“วิชาญ” ป้องพ่อ “ฮุนเซน” ซัดช่อง 11 ปล่อยรายการสื่อ “สนธิญาณ” เสนอประวัตินายกฯเขมร ทำปัญหาบานปลาย “องอาจ” แจง ตักเตือนแล้ว
วันนี้ (17 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดถามนายกฯ เรื่อง การควบคุมดูแลสื่อสาธารณะของรัฐบาล ว่า รัฐบาลมีแนวทางควบคุมดูแลสื่อโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยอย่างไร เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา จนต้องมีการเจรจาเพื่อยุติปัญหา แต่สื่อของรัฐในช่องดังกล่าวกลับเสนอภาพและข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ นายวิชาญ ได้นำเสนอคลิปรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก ที่ออกอากาศทาง ช่อง 11 โดยที่มีเนื้อหาโจมตีกัมพูชาในการปะทะกับไทย กรณีปราสาทพระวิหาร พร้อมกับมีการพูดถึงประวัติของสมเด็จฯฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการไต่เต้าขึ้นมาเป็นนายกฯ โดย นายวิชาญ ระบุว่า การเสนอรายการดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาบานปลาย เพราะระหว่างที่รัฐบาลกำลังเจรจาอยู่กับกัมพูชา แต่สื่อของรัฐกลับเสนอข่าวที่ไม่เหมาะสม จึงอยากถามว่าได้มีการควบคุมการผลิตเสนออย่างไร เพราะที่ผ่านมาในช่วงเหตุการณ์การประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงรัฐบาลยังตัดสัญญาณของทีวีเอกชนได้ และอยากถามว่าจะควบคุมการให้ข่าวของรัฐมนตรีอย่างไร เพื่อให้เกิดความสร้างสรรค์ไม่เป็นปัญหาในอนาคต
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า นับแต่ดูแลกรมประชาสัมพันธ์ สิ่งที่พยายามทำ คือ การทำความเข้าใจกับประชาชนมากที่สุด และไม่ปรารถนาทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก โดยใช้การเจรจาทุกช่องเพื่อให้สถานการณ์บานปลาย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดที่ทำให้เกิดการรุกล้ำ และก่อให้เกิดผลกระทบก็ต้องเป็นฝ่ายความมั่นคงต้องดูแล ส่วนในเรื่องของภาพและเสียงดังกล่าวเป็นของบริษัทเอกชนที่มาเช่าเวลาสถานี ซึ่งเป็นลักษณะวิเคราะห์ข่าว และก่อนที่จะออกรายการ รายการดังกล่าวต้องส่งเทปล่วงหน้า 1 วัน เพื่อตรวจสอบคุณภาพของภาพและเสียง และในรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 45-46 ได้ กำหนดในเรื่องสิทธิเสรีภาพของสื่อไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น การจะให้เจ้าหน้าที่ไปดูดเสียงหรือลบภาพไม่สามารถทำได้ ซึ่งจุดนี้เป็นข้อจำกัดหนึ่งของรัฐบาล
นายองอาจ ชี้แจงว่า แต่เมื่อพบว่ามีรายการมีการนำเสนอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็จะมีมาตรการในการตักเตือน และโทษที่รุนแรงที่สุด คือ การยกเลิกสัญญา ทำให้บริษัทเอกชนไม่สามารถทำรายการได้อีกต่อไป และในช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมามีรายการที่ช่อง 11 ได้ทำการตักเตือนไปแล้วมีอยู่ 62 เรื่อง เป็นรายการที่หลากหลายและส่วนใหญ่ก็จะปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น แต่หากไม่เป็นผลก็ต้องยกเลิกสัญญา รัฐบาลยืนยันว่า ไม่ปรารถนา ใช้สื่อของรัฐทำให้ปัญหาบ้านเมืองบานปลาย แต่พยายามใช้สื่อเพื่อความเข้าใจ ซึ่งในการนำเสนอข่าวทางการสภาการหนังสือพิมพ์ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องไม่ให้สื่อนำเสนอข่าวที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงและให้ตระหนักถึงความอ่อนไหวที่เกิดขึ้น