ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย ผุดข้อมูลการปิโตรเลียมฯ งุบงิบนำเงินกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปลงทุนวางท่อแก๊สในอียิปต์ ทั้งที่รู้ดีว่าถูกต่อต้านจากชาวมุสลิม เมื่อปี 50 ตั้งแต่สมัยเป็น รบ.รักษาการ แถมไม่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.จี้ รบ.ใจกล้าเร่งรื้อความไม่โปร่งใส ตรวจสอบย้อนหลัง
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง เป็นวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2550 ซึ่งในขณะนั้นได้มีคณะรัฐมนตรีรักษาการ โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และได้มีหน้าที่รับผิดชอบบริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.โดยทาง ปตท.ได้นำเงิน 486.9 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯไปลงทุนกับ บริษัท อีส เมดิเตอเรเนียน หรือ EMG ซึ่งเป็นบริษัทวางท่อแก๊สในประเทศอียิปต์ ซึ่งขณะนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 34 บาทต่อ 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็นเงินไทยประมาณ 17,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ปตท.ได้ทำการซื้อหุ้นในขณะนั้น อยู่ที่หุ้นละ 13.25 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และในปกติทางบริษัท อีส เมดิเตอเรเนียน มีราคาพาร์ในตอนแรกอยู่ที่ 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ปตท.รู้ดีว่าบริษัทดังกล่าวโดนต่อต้านจากชาวมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศอียิปต์ เนื่องจากบริษัทนี้ได้ทำการข่ายแก๊สให้กับทางประเทศอิสราเอล อีกทั้งในขณะนี้ ปตท.เอาเงินออกไปลงทุนนั้น ประเทศไทยมีเพียงแค่รัฐบาลรักษาการเท่านั้น โดยการลงทุนครั้งนี้ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากทางคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวต่อว่า สถานการณ์ปัจจุบันบริษัท อีส เมดิเตอเรเนียน ถูกระเบิดท่อวางแก๊สจากเหตุจราจลในประเทศอียิปต์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย แต่ทาง ปตท.ในฐานะของผู้ถือหุ้นกับไม่มีการแจ้งให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบ ในตอนนี้ผู้จัดการของ บริษัท อีส เมดิเตอเรเนียน ได้นำเงิน 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวและถูกจับได้ที่ประเทศดูไป โดยผู้จัดการคนดังกล่าวมีความสนิทสนมกับประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ของอียิปต์ด้วย ตนเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องมีความรับผิดชอบตรวจสอบ โดยจะมาอ้างว่าไม่มีอำนาจไม่ได้ เพราะ ปตท.ถูกควบคุมโดยกระทรวงพลังงาน เห็นได้จากการที่ ปตท.จะประมูลซื้อห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ พูดในที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีและสั่งการให้ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ไปแจ้งให้ ปตท.ถอนตัวจากการประมูล อีกทั้งกระทรวงการคลังที่ถือหุ้น ปตท.อยู่ถึง 51 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังเปิดเผยว่า การดำเนินการของ ปตท.นั้น ถูกควบคุมโดยคณะรัฐมนตรี เพราะถือเป็นแหล่งผลประโยชน์ เห็นได้จากการซื้อขายราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลงอยู่ทุกวัน เพราะมีประโยชน์แอบแฝงจากโบกเกอร์ผู้ขายน้ำมัน ซึ่งผลประโยชน์ที่แอบแฝงอยู่ก็คือ ค่าคอมมิชชันจากบริษัทขายน้ำมันต่างๆ
“โรงกลั่นไทยออยล์ก็มีส่วนร่วมรู้เห็นกับทาง ปตท.ด้วย เพราะตนทราบมาว่าในขณะนี้มีคณะบุคคลจากทั้ง 2 บริษัท รวมไปถึงผู้มีส่วยเกี่ยวข้องอีกจำนวนมากไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เพราะฉะนั้นตนจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะเป็นวันที่รัฐบาลจะแถลงผลงาน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวหากเกิดความเสียหายขึ้น ถือว่าเป็นความเสียหายของประชาชน เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากภาษี อีกทั้งตนยังอยากที่จะกระชากหน้ากากของรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ด้วย” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
