นายกฯ อ้างเศรษฐกิจฟื้นตัวแน่ หลังเลือกตั้งใหม่ หวังผลแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายกฯ เป็นประธานเปิดประชุม The Asean Forum พร้อมหนุนความร่วมมือทางการค้ากับนักลงทุนจากทั่วโลก มั่นใจประเทศไทยจะก้าวไปสู่การค้าระดับโลก ยันเลือกตั้งแน่เมื่อทุกอย่างพร้อม เพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้านนักลงทุนต่างชาติเชื่อศักยภาพการลงทุนในประเทศไทย

วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา เวลา 08.00 น. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม The Asean Forum พร้อมกล่าวเปิดงานสัมมนาแก่บริษัทชั้นนำทางด้านการเงินการลงทุนจากทั่วโลกกว่า 40 บริษัท และเปิดโอกาสให้ตัวแทนจาก 13 บริษัทชั้นนำเข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียน เป็นศูนย์กลางการเติบโต และเป็นประตูสู่ภูมิภาค ประเทศไทยยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศและบริษัทคู่ค้าจากต่างประเทศ และพร้อมที่จะสนับสนุนความร่วมมือทางการค้า ซึ่งความพยายามที่ผ่านมาในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและสภาพแวดล้อมที่เอื้อการลงทุน ทำให้ประเทศไทยมีระบบศรษฐกิจที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและให้ผลกำไรสูง นอกจากนี้ ปริมาณการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ในปี 2553 ได้เพิ่มขึ้นถึง 97% หลังจากที่เศรษฐกิจของไทยชะลอตัวในช่วงสองปีก่อนหน้านั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จากการได้ร่วมประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นโอกาสดีสำหรับประเทศไทยที่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งรัฐบาลหวังให้ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและผู้นำทางธุรกิจที่มีความสามารถจะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่สิ่งแวดล้อมสำหรับการค้าระดับโลก ได้ภายในอนาคตอันใกล้นี้

สำหรับประเด็นเรื่องการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ก็จะจัดให้มีการเลือกตั้ง เป้าหมายคือ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการพิจารณาวาระสุดท้ายในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังสร้างเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง เป็นเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และจะเติบโตอย่างแข็งแรง และยังได้เชิญชวนให้ทุกฝ่ายเข้ามามีความส่วนร่วมกับความเติบโตดังกล่าว

ภายหลังการเปิดการประชุม "The Asean Forum" นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนนักลงทุนจาก 13 บริษัทชั้นนำทางการลงทุนและวานิชธนกิจ เข้าพบเพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสภาพแวดล้อมและความน่าลงทุนของประเทศไทยในอนาคต จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เเปิดโอกาสให้นักลงทุนซักถามเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ภายหลังการหารือ ตัวแทนนักลงทุนต่างชาติต่างแสดงความมั่นใจในศักยภาพทางการลงทุนของประเทศไทยในอนาคตและการลงทุนในอาเซียน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน ซึ่งระหว่างการประชุมสภา นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมคณะติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศไทย