“จิตตนาถ” เผย ปชช.หนุนปกป้องดินแดนมากขึ้น ล่าสุดไปหมอที่สิงห์บุรี-งานแข่งกอล์ฟแอลพีจีเอ-กราบสรีระหลวงตาบัว พบ ปชช.สนับสนุนพันธมิตรฯ เพียบ เชื่อหลังพระอริยสงฆ์ละสังขาร บ้านเมืองมักเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จวก “ไทยโพสต์” สัมภาษณ์นักวิการ 7.1 ล้านกล่อมคนไทยยอมเขมร มีหวังเสีย 1.8 ล้านไร่แน่ แต่ปิดความจริงไม่มิด นักเขียนอิสระกล้าพูดความจริงหนุนเลิกเอ็มโอย 43
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล”
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม ได้กล่าวบนเวทีรวมพลังปกป้องแผ่นดินว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดสิงห์บุรีเพื่อไปหาหมอสมหมาย ทองประเสริฐ ซึ่งคนที่นั่นได้เข้ามาถามไถ่และบอกว่าพวกเราทำถูกแล้วและบอกให้สู้ต่อ นอกจากนี้ยังม่โอกาสไปงานแข่งขันกอล์ฟฮอนด้าแอลพีจีเอ ขณะที่กำลังแข่งโปรแอมนั้น พันธมิตรฯ ที่จัดงานที่นั่นได้เข้ามาขอถ่ายรูปจำนวนมากจนโปรกอล์ฟงงว่าเป็นดาราหรือเปล่า ซึ่งตนไม่ใช่ดาราแต่เป็นหนึ่ง
ในคนที่มาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
นายจิตตนาถกล่าวต่อว่า ในวันนี้ตนได้พาคุณแม่เดินทางไปกราบสรีรสังขารหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ซึ่งพบว่าที่วัดบ้านป่าบ้านตาดมีแต่พันธมิตรฯ เต็มไปหมด และในอุดรธานีขณะนี้ไม่เห็นคนเสื้อแดงแม้เงา และในระหว่างที่ไปกราบสรีระฯ หลวงตา ได้อธิษฐาน 3 ข้อ คือ 1.อย่าให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดน 2.ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแร็ง อยู่เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยต่อไปตราบนานเท่านาน 3.ถ้าเราจะมีผู้นำขึ้นในอนตาคตอันใกล้ ขอให้เป็นผู้นำที่เสียสละเพื่อชาติอย่างแท้จริง และตนเชื่อว่าทุกครั้งที่พระอริยสงฆ์ละสังขาร เมืองไทยมักจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ หลวงตาฯ คือตัวอย่างของคนที่ทำเพื่อบ้านเมืองจนวาระสุดท้าย ตอนนี้โครงการผ้าป่ากู้ชาติมียอดบริจาค 100 ล้านบาทแล้ว ท่านเป็นพระป่าแก่ๆ ที่หาเงินเป็นหมื่นล้านบาทเข้าคลังหลวง ต่างจากพรรคการเมืองที่มาปล้นชาติให้ฝรั่งมาปล้นคนไทยและตอนนี้ยังไปฮั้วกับเขมรอีก
นายจิตตนาถกล่าวต่อว่า ทั้งหลวงตามหาบัว และหมอสมหมาย ต่างก็อายุมากแล้วแต่ยังทำงานแทบจะไม่มีวันหยุดเพื่อช่วยประชาชนแท้จริง แล้วนายกฯ ทำอะไรอยู่ รัฐนตรีต่างประเทศทำอะไรอยู่ รัฐมนตรีกลาโหมทำอะไรอยู่ วีรบุรุษภูมะเขือเผาทำอะไรอยู่ ล่าสุดเพิ่งหน้าแตกไปลงนามการหยุดยิงถาวรกับเขมร แต่ไม่ทันข้ามคืนเขมรก็ถล่มยับ ตอนนี้ก็ออกมาปฏิเสธอ้อมแอ้มว่าไม่ได้ลงนาม ไปคุยกันเฉพาะภาคส่วน แล้วใครอำนวยความสะดวกในเขมรสร้างถนนเข้าไปในวัดแก้ว อยากฝากถึงทหารชั้นผู้ใหญ่ว่าเห็นใจทหารชั้นผู้น้อยที่สูญเสียบ้าง ผลประโยชน์ตามแนวชายแดนเขาไม่ได้เหมือนท่าน มีแต่ลูกเมียและชีวิตจนๆ แต่รักชาติ แล้วท่านรักชาติหรือไม่ ตนไม่สนใจว่า จะเป็น ตท.รุ่นใหนที่แต่งตั้งกันขึ้นมา แต่เชื่อว่าให้ตัดพี่ตัดน้องนั้นตัดได้ แต่ประเทศชาติตัดไม่ได้
นายจิตตนาถกล่าวอีกว่า วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงใน นสพ.ไทยโพสต์ ซึ่งมีสื่อบางสื่อบอกว่าเปลว สีเงิน เป็นคู่กัดกับตน แต่ที่จริงไม่ใช่ เพียงแต่รำคาญที่ด่าพวกเราอยู่ได้ และอยากจะบอกว่าแทนที่จะเอาเรื่องเอ็มโอยูมาพูด แต่ฉบับแทบลอยด์วันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปสัมภาษณ์นักวิชาการกลุ่มที่รับเงิน 7.1 ล้าน คือนางมรกต เจวจินดา ไมยเออร์ ซึ่งบอกว่าให้เราลืมอดีตแล้วมาสร้างอนาคตใหม่ร่วมกัน แต่พวกเราลืมได้ไหม ลืมไม่ได้ เพราะถ้าเราสร้างอนาคตใหม่ร่มกับเขมร 1.8 ล้านไร่ ก็เป็นของเขมร
นายจิตตนาถกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ความจริงที่เราต่อสู้ได้ขยายวงออกไปมากกว่าที่คิด มติชนสุดสัปดาห์ก็บอกเองว่าทุกชนชั้นสังคมขณะนี้ดูเอเอสทีวีหมด เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่สามารถปิดข้อมูลได้แล้ว นสพ.ไทยโพสต์ที่ไม่เคยพูดถึงเอ็มโอยู ปรากฏว่าวันนี้ นายพิทยา ว่องกุล คอลัมนิสต์ที่เขียนใน นสพ.ฉบับนี้ได้เขียนบทความเรื่องทางออกไทยในการแก้ปัญหารการเสียสติของฮุนเซน โดยบอกว่าปัญหากับเขมรเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจุบันภายนอก เป็นเพราะเขมรปกครองโดยรัฐาลบ้าอำนาจ และพยายามจะใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนที่ตีขลุมขึ้นมา ปัจจัยที่ 2 ปัญหารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่เป็นรัฐบาล “อภิสิทธิ์เป๋อ” ไม่รู้เรื่องของปัญหา แต่พยายามแสดงว่าตัวเองเป็นผู้แก้ไขได้
ทั้งนี้ นายพิทยาได้เสนอทางออกคือ ให้จัดพิมพ์คำพิพากษาศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหารเพื่อชี้แจงว่าเรายึดหลักสันปันน้ำ 2.บอกทั่วโลกว่าเราเคยช่วยเหลือคนเขมรยามเกิดศึกสงคราม และอดทนไม่ใช้กำลังกับกัมพูชามาตลอด 3.อ้างคำพิพากษาของศาลโลก ให้เขมรออกจากพื้นที่ที่บุกรุกเข้ามา แต่นายอภิสิทธิ์ไม่เคยทำ 4.เรียกทูตทุกประเทศมาชี้แจง โดยอ้างอิงจากคำพิพากษาศาลโลก 5.ให้ยื่นข้อเสนอให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร 6.ให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2543 ซึ่งเป็นข้อเสนอเหมือนกับพวกเรา
นายจิตตนาถกล่าวต่อว่า เปลว สีเงิน อาจควบคุมลูกน้องที่เขียนข่าวหรือบทความในไทยโพสต์ได้ แต่ไม่สามารถควบคุมนักเขียนอิสระได้ นี่คือใบเสร็จว่าความจริงมันปิดไม่มิด อย่าอ้างว่า ถ้าจะให้รบชนะเขมรคนไทยต้องสามัคคีกันก่อน เราต้องสามัคคีกันก็จริง แต่ต้องสามัคคีกันยกเลิกเอ็มโอยู ไม่ใช่สามัคคีกันมุมมิบเจรจากันกับเขมร แล้วไม่ใช่มาโจมตีพันธมิตรฯ ซ่า ทำให้ไทยต้องรบกับเขมร มันปัญญาอ่อน สมมติว่ามีคนเขมรมาประท้วงที่ชายแดน นายอภิสิทธิ์จะสั่งทหารโจมตีเขมรไหม แล้วการเจรจาจะให้อินโดนีเซียมาเกี่ยวข้องด้วยทำไม สมมุติว่าอินโดนีเซียทะเลาะกับมาเลเซีย ไทยต้องไปไกล่เกลี่ยให้เปลืองตัวหรือไม่ อย่างนี้เขาเรียกปัญญาอ่อน นอกจากหน้าหล่อตอแหลขายชาติแล้วยังปัญญาอ่อนด้วย
