“สนธิ” ยันข่าวร่วมวางแผนปฏิวัติไร้มูลความจริง อย่าไปเชื่อ “คางคก” พูด ชี้หากทำจริงสันติบาลตามอยู่ทุกวันคงรู้แล้ว สอน “มาร์ค” ถ้าเป็นนายกฯ ที่เข้มแข็ง ต้องฉวยโอกาสไทย-เขมรเปิดสงคราม สั่งกองทัพยึดถึงเสียมราฐ พระตะบอง สร้างความได้เปรียบก่อนขึ้นโต๊ะเจจรา เอานครวัดแลกปราสาทพระวิหาร พร้อมยกเลิกแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ใช้สันปันน้ำแทน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 7 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” โดยได้กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง และส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย อ้างว่านายสนธิเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมวางแผนการทำรัฐประหารว่า ตนไม่รู้จะพูดยังไง เพราะไม่เคยฟังคนที่ไม่ใช่มนุษย์พูด เรื่องนี้ไม่มีพื้นฐานอะไรที่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว เพราะทุกวันตนเดินทางจากบ้านมาที่เวที และจากเวทีไปที่บ้าน แล้วก็มีตำรวจสันติบาลที่ติดตามอยู่ก็น่าจะรู้ เพราะดักฟังติดตามอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นอย่าไปฟัง เสียใจแต่ว่าเขาไม่จัดการเสียที ถ้าให้ตนเข้าไป จะกวาดล้างให้ดูว่าวิธีจัดการกับคางคกเขาทำกันอย่างไร
นายสนธิกล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปี 2549 ที่ตนพูดเรื่องน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่นักการเมืองจะไปแบ่งปันผลประโยชน์กับเขมร วันนี้เริ่มเป้นความจริงแล้ว เช่นเดียวกับกรณีการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ที่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศไปเซ็นไว้ โดยไม่คัดค้านกัมพูชา และไม่ได้ขอจดทะเบียนร่วมโดยเอาพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ขึ้นทะเบียนเป็นของไทย ตามที่พวกเราเสนอ แสดงว่าเผ็นแผนการที่เดินหน้าต่อมาเรื่อยๆ
ที่น่าสนใจคือ นายนพดลนั้นเป็นคนรับใช้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีวาระซ่อนเร้นกับนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา และน่าเจ็บใจที่พรรคประชาธิปัตย์ที่เราคิดว่าจะรักชาติรักแผ่นดินกลับไปสวมตอ ต่อยอดผลประโยชน์ทางทะเลที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำไว้ แล้วตอนนี้มีคนรับผลประโยชน์ไปแล้ว หลายพันล้าน เพื่อจะยอมให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาและให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 เพื่อให้นายฮุนเซนพอใจ แล้วแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลให้
นอกจากนิ้ เมื่อดูคณะกรรมการมรดกโลก หากตัดเบลเยียม ไทย และกัมพูชาออกไป ล้วนเป็นประเทศที่ใช้นำมันเป็นปริมาณมาก และมีบริษัทน้ำมันเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา เมื่อเราดูภาพตรงนี้แล้วจะเห็นชัดว่า ทรัพยากรที่เป็นของของคนไทยกำลังจะถูกฉกฉวยไปโดยนักการเมืองชั่ว
นายสนธิกล่าวต่อว่า สาเหตุที่ไทยกับกัมพูชาต้องรบกันทำให้ทหารไทยต้องตายในวันนี้ เป็นเพราะเจ้านายมีผลประโยชน์ ทำให้การตัดสินใจไม่เด็ดขาด ทหารบางคนมีโควตาส่งออกน้ำมันไปเขมรเดือนละ 5-6 หมื่นลิตร บางคนก็มีเมียส่งมาม่า น้ำตาล ข้าวของ ไปขายที่ชายแดน บางคนก็มีลูกน้องค้าขาย ทหารพวกนี้เห็นแก่ประโยชน์เล็กน้อยโดยเอาชาติไปแลก โดยที่ผู้บริหารบ้านเมืองก็มองไม่เห็น
นายสนธิกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้นไม่ได้ขี้ขลาด เป็นคนกล้า แต่กล้าที่จะหลอกประชาชน และโกหกได้ทุกวัน กล้าทำร้าย 7 คนไทยที่อยู่บนแผ่นดินไทย และกล้าทำร้ายอีก 2 คนที่เหลือ คนไทยที่บุกรุกดินแดนเขมรมีแต่ไอ้กี้ร์ (นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง) เท่านั้น ทำไมไม่จับไปขึ้นศาล
นายสนธิกล่าวว่า ถ้าเรามีนายกฯ ที่เข้มแข็ง เมื่อมีการทำสงคราม ก่อนจะเจรจาเราต้องทำให้เราได้เปรียบก่อน แค่นี้นายกฯ ก็คิดไม่เป็น เราทำนายล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดสงครามยืดเยื้อ และมีแนวโน้มรุนแรงต่อไป เพราะนายฮุนเซนให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอายุ 33 ปี มาบัญชาการรบ
นายกฯ คนนี้พูดมาตลอดว่าจะว่ายึดหลักสันปันน้ำ แต่ปล่อยให้เขมรใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตลอด นี่คืนายกฯ ที่อ่อนแอ ถ้าเข้มแข็ง ต้องสั่งกอทัพผลักดันทหารเขมรที่อยู่ในเขตไทยออกไป ถ้ายังประจันหน้ากันอยู่ก็ให้อยู่อย่างนั้นก่อน แต่ถ้ายิงกันแบบนี้ต้องถือโอกาสยึดความได้เปรียบก่อนการนั่งโต๊ะเจรจา และให้โอกาสกองทัพอากาศได้แสดงแสนยานุภาพ ถ้าอย่างนี้ นายฮุนเซนต้องเรียกลูกชายกลับ และถ้าเรารุก เขมรคงจะฟ้องไปทั่วโลก แต่มันยิ่งฟ้องเรายิ่งรุก ยึดไปถึงพระตะบอง เสียมราฐ ยึดนครวัตรไปเลย ส่วนกองทัพเรือก็เอาไปล้มเกาะกงเลย แนวคิดแบบนี้นักวิชาการกลุ่มหนึ่งจะหาว่าเราคลั่งชาติ แต่ถ้าบรรพบุรุษของเราไม่ใช่วิธีคิดแบบนี้ ก็คงไม่มีนักวิชาการพวกนี้มานั่งสุมหัวกัน
เมื่อเรายึดได้แล้ว พอมานั่งโต๊ะเจรจา จีนในฐานะพี่เบิ้มและอาเซียนก็มาเป็นตัวกลางเจรจา เราก็ถือโอกาส เอาเสียมราฐ ศรีโสภณ พระตะบอง ไปต่อรองให้เขมรคืนปราสาทพระวิหารและยกเลิกแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ให้ใช้สันปันน้ำแทน ไม่งั้นเราจะไม่คืนเสียมราฐ หรือนครวัดให้
นายสนธิกล่าวว่า ในปฏิบัติการทางทหารนั้น อย่าเอาวิธีการแบบการทูตไปใช้ เราต้องทำให้เราได้เปรียบที่สุดก่อนการเจรจา เราไม่ได้รบกับจีนหรือเวียดนาม แต่รบกับเขมร ที่ไม่มีเรือรบสักลำ ในเมื่อเรามีแสนยานุภาพเหนือกว่า ถึงเวลาจำเป็นต้องใช้ เราก็ต้องใช้
ใครที่ว่าเราคลั่งสงคราม พี่น้องที่นั่งอยู่ในนี้ไม่มีใครอยากให้ลูกหลานของตัวเองต้องไปตาย แต่คนเราถ้าตายหนักอย่างขุนเขา ตายเพื่อปกป้องแผ่นดินก็คุ้มที่จะตาย ปัญหาของเรา เรามีทหาร 3 แสนนาย อาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่าเขมร แต่ขาดที่ใจเราไม่มี เพราะว่าผู้ใหญ่ในกองทัพ ไปรับใช้นักการเมืองชั่วๆ วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ใช่ทหาร แต่เป็นนักการเมือง พุดอะไรก็มีผลประโยชน์ทางการเมืองมาแทรก
นายสนธิกล่าวต่อว่า ทหารต้องเอาชาติ-ราชบัลลังก์ เป็นหลัก ไม่ใช่เอา พล.อ.ประวิตรเป็นหลัก เพราะไม่มีอะไรสำคัญกว่าชาติและในหลวงกับพระราชินีอีกแล้ว ถ้าทหารอ่อนแอเพราะมีทหารนักการเมืองมาคุม แล้วแอบคุยกับนายฮุนเซน ทหารพวกนี้เป็นอันตรายต่อชาติและราชบัลลังก์ ไม่ต่างจากพวกซ้ายจัดที่คิดล้มราชบัลลังก์ เพราะถ้าคนพวกนี้สมคบกับเขมร ทำลายเกียรติยศของทหาร ยกดินแดนให้เขมร ก็อันตรายต่อราชบับลังเหมือนกัน
“เรามาชุมนุมที่นี่ไม่ได้เรียกร้องให้ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ ไม่ใช่ให้หมอเหวงได้ประกันตัว แต่เรามาเพื่อปกป้องไม่ให้ประเทศเสียดินแดน แล้วพี่น้องที่รักชาติรักแผ่นดินมาสู้ไม่ให้เสียดินแดนมันผิดตรงไหน แล้วนักากรเมืองชั่วๆ สัตว์นรกทั้งลหาย มันมีใครไหมที่มาแสดงจุดยืนเรื่องดินแดนว่ายังไงบ้าง นอกจากทำลายชาติบ้านเมือง และทำมาหารับประทานกับแผ่นดินไทย วันนี้มันถึงบทพิสูจน์แล้วว่า นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหน เหลี่ยมหรือหล่อ ก็ชั่วทั้งสิ้น” นายสนธิกล่าว