“มาร์ค” เสียใจไทยสูญเสียจากเหตุปะทะเขมร มอบบัวแก้วแจงนานาชาติ-ยูเอ็น

“มาร์ค” เผยรัฐบาลหนุนกองทัพปกป้องอธิปไตย เสียใจเหตุปะทะไทย-เขมรทำคนไทยสูญเสีย วอนประชาชนสามัคคีร่วมเป็นหนึ่งเดียว มอบบัวแก้วแจงนานาชาติ และสหประชาชาติ พร้อมเรียกทูตเขมรรับหนังสือประท้วงจากไทย ขณะเดียวกันสั่ง “สุวิทย์” ย้ำจุดยืนไทยต่อคณะกรรมการมรดกโลก ในการชะลอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง และด้านการต่างประเทศ อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ภายหลังจากมีการยิงปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่าเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชากองทัพได้ดำเนินการตอบโต้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทยโดยไม่ได้รุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาก่อน ซึ่งปฏิบัติการที่ดำเนินการเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) รัฐบาลให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ และจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการดำเนินการที่สมควรแก่เหตุในการปกป้องอธิปไตย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้กำชับ รมว.มหาดไทยและหน่วยงานด้านการปกครองให้กำชับจังหวัดใกล้เคียงดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ พร้อมยืนยันกองทัพมีแผนการรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้เกิดความสูญเสีย จึงจำเป็นที่จะต้องตอบโต้ทางการทหาร ยืนยันไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประชาชนกัมพูชา นอกจากนี้ขอให้ประชาชนมีความสามัคคีรวมใจเป็นหนึ่งเดียว สนับสนุนกองทัพในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ซึ่งกองทัพและรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพทั้งแนวคิดและหลักปฏิบัติ พร้อมกันนี้ได้ขอบคุณประชาชนที่ห่วงใยกองทัพ รวมถึงประชาชนตามแนวชายแดน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ จะแถลงการณ์ให้ประชาคมโลกรับทราบและจะชี้แจงต่อเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ในส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี รวมถึงคณะกรรมการมรดกโลก ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น และในส่วนของคณะกรรมการมรดกโลกก็จะชี้แจงให้เห็นว่าพื้นที่ปราสาทพระวิหารมีความละเอียดอ่อน จึงไม่สมควรดำเนินการที่จะก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยง นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังกัมพูชา ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในวิถีที่สามารถตกลงกันได้

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า รัฐบาลยังยืนยันในจุดยืนเดิม คือไม่มีนโยบายรุกรานใครก่อนเว้นเสียแต่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกกระทำจากนั้นถึงจะตอบโต้ตามกระบวนการที่สมควรแก่เหตุและการตอบโต้จะดำเนินการเฉพาะในส่วนของพื้นที่ทหารเท่านั้นเพื่อป้องกันการสูญเสียของพลเรือน การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทยเท่านั้น

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศทำความเข้าใจกับนานาชาติทั้งในส่วนของทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทยโดยเฉพาะกัมพูชา ซึ่งเรียกเข้ามารับหนังสือตามขั้นตอนต่อไป รวมไปถึงการชี้แจงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประเทศในกลุ่มสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก สำหรับในส่วนของกองทัพบกได้ยืนยันว่ากองทัพมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยไทยและประชาชนในพื้นที่ เช่นเดียวกับได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานฝ่ายปกครองเข้าไปดูแลประสานงานกับประชาชนเพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาเดือดร้อนอย่างไร โดยได้รับทราบนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เตรียมลงพื้นที่เร็วๆนี้

นายปณิธานกล่าวว่า การเชิญนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้ามาร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงก็เพื่อต้องการให้ทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับการดำเนินการชี้แจงให้สมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกให้ทราบต่อไป เนื่องจากกำลังจะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งในส่วนของไทยยังยืนยันเหมือนเดิมว่าควรชะลอการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้ก่อนจนกว่าการดำเนินการตามกระบวนการของเอ็มโอยู 2543 และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หรือ เจบีซีจะแล้วเสร็จ

“แม้ว่าจะมีสถานการณ์การสู้รบเกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาตรงปราสาทเขาพระวิหาร แต่เชื่อว่าปีนี้เป็นที่เป็นความสัมพันธ์ทางการทูตของสองประเทศจะครบรอบ 60 ปี จะไม่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภาพรวมเกิดปัญหา”