xs
xsm
sm
md
lg

หล่อ-ลวง-แหล ออกไป !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

 
00 หากจะว่าไปแล้วรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือเป็น “สุดยอด” นัก “สร้างภาพ” หรือนัก “โกหก” ที่แนบเนียน ประเภทโกหกผ่านไปแล้วตั้งนาน แต่ก็ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน สาเหตุก็เพราะใช้ “ภาพลักษณ์” ให้ดูดี คำพูดที่ฟังดูไพเราะ รวมไปถึงการแสดงออกว่ารับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทำให้หลายคนมองผ่าน “ความจริงด้านมืด” อีกด้านหนึ่ง ที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างหลัง

00 ที่ผ่านมา สิ่งที่นายกฯ อภิสิทธิ์ นำมาใช้ “ตบตา” อยู่ในเวลานี้ล้วนเป็นเทคนิคที่แนบเนียน จนชาวบ้านทั่วไปหากมองแบบผิวเผินก็ย่อมคล้อยตามได้ไม่ยาก เพราะหากย้อนกลับไปพิจารณาในแทบทุกเรื่อง ล้วนแล้วทำในสิ่งตรงข้ามกับที่พูด ใช้วิธีซื้อเวลาเพื่อกลบเกลื่อนปัญหา ความผิด หรือไม่ก็ “หลิ่วตา” ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เพราะจากการตรวจสอบ รวมไปถึงข่าวคราวที่ปรากฏ จะพบว่าในรัฐบาลของเขามีเรื่องทุจริตไม่ต่างจากยุค ทักษิณ ชินวัตร หรือมากกว่าด้วยซ้ำไป

00 เอาง่ายๆ เฉพาะการแก้ไขรธน.ที่ดำเนินการอยู่นั้นก็เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งถึงการกลับกลอก พูดอย่างทำอีกอย่าง เป้าหมายเพียงแค่ตัวเองและพรรคพวกได้ประโยชน์เท่านั้น เพียงแต่การหาถ้อยคำสวยหรูมาอธิบายให้ฟังแล้วเคลิบเคลิ้มคล้อยตามเท่านั้น เพราะหากยังจำได้ตอนแรก “หน้าหล่อ” คนนี้บอกว่าจะไม่แก้ไข หรือถ้าจะแก้ไข ก็ต้องผ่านการลงประชามติเสียก่อน แต่สุดท้ายเป็นไง ผลออกมาตรงกันข้าม มิหนำซ้ำยังเป็นการแก้ไขเพื่อผลประโยชน์ของ“ตัวเอง” และ “พรรคของตัวเอง” ทั้งสิ้น นั่นคือการใช้ “ สูตร 375+125 ” แบ่งเขตเล็กเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบเท่านั้น

00 การออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯก็เหมือนกัน เป้าหมายก็เพื่อ “ปิดปาก” ชาวบ้านที่รู้ทันเท่านั้น เพราะคนเหล่านี้ออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นรัฐบาลภายใต้การนำของเขา โดยเฉพาะในกรณีการเสียดินแดนรอบปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา และถูกรุกล้ำตามแนวชายแดนตลอดแนว รวมทั้งเปิดโปงความผิดจาก เอ็มโอยู 43 ที่เกิดขึ้นยุครัฐบาล ปชป. และสุดท้ายการบังคับใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 9-23 ก.พ. ก็เพื่อเผื่อเหลือเผื่อขาดในเรื่องการแก้ไขรธน.นั่นเอง กลัวว่าจะถูกขัดขวางไม่ให้มีการโหวตในสภา สรุปก็คือ เพื่อปกป้องประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้นเอง ล่าสุด ร่างแก้ไขรธน. ก็ผ่านไปได้ทั้งสองประเด็น นั่นคือ ม.190 ผ่านด้วยคะแนน 397 ต่อ 19 ส่วนมาตรา 93-98 ผ่านด้วยคะแนน 347 ต่อ 37

00 พิสูจน์กันได้ชัดว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯเป้าหมายเพื่อกดดันให้รัฐบาลปกป้องอธิปไตยของชาติ เพราะที่ผ่านมาได้วางเฉยปล่อยปละละเลยมาตลอด แต่ในที่สุดเมื่อความจริงถูกเปิดโปงก็ลุกลี้ลุกลน “เล่นปาหี่” ตบตาชาวบ้าน แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อเกมของฝ่ายกัมพูชา ที่กำลังลากเอามหาอำนาจเข้ามาแทรกแซง เวลานี้ลักษณะเหมือนไทย “หัวเดียวกระเทียมลีบ” โดดเดี่ยวในเวทีนานาชาติ สาเหตุเป็นเพราะทั้ง “ผู้นำอ่อนแอ” รมว.ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ ไร้วุฒิภาวะ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ไม่น่าไว้วางใจ ขณะที่ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีภาพลักษณ์เป็น “เสี่ย” นักธุรกิจ ดูแล้วไม่สมชายชาติทหาร ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น !!
กษิต ภิรมย์
สุเทพ เทือกสุบรรณ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กำลังโหลดความคิดเห็น