษ เงินมันมาจากไหนตอบผมหน่อย พี่เป็นลูกผู้ชาย พี่ต้องยอมรับว่าไอ้ลูกกรอกและไอ้จรกาที่ขึ้นมาได้ก็เพราะพันธมิตรฯ เสียเลือดเนื้อ พี่เป็นคนรู้จักบุญคุณคน ไม่งั้นเขาไม่เรียกชวนลูกแม่ถ้วน แล้วพี่ปล่อยให้ไอ้ลูกกรอกกับไอ้จรกามาบอกว่าทั้งเหลืองทั้งแดงสร้างความวุ่นวาย เขาต้องยืนตรงกลาง พี่ปล่อยมันได้ยังไง วันนี้ยังดูไม่ออกหรือว่าพวกผมสู้เพื่ออะไร เคยมีที่ไหน รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ มีคนประชาธิปัตย์เป็นนายกฯ แล้วมีการโกงวินาศสันตะโร ก็เพิ่งมียุคนายอภิสิทธิ์ เด็กสร้างของพี่”
นายสนธิกล่าวต่อว่า นายชวนน่าจะรู้ว่าใครหากินกับน้ำมันปาล์ม เพราะสามีของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำน้ำมันปาล์ม มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ตุนน้ำมันปาล์มเอาไว้ เพราะรู้ว่าจะขาดแคลนมาตั้งแต่เดือนกรกฎาฯ สมัยทักษิณมีการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย เป็นคอร์รัปชันอย่างมีวัฒนธรรมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจตัวเอง แต่วันนี้ลูกน้องพี่ชวนคอร์รัปชันแบบเถื่อนๆ ทำมาหากินบนความลำบากของพ่อค้า แม่ค้า ประชาชนที่ใช้น้ำมันปาล์ม นี่มันอำมหิต พี่ชวนอย่าปฏิเสธ เพราะเขารู้จักกันหมด คนที่มานั่งชุมนุมที่นี่ยังรู้ แล้วทำไมพี่จะไม่รู้ โรงงานที่กักตุนน้ำมันปาล์มเป็นของใคร นายทุนพรรคพี่ก็เป็นนายทุนน้ำมันปาล์ม คนที่ลงทุนทำปาล์มมากที่สุดก็คือ 5 เสือสุราษฎร์ฯ แล้วพื้นที่สุราษฎร์ฯ เป็นพื้นที่ของใคร
“อย่าคิดว่าคนไทยโง่เหมือนแต่ก่อน เพียงแต่เขายังรักพี่อยู่ แต่เขาสงสัยว่าพี่ปล่อยเด็กสร้างทำความพินาศให้บ้านเมืองได้ยังไง รวมทั้งมีโอกาสทำให้เสียเสียดินแดนอีก เกิดมาเป็นผู้คนผมไม่เคยเห็นนายกฯ คนไหนโกหกได้รายวันอย่างนี้ ธรรมดาเด็กสร้างพี่ประดาบก็เลือดเดือด ไปท้าเสื้อแดงออกมาโต้วาที โชว์ออกโทรทัศน์ชนะไปขาดลอย แต่ตอนนี้อาจารย์ปานเทพท้าออกทีวีคนละ 3 ชั่วโมง ทำไมไม่รับ แน่จริงต้องรับ”
นายสนธิกล่าวต่อว่า อยากฝากบอกนายชวนที่อายุ 70 กว่าแล้ว ว่าชีวิตคนเรามีแต่ความว่างเปล่า พินัยกรรมของหลวงตามหาบัวเขียนว่าเงินบริจาคในงานศพท่านให้เอาไปซื้อทองคำแล้วนำไปฝากคลังหลวงโดยไม่มีข้อยกเว้น ก็เพราะหลวงตาฯ ยังไม่ไว้ใจพรรคประชาธิปัตย์ และต้องการให้ประชาชนที่บริจาคได้ดูแลทองคำในคลังหลวงแทนหลวงตาต่อไป
“ช่วงนั้นพวกพี่หลายคนก็ทำอนันตริยกรรมกับพระอรหันต์ไว้มากแล้ว ต้องตกนรกหมกไหม้ แล้วตอนนี้พวกพี่ก็มีส่วนร่วมทำให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดนให้เขมรอีก อันนี้ก็ตกนรกหมกไหม้เช่นกัน พี่บัญญัติที่ขอองค์จตุคามฯ ที่ผมหล่อเอาไปไว้บนภูเขาเพื่อเป็นสิริมงคลกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถ้าพี่ทำดีต่อแผ่นดิน องค์พ่อจตุคามฯ ก็จะปกป้องพี่ แต่ถ้าพวกพี่ทำชั่ว องค์พ่อจตุคามฯ จะทำโทษพี่ร้อยเท่าพันทวี”
นายสนธิกล่าวอีกว่า ตนโชคร้ายที่ต้องสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกสมัยนายธารินทร์ที่สู้กันเรื่อง ปรส. มาครั้งนี้ก็สู้กับประชาธิปัตย์อีก ซึ่งตนไม่อยากสู้เพราะเหนื่อยมาก แต่เพื่อความถูกต้องของชาติบ้านเมืองและเพื่อแผ่นดินไทย จะสู้ถึงตายก็สู้ ฉายาของตนคือตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง คนที่ลอบยิงตนก็เป็นคนในรัฐบาลเอง แล้วหลักนิติรัฐอยู่ที่ไหน
“ทำไมพรรคพี่ต้องทำมาหากินแบบเถื่อนๆ กับที่ดินอย่างนี้ เมื่อก่อนก็ทำ ส.ป.ก.ยกที่ดินให้คนรวย ตอนนี้ก็ทำอีก พวกพี่เอาที่ ส.ป.ก.ทางใต้ไปออกโฉนดแล้วขายให้การไฟฟ้าฯ อะไรที่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดินพวกพี่ชอบเข้าไปเล่นเหลือเกิน พวกพี่ต้องหยุด อย่ามาอ้างว่ามติพรรคเป็นยังไงต้องทำตาม ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าพี่ถือว่าพรรคยิ่งใหญ่กว่าชาติ แต่ว่าตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และเป็นนายกฯ ผมยังไม่เห็นทำอะไรให้ชาติแม้แต่เรื่องเดียว” นายสนธิกล่าว
