xs
xsm
sm
md
lg

รบ.โยน ตร.ไล่ พธม.จ่อฟ้องนานาชาติแขมร์ยิงก่อน รับ “มาร์ค” ยังกั๊กลงพื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
โฆษกรัฐ ชี้ใช้ พ.ร.บ.มั่นคง 7 เขต กันปัญหาหากไม่ควบคุม โยนตำรวจไล่ม็อบ เผย “กษิต-ประวิตร” เล่าเหตุปะทะให้ฟัง เล็งส่งหลักฐานเขมรยิงก่อนแจงนานาชาติ คาดบ่ายนี้ 2 ชาติจะคุยกัน ยันสถานการณ์ดีขึ้น ยูเอ็นแค่ห่วง ยังไม่จุ้น ขณะ “มาร์ค” ดูอยู่ลงพื้นที่หรือไม่ ยันปฏิบัติต่อเพื่อนบ้านตามหลักสากล ไม่คอนเฟิร์ม “ฮุน มาเนตร” เจ็บ ติง พธม.จะไปศรีสะเกษ เป็นพื้นที่อัยการศึก

วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมครม.มีมติประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักรหมวด 2 มาบังคับในเขตพื้นที่ทั้งหมด 7 เขต ประกอบด้วย เขตดุสิต ป้อมปราบ ปทุมวัน วังทองหลาง วัฒนา ราชเทวี และพระนคร ตั้งวันที่ 9-23 ก.พ.โดยเป็นไปตามการประเมินในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ศอ.รส.ขึ้นมา ส่วนที่ต้องมีการประกาศไปถึงเขตวังทองหลางนั้น เพื่อดูในพื้นที่สำคัญ และที่ผ่านมา ทางด้านการข่าวพบว่ามีบางกลุ่มไปเคลื่อนไหวในพื้นที่เหล่านั้น และถือเป็นพื้นที่เป้าหมาย เพราะมีสถานที่สำคัญ อาจจะทำให้เกิดปัญหาไม่มีการควบคุมตั้งแต่ต้น และเป็นการอนุมัติที่มีการเสนอมา ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนการดำเนินการให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่นั้น เมื่อ ศอ.รส ในเบื้องต้นจะมีการมอบหมายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในที่ประชุม ครม.ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันตั้งแต่วันแรกโดยละเอียด ในการเคลื่อนไหว ในลักษณะที่เป็นการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชาเข้ามายังฝั่งไทย โดยมีหลักฐานชัดเจนว่า มีการยิงก่อน โดยใช้อาวุธหนักหลายอย่าง รวมถึงหลักฐานภาพถ่าย ภายการบันทึกเทปขอโทรทัศน์สถานีต่างๆ ที่ทางกองทัพมี ซึ่งจะได้มีการทยอยส่งชี้แจงไปยังนานาชาติ โดยกระทรวงกลาโหม จะส่งหลักฐานทั้งหมดให้กระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเองก็ยืนยันว่า การทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ทำคู่ขนานมาโดยตลอด เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนพร้อมที่จะเดินหน้าชี้แจงแก่นานาชาติในทุกกรณี

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางสหประชาชาติกำลังดำเนินการการพิจารณาการแก้ปัญหาของไทยกับกัมพูชา ขณะที่ท่าทีของสหประชาชาติ ก็จะคอยดูความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของไทยตามกรอบอาเซียน และในช่วงบ่าย รัฐมนตรีการต่างประเทศของไทย และของกัมพูชาจะมีการหารือกัน เพื่อพิจารณาในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และประสานงาน ขณะนี้สหประชาชาติยังไม่มีท่าทีเป็นอย่างอื่น เพียงแค่แสดงความเป็นกังวล รวมทั้งให้ไทย และกัมพูชาร่วมกันแก้ปัญหาก่อน และประสานงานกับอาเซียน ขณะที่ ครม.ได้รับทราบแนวโน้มสถานการณ์ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะลงพื้นที่หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ เหลือแต่รอให้ฝ่ายความมั่นประเมินว่า มีความพร้อม จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้มีความแจ้งก่อนแล้วว่า นายกฯ มีประสงค์ที่จะลงพื้นที่ และหากความขัดแย้งถูกขึ้นนำสู่เวทีสหประชาชาตินั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ไม่เป็นกังวลกับการดำเนินการของกัมพูชาที่ร้องเรียนไปก่อน เพราะโดยหลักปฏิบัติแล้วคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต้องรอฟังจากไทยด้วย ในทางกลับกัน ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการร้องเรียนอย่างรวดเร็วในขณะที่มีการโจมตี เหมือนกับว่ามีการเตรียมการไว้ก่อน และเป็นข้อสังเกตที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติรับทราบแล้ว

เมื่อถามว่า หากใช้แสนยานุภาพทางกองทัพอากาศ ถล่มกัมพูชาบนเขาพระวิหาร เนื่องจากได้เปรียบกว่า นายปณิธาน กล่าวว่า การป้องกันตนเองถือเป็นหลักสากล แต่ต้องอยู่ในกรอบ และมีความเหมาะสม กับการถูกคุกคาม หรือถูกโจมตี ต่อการปฏิบัติต่อเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักสากลสมเหตุสมผล และเป็นปัจจัยสำคัญที่ต่างชาติดูว่าเป็นการป้องกันอยู่ในกรอบหรือไม่ การอาวุธที่มีศักยภาพสูงกว่าในการป้องกันตนเอง จะทำให้เกิดปัญหามาก ซึ่งส่วนได้มีการชี้แจงที่ชัดเจน ว่าการโต้ตอบที่สอดคล้องกับการถูกโจมตีจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด แลได้รับการยอมรับในหลักนิยมป้องกันตนเอง

นายปณิธาน กล่าวต่อถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า บุตรชายของ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะนั้น ไม่สามารถยืนยันได้ แต่ที่สามารถยืนยันได้ คือ ขณะนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว แต่โดยปกติแล้ว สายบังคับบัญชาในพื้นที่จะอยู่ห่างจากพื้นที่ในการสู้รบพอสมควร เป็นหลักการของทหารอยู่แล้ว ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากเหตุการณ์ยังไม่ยุติ ขณะเดียวกันกรณีการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตยรัฐบาลพร้อมที่จะฟังความคิดเห็นและร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล ในส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตร ประกาศที่จะเคลื่อนขบวนไปยัง จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 11 ก.พ.นั้น พื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศกฎอัยการศึกอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น